ของแท้!!! 20 สุดยอดแข้งพรีเมียร์ลีก
Posted 16/04/2013 by ไทยรัฐ
ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา มีนักเตะมากหน้าหลายตาเวียนว่ายอยู่ในแวดวงลูกหนังเมืองผู้ดี อังกฤษ โดยเฉพาะศึกพรีเมียร์ลีก ที่แฟนบอลทั่วโลกคลั่งไคล้ และไม่ว่าจะเป็นทีมเล็กทีมใหญ่ ล้วนก่อกำเนิดดาราแข้งทองมากมาย และนี่ถือเป็นการรวบรวมสุดยอด 20 นักเตะฝีเท้าระดับพระกาฬ ที่ทุกทีมต่างต้องการตัวไว้เป็นส่วนหนึ่งของทีมกันทั้งนั้น เพราะนี่คือนักเตะที่สามารถเปลี่ยนแปลงผลการแข่งขันของคุณได้อย่างแน่นอน...
20.โจ ฮาร์ท (แมนเชสเตอร์ ซิตี้-อังกฤษ)
จอม หนึบ วัย 25 ปี ที่กลายเป็นเสาหลักของทั้งฝูงเรือใบสีฟ้า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และทัพสิงโตคำราม อังกฤษ เพราะถ้าไม่เจ็บ เขาคือหมายเลข 1 ของทั้งสโมสรและทีมชาติแบบไร้คู่แข่งในขณะนี้ ด้วยความสามารถในการป้องกันประตูอันโดดเด่น น่าจะทำให้เขาลงเฝ้าเสาไปอีกนานเท่านาน เพราะอายุยังน้อย และตำแหน่งนายทวารนี้ สามารถเล่นได้มากกว่าตำแหน่งอื่นอีกด้วย เพราะถึงตอนนี้ เขาลงเล่นให้ทีมเรือใบไปแล้ว 208 นัด นับตั้งแต่ย้ายมาร่วมทีมเมื่อฤดูกาล 2006-07 แต่ช่วงแรกก็ถูกปล่อยให้ทีมเล็กๆ ยืมตัวไปหลายทีม ส่วนทีมสิงโตคำราม ลงเล่นไปแล้ว 30 นัดพอดี
19.บาการี ซานญา (อาร์เซนอล-ฝรั่งเศส)
แบ็ก ขวาผิวสี วัย 30 ปี ถูกยกให้เป็นหนึ่งในแบ็กขวาดีที่สุดของพรีเมียร์ลีก ด้วยฟอร์มอันคงเส้นคงวายามลงสนาม เขาคือผู้ปิดทองหลังพระของทีมอย่างแท้จริง โดยเจ้าของทรงผมขัดใจแม่รายนี้ ย้ายจากทีมโอแซร์ในลีกเอิง ฝรั่งเศส มาอยู่กับทีมปืนใหญ่ เมื่อฤดูกาล 2007-08 ซึ่งได้ลงสนามอย่างสม่ำเสมอ จนถึงตอนนี้ลงสนามไปแล้ว 226 นัด ทำ 4 ประตู นอกจากนี้ยังได้ติดทีมชาติฝรั่งเศสตั้งแต่ปี 2007 จนถึงปัจจุบัน 33 นัด เข้าไปแล้ว
18.ดิมิตาร์ เบอร์บาตอฟ (ฟูแลม-บัลแกเรีย)
ดาว ยิงหน้าหยกวัย 32 ปี ผู้หลงใหลในกลิ่นสาบลูกหนังเมืองผู้ดีจนไม่อยากจะย้ายไปไหนแล้ว หลังจากก่อนหน้านี้ได้สร้างชื่อเสียงโด่งดังกับทีมสเปอร์ส (102 นัด ทำ 46 ประตู) และทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (149 นัด ทำ 56 ประตู) ซึ่งล่าสุดกำลังล่าตาข่ายให้กับทีมฟูแลม โดยลงสนามไป 26 นัด ทำ 11 ประตู หากไม่เจ็บ มีชื่อเป็นตัวจริงของฟูแลมทุกนัดแน่นอน ส่วนในนามทีมชาติ เขาประกาศเลิกเล่นให้บัลแกเรียไปแล้วตั้งแต่ปี 2010 หลังจากลงเล่น 77 นัด ทำ 48 ประตู
