''ฉลามชล'' ชลบุรี เอฟซี เปิดศึกบิ๊กแมตช์เอาชนะ ''กระต่ายแก้ว'' บางกอกกล๊าส เอฟซี ที่ประเดิม ''โค้ชแต๊ก'' อรรถพล ปุษปาคม คุมทัพเกมแรกไป 3-1 โดยเกมนี้ชลบุรีได้ประตูจาก ติอาโก้ คุนญ่า ที่ทำคนเดียวสองประตูและอนุชา กิจพงษ์ศรี อีก1ประตู ส่วนบางกอกกล๊าสได้ประตูจาก ประวีณวัช บุญยงค์ ส่งผลให้ ชลบุรีเก็บ3คะแนนในบ้าน

        การแข่งขันฟุตบอลโตโยต้าไทยพรีเมียร์ลีก2013 เลกแรก เมื่อวันที่ 5 พ.ค. ที่ผ่านมา 

      

ชลบุรี เอฟซี 3 - บางกอกกล๊าส เอฟซี 1

 

        ศึกบิ๊กแมตช์โตโยต้า ไทยพรีเมียร์ลีก 2013 ประจำสัปดาห์ที่สนามชลบุรี สเตเดี้ยม ระหว่าง ''ฉลามชล'' ชลบุรี เอฟซี ทีมอันดับ 3 ที่โชว์ฟอร์มฮอตฮิตในรอบเดือนเมษายนที่ผ่านมาด้วยการคว้าชัยชนะ 4 นัดต่อเนื่องมี 17 แต้มจาก 8 นัดเปิดรังต้อนรับการมาเยือนของ ''กระต่ายแก้ว'' บางกอกกล๊าส เอฟซี ทีมอันดับ 12 ที่มี 8 แต้มจาก 8 นัดอีกทั้งยังเพิ่งแต่งตั้ง ''โค้ชแต๊ก'' อรรถพล ปุษปาคม อดีตกุนซือบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่เพิ่งถูกปลดฟ้าผ่าเข้ามาคุมบังเหียนคุมทัพเป็นนัดแรก

 

          วิทยา เลาหกุล ผจก.ทีมชลบุรี เอฟซี มีปัญหาจัดทัพในแดนกลาง เทิดศักดิ์ ใจมั่น และ อาทิตย์ สุนทรพิธ ไม่ฟิตร้อยเปอร์เซ็นต์หลุดโผไปเป็นตัวสำรอง โดยส่ง ศราวุฒิ จันทพันธ์ ลงมาเป็นตัวขับเคลื่อนเกม ส่วนคู่หน้ายังจัดเต็ม พิภพ อ่อนโม้ ทะลวงตาข่ายคู่กับ ติอาโก้ คุนญ่า

 

        ด้าน ''โค้ชแต๊ก'' อรรถพล ปุษปาคม กุนซือใหม่ถอดด้ามของบางกอกกล๊าส เอฟซี จัดผู้เล่นชุดที่ดีที่สุดลงสนาม โดยเฉพาะในแดนหน้าวาง 3 ประสานอย่าง โกรัน เยอร์โควิช, ธีรเทพ วิโนทัย และ เลอันโดร โดส ซานโตส

 

        ออกสตาร์ตเกมในครึ่งแรก น.3 ติอาโก้ คุนญ่า แนวรุกเจ้าถิ่นโดนรวบนอกกรอบเขตโทษริมซ้าย สุเมธ สายแวว ผู้ตัดสินฟีฟ่าเป่าให้เป็นฟรีคิกของเจ้าบ้าน ศราวุฒิ จันทพันธ์ บรรจงหยอดลึกไปที่เสาสองหวังให้เข้าหัว สุทธินันท์ พุกหอม แต่บอลดันลึกหลุดออกหลังไป

 

