เจสัน คอลลินส์ เซนเตอร์ วอชิงตัน วิซาร์ดส์ จัดการจารึกประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้วงการกีฬาอาชีพสหรัฐอเมริกาเรียบร้อยแล้ว หลังจากเจ้าตัวออกมาเปิดเผยว่าเป็นเกย์ ทำให้เขาเป็นนักกีฬาอาชีพสายหลักของแดนลุงแซมที่เปิดตัวในเรื่องนี้ และยังได้เสียงชื่นชมอย่างล้มหลามจากสังคมถึงความกล้าหาญของเขาอีกด้วย

เจสัน คอลลินส์ เซนเตอร์ของ วอชิงตัน วิซาร์ดส์ ออกมาเปิดเผยเมื่อวันจันทร์ที่ 29 เมษายน ว่า เขาเป็นพวกรักชอบไม้ป่าเดียวกัน ทำให้เขากลายเป็นนักกีฬาอาชีพคนแรกในวงการกีฬาสายหลักของสหรัฐอเมริกาที่ยอมรับว่าเป็นเกย์ระหว่างที่ยังไม่ได้เลิกเล่น
 
เซนเตอร์วัย 34 ปี เปิดเผยเพศสภาพของเขาผ่านเว็บไซต์ของนิตยสารสปอร์ตส์ อิลลัสเตรทเต็ด ว่า "ผมไม่ได้ตั้งใจเป็นนักกีฬาอาชีพสหรัฐฯ คนแรกที่เปิดเผยว่าเป็นเกย์ แต่พอผมได้เปิดเผยไป ผมก็มีความสุขในการพูดคุย ผมหวังว่าผมจะไม่เป็นเด็กในห้องเรียนที่ยกมือขึ้นและบอกว่า "ผมคิดต่างครับ" ถ้าผมทำตามทางของผมต่อไป คนอื่นอาจลุกขึ้นมาทำเรื่องนี้ แต่ตอนนี้ไม่มีใคร นั่นเป็นสาเหตุที่ผมยกมือขึ้น"
 
การเปิดตัวของ คอลลินส์ ได้รับกระแสตอบรับในแง่บวกจากคนส่วนใหญ่ของสังคม รวมถึง บารัค โอบามา ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดยโฆษกทำเนียบขาวเปิดเผยกับสำนักข่าวเอเอฟพี ว่า "ท่านประธานาธิบดีโทรศัพท์ไปหา คอลลินส์ เพื่อให้การสนับสนุน และชมเชยในความกล้าหาญของเขา"
 
กรณีของ คอลลินส์ ถูกนำไปเทียบเคียงกับกรณีของ แจ็คกี้ โรบินสัน เมื่อปี 1947 ที่ได้รับความสนใจอย่างมากหลังจากกลายเป็นนักเบสบอลผิวดำคนแรกในศึกเมเจอร์ลีก เบสบอส สหรัฐฯ และ แชด กริฟฟิน ประธานกลุ่มรณรงค์สิทธิมนุษยชน กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า "เจสัน คอลลินส์ ได้เปลี่ยนแปลงโฉมหน้ากีฬาไปตลอดกาล ไม่มีอะไรมาบีบนักกีฬาที่รักเพศเดียวกันให้อยู่เงียบๆ เกี่ยวกับการใช้ชีวิตของพวกเขาอีกแล้ว"
 
แจ็คกี้ โรบินสัน ต้องเผชิญหน้ากับการเหยียดผิวโดยไม่ตอบโต้ใดๆ และ คอลลินส์ เชื่อว่าเขาจะรับมือกับการเหน็บแนมถากถางได้เช่นกัน "ผมไม่สนใจถ้าจะมีใครตะโกนต่อว่าผม ผมก็เคยโดนโห่มาก่อนแล้ว ทุกคนหวาดกลัวสิ่งที่ไม่รู้จัก แต่พวกเราส่วนใหญ่ไม่ต้องการกลับไปยังช่วงเวลาที่คนกลุ่มน้อยถูกเลือกปฏิบัติอย่างเปิดเผย"