17.เกล็น จอห์นสัน (ลิเวอร์พูล-อังกฤษ)
แบ็ก ขวาผิวสี วัย 28 ปี กลายเป็นกำลังสำคัญของทีมหงส์แดง ลิเวอร์พูล ทั้งเกมรับและเกมรุก เพราะจังหวะลากตะลุยจากริมเส้นฝั่งขวาขึ้นไปเติมเกมรุกให้ทีมมีความโดดเด่น มาก จึงเป็นตัวหลักที่ทีมขาดไม่ได้ เพราะเป็นกองหลังที่สามารถหาโอกาสทำประตูได้ดีคนหนึ่ง ซึ่งนับตั้งแต่ย้ายมาในฤดูกาล 2009-10 ลงเล่นไปแล้ว 135 นัด ทำ 8 ประตู ขณะที่ทีมชาติอังกฤษ ก็ยึดตำแหน่งตัวจริงได้แล้ว โดยตั้งแต่ปี 2003 ถึงปัจจุบัน รับใช้ชาติไปแล้ว 47 นัด ทำ 1 ประตู
16.ราฟาเอล ดา ซิลวา (แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด-บราซิล)
แบ็ก ขวาดาวรุ่งพุ่งแรง วัย 22 ปี ที่กำลังกลายเป็นตัวหลักของทีมปิศาจแดง เพราะโดดเด่นทั้งเกมรับและเกมรุก โดยย้ายมายังถิ่นโอลด์ แทรฟเฟิร์ด เมื่อฤดูกาล 2008-09 จนถึงปัจจุบัน ลงเล่นไปแล้ว 123 นัด ทำ 5 ประตู นอกจากนี้ยังมีโอกาสติดทีมชาติบราซิลชุดใหญ่ไปแล้ว 2 นัด ซึ่งในอนาคตกองหลังแซมบ้ารายนี้จะเป็นตัวหลักในทีมปิศาจแดงและทีมชาติได้ อย่างแน่นอน
15.คลินท์ เดมป์ซีย์ (ทอตแนม ฮอตสเปอร์-สหรัฐอเมริกา)
นัก เตะสารพัดประโยชน์ วัย 30 ปี เล่นได้ทั้งกองกลางตัวรุกและกองหน้า ด้วยสถิติการทำประตูได้บ่งบอกอยู่แล้วว่า เขาเป็นนักเตะคนสำคัญของทั้งสโมสรและทีมชาติอย่างแน่นอน โดยล่าสุดเขาย้ายจากทีมฟูแลม (225 นัด ทำ 60 ประตู) มาอยู่กับสเปอร์ส ในฤดูกาลนี้ ลงเล่นไปแล้ว 33 นัด ทำ 8 ประตู และกลายเป็นตัวหลักไปแล้ว ส่วนในทีมชาติเขาลงเล่นให้ตั้งแต่ปี 2004 จนถึงปัจจุบัน 94 นัด ทำ 32 ประตู ซึ่งเป็นสถิติที่น่าทึ่งอย่างแท้จริง
14.โธมัส แฟร์มาเลน (อาร์เซนอล-เบลเยียม)
เซ็น เตอร์ฮาล์ฟทีมชาติเบลเยียม วัย 27 ปี ถูกยกให้เป็นกองหลังดีที่สุดคนหนึ่งของยุโรป และเมื่อฤดูกาล 2009-10 เขาย้ายจากทีมอาแจกซ์ ในลีกกังหันลม มาอยู่กับอาร์เซนอล และกลายเป็นกำลังสำคัญของทีมปืนใหญ่ทันที โดยเฉพาะแนวรับที่มีความเหนียวแน่นมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งลงเล่นไปแล้ว 124 นัด ทำได้ 15 ประตู ส่วนทีมชาติ ลงเล่น 41 นัด ทำ 1 ประตู และมีโอกาสเพิ่มสถิติให้มากขึ้นเรื่อยๆ เพราะยังเล่นได้อีกหลายปี
13.ธีโอ วัลคอตต์ (อาร์เซนอล-อังกฤษ)