        น.9 ชลบุรีเฮเก้อจากลูกสวนกลับริมซ้าย พิภพ อ่อนโม้ พาบอลขึ้นริมเส้นซ้ายก่อนผ่านเข้ากลางหวังให้ นพนนท์ คชพลายุกต์ เข้าฮอสแต่ไปกระแทกกับ นริศ ทวีกุล นายด่านบีจีอย่างจังก่อนที่ ติอาโก้ คุนญ่า จะตามโหม่งดาบสองส่งบอลเข้าไปซุกก้นตาข่ายได้แล้ว แต่จังหวะนี้ ชิงชัย ผัดสุภาพ ไลน์ 1 สะบัดธงยกให้นพนนท์ล้ำหน้าไปก่อน ชลบุรีชวดได้ประตูขึ้นนำ

 

        น.17 ยังเป็นจังหวะหวาดเสียวของชลบุรี เอฟซี จากลูกตวัดยิงในกรอบของ โฟเด้ ดิยากิเต้ บอลทำท่าจะพุ่งเสียบโคนเสาอยู่แล้ว แต่สุดท้าย นริศ ทวีกุล นายด่านบีจียังบินปัดออกหลังได้ทัน  

 

        น.22 บีจีได้จังหวะทักทายหนแรกจากลูกยิงไกลของ เอกพันธ์ อินทเสน แต่บอลยังเสยหลุดคานออกไป

 

        กระทั่ง น.27 ชลบุรี เอฟซี ได้ประตูออกนำอย่างที่หวังจากลูกสูตรที่ซุ่มซ้อมกันมาอย่างต่อเนื่อง เจษฎากรณ์ เหมแดง พาบอลถึงสุดเส้นหลังฝั่งขวาก่อนเงยหน้ามองหนึ่งจังหวะพร้อมกับปาดเรียดมาที่ เสาแรกและเป็น อนุชา กิจพงษ์ศรี เข้าชาร์จง่ายๆ เข้าไป นริศ ทวีกุล นายด่านบีจีไม่ทันได้ป้องกัน ชลบุรี เอฟซี ขึ้นนำ 1-0

 

        น.30 บีจีสวนบุกสู้ เลอันโดร โดส ซานโตส หลุดกับดักล้ำหน้าพร้อมพาบอลลากเข้ากรอบเขตโทษ จังหวะสุดท้ายโดน สุทธินันท์ พุกหอม แนวรับเจ้าถิ่นสะกิดเบาๆ จนเสียจังหวะล้มลงในกรอบเขตโทษ แต่ สุเมธ สายแวว ผู้ตัดสินยังปล่อยให้เล่นต่อไป

 

        เกมรุกของชลบุรี เอฟซี ยังไหล่ลื่นดุจดั่งสายน้ำ น.32 สาวกฉลามชลได้เฮประตูที่ 2 จากลูกโยนยาวจากแดนหลัง เจษฎากรณ์ เหมแดง หยอดยาวไปที่หน้าปากประตู ติอาโก้ คุนญ่า ตัดสินใจกระโดนโขกจังหวะเดียวส่งบอลย้อยข้ามมือ นริศ ทวีกุล เข้าประตูไปอย่างสุดสวยส่งให้ชลบุรี เอฟซีขึ้นนำ 2-0

 

        น.33 สกอร์หนีห่างเพิ่มเป็น 3-0 จากการขึ้นเกมริมเส้นฝั่งซ้าย ณัฐพงษ์ สมณะ เปิดลึกมาที่เสาสอง ติอาโก้ คุนญ่า ยืนโล่งๆ ก่อนได้จังหวะโขกย้อนศรส่งบอลพุ่งเสียบหน้าต่างเสาแรกเข้าไปง่ายๆ ชลบุรี เอฟซี หนีห่างเป็น 3-0

 

        น.37 บีจียังไม่ถอดใจง่ายๆ และมาได้ประตูตีไข่แตกจากลูกเตะมุมฝั่งขวาสุดท้ายเป็น ประวีณวัช บุญยงค์ ที่เติมขึ้นมาโขกเหน่งๆ เข้าไปทำให้บางกอกกล๊าส เอฟซี ไล่มาเป็น 1-3