ปีก ผิวสี วัย 24 ปี ที่มักจะถูกอาการเจ็บเล่นงานในจังหวะที่ฟอร์มกำลังพุ่งแรงเกือบทุกครั้ง ทำให้พลาดโอกาสการแจ้งเกิดอย่างจริงจังในช่วงหลายปีที่ผ่านมา แต่ด้วยศักยภาพของเขาเอง สามารถเป็นตัวความหวังของทีมได้ตลอด โดยย้ายจากทีมเซาแธมป์ตันมาอยู่กับทีมอาร์เซนอล ตั้งแต่ฤดูกาล 2006-07 ลงเล่น 257 นัด ทำได้ 61 ประตู ส่วนทีมชาติอังกฤษ ลงเล่น 31 นัด ทำ 4 ประตู แต่ยังยึดตำแหน่งตัวจริงไม่ได้เสียที เพราะเดี๋ยวดีเดี๋ยวเจ็บนั่นเอง
12.คริสเตียน เบนเตเก (แอสตัน วิลลา-เบลเยียม)
ดาว ยิงผิวสี วัย 22 ปี สามารถแจ้งเกิดในศึกพรีเมียร์ลีกจนได้ แม้ว่าสโมสรจะมีฟอร์มการเล่นที่ย่ำแย่ลงเรื่อยๆ ก็ตาม โดยเบนเตเก ย้ายมาจากทีมเกนค์เมื่อต้นปี 2012 มาอยู่กับวิลลา และลงสนามไปแล้ว 33 ทำ 18 ประตู โอกาสย้ายไปอยู่ทีมใหญ่กว่านี้มีค่อนข้างสูง ส่วนทีมชาติเบลเยียม ติดครั้งแรกในปี 2010 จนถึงปัจจุบัน ลงเล่น 13 นัด ทำ 4 ประตู
11.แว็งซองต์ กอมปานี (แมนเชสเตอร์ ซิตี้-เบลเยียม)
ปราการ หลังและกัปตันทีมแมนเชสเตอร์ ซิตี้ และทีมชาติเบลเยียม วัย 26 ปี ถูกยกให้เป็นกองหลังฝีเท้าดีติดอันดับโลกไปแล้ว โดยเขาเป็นหนึ่งในฟันเฟืองสำคัญที่นำทัพเรือใบสีฟ้าคว้าแชมป์พรีเมียร์ลี กได้เมื่อฤดูกาลก่อน หลังย้ายมาจากทีมฮัมบูร์กเมื่อฤดูกาล 2008-09 ซึ่งจนถึงปัจจุบัน ลงสนามไปแล้ว 192 นัด ทำ 7 ประตู ส่วนทีมชาติ ติดมาตั้งแต่ปี 2004 จนถึงปัจจุบัน เล่น 52 นัด ทำ 4 ประตู หากเขายังอยู่ในถิ่นเอติฮัดต่อไป โอกาสที่จะนำความสำเร็จมาสู่ทีมก็ยังมีอยู่เรื่อยๆ แน่นอน
10.พาโบล ซาบาเลตา (แมนเชสเตอร์ ซิตี้-อาร์เจนตินา)
กอง หลังสารพัดตำแหน่งของทีมเรือใบสีฟ้า วัย 28 ปี ที่บางครั้งถูกดันขึ้นไปเล่นกองกลางตัวรับ ก็ทำหน้าที่ได้ดีไม่แพ้กัน ซึ่งเขาก็เป็นหนึ่งในทีมชุดแชมป์พรีเมียร์ลีกเมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าของทีม เพราะย้ายมาจากทีมเอสปันญอล ในศึกลา ลีกา สเปน เมื่อฤดูกาล 2008-09 ในราคาไม่แพงนัก และเป็นกำลังสำคัญมาถึงปัจจุบัน โดยเขาลงเล่นไปแล้ว 175 นัด ทำ 8 ประตู ขณะที่การรับใช้ทีมฟ้าขาว อาร์เจนตินา ตั้งแต่ปี 2004 ถึงปัจจุบัน ก็ลงเล่นทั้งสิ้น 24 นัด
9.มารูน เฟลไลนี (เอฟเวอร์ตัน-เบลเยียม)
กอง กลางหัวฟู วัย 25 ปี ที่มีเอกลักษณ์อันโดดเด่นเฉพาะตัว รวมทั้งฝีเท้าที่กำลังดีวันดีคืน จนไม่น่าจะอยู่ในถิ่นกูดิสัน พาร์ค ได้นานแน่ๆ เพราะทีมยักษ์ใหญ่ในยุโรปหลายทีมล้วนจ้องตาเป็นมันที่จะคว้าตัวเขาไปอยู่ ด้วย หลังจากโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา นับตั้งแต่ย้ายจากทีมสตองดาร์ด ลีแอช มาอยู่กับทีมทอฟฟี่สีน้ำเงิน เมื่อฤดูกาล 2008-09 และจนถึงปัจจุบัน ลงเล่นไป 166 นัด ทำ 32 ประตู ส่วนทีมชาติ ลงเล่นไปแล้ว 40 นัด ทำ 5 ประตู ถ้าฤดูกาลหน้าย้ายทีม ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกเลย
8.คาร์ลอส เตเบซ (แมนเชสเตอร์ ซิตี้-อาร์เจนตินา)
กอง หน้าทีมชาติอาร์เจนตินา วัย 29 ปี กลายเป็นนักเตะคนแรกที่ได้แชมป์พรีเมียร์ลีก อังกฤษ กับทั้งแมนเชสเตอร์ ซิตี้ (133 นัด ทำ 71 ประตู) และแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (99 นัด ทำ 34 ประตู) ส่วนทีมชาติ ได้ร่วมครั้งแรกตั้งแต่ปี 2004 จนถึงปัจจุบัน ลงเล่น 62 นัด ทำ 13 ประตู หากวันไหนเล่นเข้าฟอร์มเป็นยิงระเบิด สำหรับดาวยิงฟ้าขาวรายนี้
7.แอชลีย์ โคล (เชลซี-อังกฤษ)
แบ็ก ซ้ายผิวสี วัย 32 ปี ที่โชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมทั้งในระดับสโมสรและทีมชาติ แม้ก่อนหน้านี้จะมีปัญหาครอบครัว ถึงขนาดฟอร์มตกไปพักใหญ่ๆ แต่เขาก็สามารถพลิกชีวิตกลับมาประสบความสำเร็จบนเส้นทางลูกหนังอีกครั้ง โดยในฤดูกาล 2006-07 ช่วงที่เขาย้ายจากทีมอาร์เซนอล (228 นัด ทำ 9 ประตู) มาอยู่กับคู่แค้นอย่างทีมเชลซี (304 นัด ทำ 7 ประตู) สร้างความโกรธแค้นให้แฟนบอลปืนใหญ่มาจนถึงทุกวันนี้ ส่วนในทีมสิงโตคำราม เขาติดทีมชาตินัดที่ 101 ไปแล้ว ถือเป็นเกียรติประวัติสูงสุดในฐานะนักเตะอาชีพเลยทีเดียว ที่สามารถรับใช้ชาติเกิน 100 นัด
6.สตีเวน เจอร์ราร์ด (ลิเวอร์พูล-อังกฤษ)
กอง กลางและกัปตันทีม วัย 32 ปี ของทั้งหงส์แดง ลิเวอร์พูล และทีมชาติอังกฤษ มีผลงานโดดเด่นมาโดยตลอดการเป็นนักเตะอาชีพเลยก็ว่าได้ ย้อนกลับไปในฤดูกาล 1998-99 เป็นครั้งแรกที่เขามีโอกาสลงเล่นในทีมชุดใหญ่ของหงส์แดง จนกระทั่งถึงตอนนี้ ความรักเดียวใจเดียวทำให้เขาลงสนามไปแล้วถึง 625 นัด ทำ 159 ประตู ขณะที่ทีมชาติ ลงเล่น 102 นัด ทำ 19 ประตู ซึ่งมีไม่บ่อยนักที่จะมีนักเตะเล่นให้กับทีมเดียวและติดทีมชาติยาวนานขนาด นี้
5.เวย์น รูนีย์ (แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด-อังกฤษ)
ดาว ยิงวัย 27 ปี ที่ประสบความสำเร็จมากมายกับทีมปิศาจแดง หลังย้ายมาจากทีมเอฟเวอร์ตัน (77 นัด ทำ 17 ประตู) เมื่อฤดูกาล 2004-05 จนถึงปัจจุบัน ลงเล่นไปแล้วถึง 395 นัด ทำ 197 ประตู และติดทีมสิงโตคำราม 81 นัด ทำ 35 ประตู ซึ่งเป้าหมายของเขาไม่หยุดอยู่เพียงเท่านี้แน่นอน เพราะความกระหายในความสำเร็จยังมีอยู่อย่างเต็มเปี่ยมในตัวของเขา และถ้าปรารถนาความท้าทายใหม่ๆ ก็มีโอกาสย้ายทีมได้เหมือนกัน