 

        น.39 ธีรเทพ วิโนทัย หัวหอกบีจีได้โอกาสสับยิงลูกใบไม้ร่วงนอกกรอบเขตโทษ บอลฮุกแรงพุ่งชนคานกระดอนออกมาอย่างจัง

 

        น.43 เป็นอีกหนึ่งจังหวะที่บางกอกกล๊าส เอฟซี น่าจะได้ประตูที่ 2 อย่างถึงที่สุดเมื่อ ธีรเทพ วิโนทัย โชว์สเต็ปเทพพาบอลแหวกด่านแนวรับเจ้าถิ่นถึง 3 ด่านก่อนได้โอกาสดวลเดียวกับ สินทวีชัย หทัยรัตนกุล จังหวะจบธีรเทพ กำลังจะง้างยิงแต่ดันโดน โฟเด้ ดิยากิเต้ กองหลังเจ้าถิ่นตามมาจิ้มออกหลังได้ทันจังหวะนี้ สุเมธ สายแวว ผู้ตัดสินให้เป็นลูกตั้งเตะของชลบุรี เอฟซี สร้างความโมโหให้กับนักเตะบางกอกกล๊าส เอฟซี ที่โวยแหลกแต่ก็ไม่มีเหตุการณ์บานปลายเกิดขึ้น จบ 45 นาทีแรก ชลบุรี เอฟซี นำ บางกอกกล๊าส เอฟซี 3-1

 

        กลับมาลุยต่อในครึ่งเวลาหลัง ''โค้ชแต๊ก'' อรรถพล ปุษปาคม กุนซือบีจี ปรับเปลี่ยนผู้เล่นสำรอง 2 ราย กรกช วิริยอุดมศิริ แทน วสันต์ ฮมแสน และ ฮิโรโนริ ซารูตะ แทน โกรัน เยอร์โควิช ส่วน ชลบุรี เอฟซี ขยับ 1 ราย ถอด ศราวุฒิ จันทพันธ์ ออกแล้วส่ง อดุลย์ หละโสะ ลงคุมเกมแดนกลางทดแทน
   
 
        น.50 มีเหตุปะทะกันระหว่าง ธีรเทพ วิโนทัย ของบีจี กับ พิภพ อ่อนโม้ กัปตันทีมชลบุรี เอฟซี ในการแย่งชิงจังหวะบอล แฟนเจ้าถิ่นต่างรุมตะโกนด่าธีรเทพกันอย่างสนั่นหวั่นไหว
   
 
        น.51 เอกพันธ์ อินทเสน ปีกรุกบีจีเล่นต่อไม่ไหวหลังเกิดปัญหาบาดเจ็บ อรรถพล ปุษปาคม กุนซือใหญ่ต้องถอดออกแล้วส่ง วสันต์ นาทะสัน ลงเล่นแทน และทำให้ บางกอกกล๊าส เอฟซี เปลี่ยนตัวครบ 3 รายเป็นที่เรียบร้อย
   
 
        บีจีเริ่มโหมรุกใส่อย่างหนักเพื่อหวังเจาะประตูตีตื้นที่ 2 ให้ได้เร็วที่สุด น.65 นพนนท์ คชพลายุกต์ แข้งเจ้าถิ่นทำฟาวล์ผู้เล่นทีมเยือน สุเมธ สายแวว ผู้ตัดสินเป่าให้เป็นฟรีคิกติดกับสุดเส้นหลังฝั่งขวา ปิยะชาติ ถามะพันธ์ เปิดลึกด้วยซ้ายหวังให้เพื่อนเข้าชาร์จแต่สุดท้ายก็ยังเลยผ่านไปหมด
  