4.แฟรงค์ แลมพาร์ด (เชลซี-อังกฤษ)
กอง กลางวัย 34 ปี ซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญในทีมเชลซีมานานหลายปี นับตั้งแต่ย้ายมาจากทีมเวสต์แฮม (187 นัด ทำ 39 ประตู) เมื่อฤดูกาล 2001-02 มาอยู่กับทีมสิงโตน้ำเงิน จนถึงปัจจุบัน ได้ลงสนามทั้งสิ้น 595 นัด ทำ 200 ประตู ซึ่งสถิติสวยหรูมากกว่ากองหน้าอีกหลายต่อหลายคนเลยทีเดียว ส่วนในทีมชาติที่ติดมาตั้งแต่ปี 1999 ลงเล่นไปแล้ว 95 นัด ทำ 28 ประตู โอกาสลงสนามเกิน 100 นัด อยู่ไม่ไกลแล้ว น่าจะมาถึงในเร็วๆ นี้
3.หลุยส์ ซัวเรซ (ลิเวอร์พูล-อุรุกวัย)
ดาว ยิงวัย 26 ปี สร้างชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลกในช่วงทำศึกฟุตบอลโลก 2010 รอบสุดท้าย ที่ประเทศแอฟริกาใต้ จนเป็นที่หมายปองของหลายทีมในยุโรป และในฤดูกาล 2010-11 ช่วงเดือนมกราคม ทีมลิเวอร์พูลได้ทุ่มเงินก้อนโตคว้าตัวเขามาจากทีมอาแจกซ์ (159 นัด ทำ 111 ประตู) ในลีกดัตช์ มาเสริมความคมในแดนหน้า ซึ่งกว่าจะปรับตัวได้ต้องรอถึงฤดูกาลต่อมา และจนถึงปัจจุบัน ลงเล่น 93 นัด ทำ 50 ประตู ซึ่งในฤดูกาลนี้มีลุ้นตำแหน่งดาวซัลโวพรีเมียร์ลีกสูงสุดอีกด้วย ส่วนทีมชาติอุรุกวัย ลงสนามไปแล้ว 62 นัด ทำ 31 ประตู
2.โรบิน ฟาน เพอร์ซี (แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด-ฮอลแลนด์)
ดาว ยิงวัย 29 ปี ที่เพิ่งย้ายจากทีมอาร์เซนอล (277 นัด ทำ 132 ประตู) มาอยู่กับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในฤดูกาลนี้ ก็มีโอกาสคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกแล้ว โดยในตอนนี้ลงเล่นให้ทีมปิศาจแดง 33 นัด ทำ 23 ประตู ขณะที่การรับใช้ทีมชาติฮอลแลนด์ ลงเล่น 74 นัด ทำ 34 ประตู เรียกว่าไม่ธรรมดาจริงๆ กับสถิติยิงประตูของดาวยิงชาวดัตช์รายนี้ และด้วยวัยขนาดนี้ มีความเป็นไปได้สูงที่เขาจะแขวนสตั๊ดในถิ่นโอลด์ แทรฟเฟิร์ด มากกว่าย้ายไปอยู่กับทีมอื่นในช่วงบั้นปลายชีวิตค้าแข้ง
1.เเกเร็ธ เบล (ทอตแนม ฮอตสเปอร์-เวลส์)
ปีก จรวดวัย 23 ปี ที่แจ้งเกิดมาจากแบ็กซ้ายธรรมดา จนถึงตอนนี้เขาคือปีกซ้ายที่ดีที่สุดคนหนึ่งในโลกไปแล้ว และกำลังถูกทีมยักษ์ใหญ่ในยุโรปตามล่าตัวอย่างไม่ลดละ โดยเมื่อฤดูกาล 2007-08 สเปอร์สไปคว้าตัวมาจากทีมเซาแธมป์ตัน (45 นัด ทำ 5 ประตู) ก่อนจะขัดเกลาฝีเท้าจนกล้าแกร่งเหมือนในปัจจุบัน ซึ่งลงเล่นให้ทีมไก่เดือยทองไปแล้ว 197 นัด ทำ 51 ประตู ส่วนทีมมังกรแดง เวลส์ เขาก็อาสาเล่นให้อย่างเต็มที่ โดยลงสนามไปแล้ว 41 นัด ทำ 11 ประตู ซึ่งเป้าหมายในอนาคตของเขาคือ การนำสโมสรและทีมชาติประสบความสำเร็จด้วยการคว้าแชมป์รายการใดรายการหนึ่งมา ครองให้ได้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
อาซาร์จวกแข้งเชลซีกลัวทัพเรือใบมากไป
เอแด็น อาซาร์ ปีกชาวเบลเยียม "สิงโตน้ำเงินคราม" เชลซี จวกเพื่อนร่วมทีมออกอาการกลัว "เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี้ มากไป ในเกมเอฟเอ คัพ รอบตัดเชือก ที่พวกเขาเป็นฝ่ายพ่ายไป 2-1 เมื่อวันอาทิตย์ โดยเฉพาะในครึ่งแรก และการที่มาเล่นดีขึ้นในครึ่งหลังก็ไม่ทันแล้วแฟร์มาเล่นเร้าแข้งปืนทุบทอฟฟี่รักษาฟอร์มเก่ง
โธมัส แฟร์มาเล่น เซนเตอร์แบ็ก "ปืนใหญ่" อาร์เซน่อล ยอมรับทีมจำเป็นต้องเอาชนะ "ทอฟฟี่สีน้ำเงิน" เอฟเวอร์ตัน ในเกมพรีเมียร์ลีก วันอังคารนี้ให้ได้ เพื่อรักษาอันดับ 3 ของตารางคะแนน รวมถึงแรงเหวี่ยงฟอร์มการเล่นของทีมไปตลอดช่วงไม่กี่เกมที่เหลือนี้ด้วยเบนิเตซเผยสิงห์ยังไม่มีโคลเกมฟัดเจ้าสัว
ราฟาเอล เบนิเตซ กุนซือขัดตาทัพของ "สิงโตน้ำเงินคราม" เชลซี ยืนยันพวกเขาจะยังไม่มี แอชลี่ย์ โคล ลงประจำการในตำแหน่งแบ็กซ้ายในเกมที่จะพบกับ "เจ้าสัวน้อย" ฟูแล่ม ในวันพุธนี้ เนื่องจากยังไม่อยากเสี่ยงเร่งเจ้าตัวลงสนามจนเกิดอาการบาดเจ็บซ้ำอีกสิงห์เอาจริง!เพิ่มข้อเสนอ880ล.ขอซื้อชูร์เล่
สื่อเมืองเบียร์ปูดข่าว "สิงโตน้ำเงินคราม" เชลซี เอาจริงเพิ่มข้อเสนอขึ้นเป็น 880 ล้านบาทบวกกับการส่งเควิน เดอ บรุน ปีกสำรองล่อใจให้ "ห้างยา" ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น พิจารณาปล่อยอันเดร ชูร์เล่ กองกลางตัวรุกทีมชาติเยอรมนี มาค้าแข้งในสแตมฟอร์ด บริดจ์
TOP 5 ข่าวในรอบ 3 วัน
ห้ามทำตาม! อดีตแข้งอินเตอร์ เมาหยำเป,มีเซ็กซ์ไม่ป้องกัน
ทางการ! เอฟเอลงโทษแบนยาว เบนตานกูร์ เหยียด ซน ฮึง มิน
วิเคราะห์บอล บาเยิร์น พบ เอาก์สบวร์ก วันศุกร์ที่ 22 พ.ย. 67
ดีทั้งปัจจุบันและอนาคต!เด ลา ฟวนเต้ ลั่นวงการบอล สเปน กำลังอยู่ในช่วงรุ่ง
เพื่อนไม่ทิ้งกัน! เป๊ป เผยแพ้ 4 เกมติดเหตุผลต่อสัญญาใหม่ แมนซิตี้
อัลบั้มภาพเด็ดๆ
มาย ฮาเร็ม ส่งภาพเขย่าโซเชียล นุ...
เจนนี่ ธมนภัค พริตตี้สุดฮอต นุ่ง...
ฮาน่า ฮาอึน ชอง ดาว TikTok สาวสว...
นาฟ ฉัฐนันท์ ปล่อยแซ่บท้าลมหนาว ...
เต็มที่แล้ว! ไทย พ่าย อุซเบกิสถา...
ตัดเกรด นักเตะไทย เกมเสมอ โอมาน ...
คลิปไฮไลท์