  
        น.70 ชลบุรี เอฟซี ได้ฟรีคิกริมเส้นขวา ก่อนที่สุดท้ายจะเลือกเล่นเร็วและเป็น ซามูเอล อาจายี่ แนวรุกตัวสำรองที่เพิ่งถูกเปลี่ยนตัวลงสนามไม่นานได้จังหวะกดเหน่งๆ ส่งบอลเข้าประตูไปแล้ว แต่ผู้ตัดสินไม่ให้เป็นประตูเพราะยังไม่ได้เป่าเริ่มเล่น 
   
 
        น.83 ภูริทัต จาริกานนท์ มิดฟิลด์บีจี โชว์เหนือชั้นแต่งบอลหลบ 2 ก่อนไหลทแยงขึ้นขวา แต่ ปิยะชาติ ถามะพันธ์ ดันครอสเข้ากลางแบบไม่ได้ลุ้น เวลาที่เหลือบีจีพยายามยิงประตูไล่หลังให้ได้เร็วที่สุด แต่สุดท้ายก็ยังขาดๆ เกินๆ จบเกม ชลบุรี เอฟซี ชนะ บางกอกกล๊าส เอฟซี 3-1 ส่งให้ ''โค้ชแต๊ก'' อรรถพล ปุษปาคม คุมทีมบางกอกกล๊าส เอฟซี พบความพ่ายแพ้นับตั้งแต่เกมแรกที่เข้ามาคุมทัพ

 

        วาทะโค้ช 
        วิทยา เลาหกุล ผจก.ทีมชลบุรี เอฟซี : เกมรุกเราสามารถหวังผลได้ตามที่ต้องการ หากทำได้แบบนี้บ่อยๆ ในทุกๆ เกมผมยังมั่นใจว่า ชลบุรี เอฟซี ก็มีสิทธิ์ที่จะลุ้นแชมป์ไทยลีกได้แน่  
        อรรถพล ปุษปาคม กุนซือบางกอกกล๊าส เอฟซี : ผมยังมีเวลาน้อยที่จะต้องใช้ในการปรับทัพ เพิ่งจะเข้ามาคุมทีม แต่เกมแรกก็พอจะรู้จุดที่ต้องปรับจูนบ้างแล้ว โดยเฉพาะแนวรับที่ต้องเร่งแก้ปัญหาด่วน

 

        คะแนนความสามารถของทั้งสองทีม 
        ชลบุรี เอฟซี : สินทวีชัย หทัยรัตนกุล 8, ณัฐพงษ์ สมณะ 8, สุทธินันท์ พุกหอม 8, โฟเด้ ดิยากิเต้ 8, เจษฎากรณ์ เหมแดง 8 (แทน น.61 ชลทิตย์ จันทคาม 7.5), นพนนท์ คชพลายุกต์ 8 (แทน น.67 อาจายี่ ซามูเอล 7), อนุชา กิจพงษ์ศรี 8, ศราวุฒิ จันทพันธ์ 7.5 (แทน น.46 อดุล หละโสะ 8), คาซูโตะ คูชิดะ 8, พิภพ อ่อนโม้ 8, ติอาโก้ คุนญ่า 8.5  
        บางกอกกล๊าส เอฟซี : นริศ ทวีกุล 6.5, วสันต์ ฮมแสน 6.5 (แทน น.46 กรกช วิริยอุดมศิริ 6.5), ชินโนซุเกะ ฮอนดะ 6.5, ประวีณวัช บุญยงค์ 6.5, โฮเซ่ เมน่า 6.5, ปิยะชาติ ถามะพันธ์ 6.5, เอกพันธ์ อินทเสน 6.5 (แทน น.51 วสันต์ นาทะสัน 6.5), ภูริทัต จาริกานนท์ 6.5, โกรัน เยอร์โควิช 6 (แทน น.46 ซารูตะ ฮิโรโนริ 6), ธีรเทพ วิโนทัย 6.5, เลอันโดร โดส ซานโตส 6.5

 

        แมน ออฟ เดอะ แมตช์ : ติอาโก้ คุนญ่า กองหน้าผู้ยิง2ประตูให้ชลบุรี เอฟซี เก็บ3คะแนนในบ้าน