ก่อนหน้านี้ทางสื่อได้รับจดหมายเกี่ยวกับให้หยุดทำข่าวคู่กันระหว่าง “ทับทิม อัญรินทร์ ธีราธนันพัฒน์” “สเตฟาน ฐสิษฐ์ สินคณาวิวัฒน์” โดยชื่อที่ลงไว้ในจดหมายเป็นนามสกุลเดียวกับสาว “ทับทิม” แต่พอมาถามก่อนหน้านี้เจ้าตัวก็ออกอาการเหวอเพราะเพิ่งจะได้ยินข่าว และได้เห็นเนื้อความจดหมายเลยไม่สามารถพูดอะไรได้มาก เมื่อได้เจอสาว “ทับทิม” อีกครั้งในงานบวงสรวงละครเรื่อง “พรมแดนหัวใจ” ที่ช่อง 7 โดยเจ้าตัวก็บอกกับเรื่องนี้ว่า “อ๋อ จดหมายนี้เป็นจดหมายจากพี่ชายทับทิมเองค่ะ ทับทิมคิดว่าเกิดมาจากพี่ชายเป็นห่วงทับทิมมากกว่าค่ะ ซึ่งมันก็เป็นเรื่องปกติที่พี่ชายจะหวงน้องสาวนะคะ”

ก่อนจะส่งจดหมายเขาได้มาปรึกษาเราไหม

     “คือเรื่องที่เกิดขึ้นไม่มีใครทราบมาก่อนเลยค่ะ คุณพ่อคุณแม่เองก็เพิ่งทราบพร้อมกับทับทิมและพี่ๆ แหละค่ะ”

เขาส่งจดหมายมาแบบนี้ เรามีเรื่องอะไรกับเขาก่อนหน้านี้หรือเปล่า

     “จริงๆ ทับทิมกับพี่ช่วงนี้ไม่ค่อยได้เจอกันเท่าไรก็เลยไม่ค่อยได้คุยกันค่ะ พี่เขาก็ทำงานทับทิมเองก็ทำงาน อีกอย่างเวลาที่ทับทิมกลับบ้านมันก็ค่อนข้างที่จะดึกแล้วค่ะ”

เราได้คุยกับพี่หรือยังว่าเรื่องราวเป็นมายังไง

     “ก็อย่างที่บอกแหละค่ะว่าพี่ชายเป็นห่วงน้องค่ะ ส่วนรายละเอียดในเรื่องของการคุยคือมันเป็นเรื่องภายในครอบครัวก็ขออนุญาตไม่พูดถึงแล้วกันนะคะ ที่เขาส่งจดหมายมาแบบนี้ก็คงกลัวว่าจะเป็นข่าว กลัวว่าข่าวจะส่งผลกระทบอะไรกับเราไหมมากกว่า เป็นแบบพี่ชายห่วงน้องสาวแหละค่ะ”

กลัวจะมีปัญหากับครอบครัวไหม

     “จริงๆ ทุก ๆ คนก็ไม่ได้อยากจะมีปัญหาอะไรกันอยู่แล้วค่ะ ก็อย่างที่เคยบอกไปว่าถ้ามีเรื่องอะไรเราก็จะนั่งคุยกัน คือทุกๆ คนก็พยายามทำให้ดีที่สุดอยู่แล้ว”

ทางช่องว่ายังไงบ้าง

     “คือยังไม่ได้คุยกับผู้ใหญ่ทางช่องเลยค่ะ ทางผู้ใหญ่เองก็ยังไม่ได้เรียกคุยอะไรเหมือนกันค่ะ จริงๆ กับผู้ใหญ่ก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรนะคะ”

พอมีข่าวแบบนี้ออกมามันส่งผลอะไรกับเราบ้าง

     “ทับทิมก็อยากให้ทุกๆ คนเข้าใจนะคะว่ามันเป็นเรื่องของพี่ชายหวงน้องสาว ก็ถือว่ามันเป็นเรื่องปกติค่ะ”

พอมีข่าวนี้แล้วมีผลอะไรกับสเตฟานไหม

     “ก็ยังเหมือนเดิมค่ะ โดยส่วนตัวแล้วพี่ฟานกับพี่ชายแทบจะไม่เคยคุยกันและก็ไม่ค่อยได้เจอกันด้วยค่ะ เจอกันแค่ครั้งเดียวเองมั้งแล้วก็ไม่ค่อยได้คุยกัน ก็คิดว่าพี่เขาคงเป็นห่วงน้องมากกว่าค่ะ”

ฟานได้เข้ามาคุยกับเราเรื่องนี้ไหม

     “จริงๆ มันก็เป็นเรื่องในส่วนของครอบครัวทับทิม พี่เขาก็เลยไม่ได้เข้ามาก้าวก่ายหรืออะไรตรงนี้อยู่แล้วค่ะ เพียงแต่เขาก็เป็นห่วงว่าไม่อยากให้เครียด คือทับทิมคิดว่าทุกๆ คนก็พยายามอย่างดีที่สุดและที่ผ่านมาทับทิมกับพี่เขาก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรกับคุณพ่อคุณแม่นะคะ คือคุณพ่อคุณแม่ก็รับรู้และทราบตลอดตั้งแต่เราเริ่มคุยกัน ซึ่งท่านก็ไม่ได้ห้ามหรือว่าอะไร เพียงแต่จะมีสอนมากกว่า อย่างคุณพ่อก็สอนว่าถ้าจะคบกันก็ต้องอดทนเพราะเราก็ไม่รู้ว่าในอนาคตจะเป็นยังไง สำหรับคุณแม่จะสอนว่าให้ค่อยๆ เรียนรู้กันไปเท่านั้นเอง ไม่ได้มีข้อห้ามหรือยังไง ซึ่งเรื่องนี้ทับทิมคิดว่ามันต้องใช้เวลา ก็ขอใช้เวลาต่อไปเรื่อยๆ แล้วกันค่ะ ให้เวลาเป็นเรื่องพิสูจน์ แล้วก็ทับทิมไม่อยากให้ทุกๆ คนโฟกัสกับเรื่องนี้มากนะคะ ขอให้ดูเรื่องงานเรื่องเรียนก่อนดีกว่า”

เหมือนสเตฟานไม่อยากปรับความเข้าใจใช่ไหม

     “ต้องบอกตรงนี้ก่อนว่าพี่เขาเป็นคนน่ารักมาก เป็นคนที่คอยเข้าหาครอบครัวตลอดอยู่แล้วค่ะ เวลาว่างก็จะหาโอกาสเข้ามาคุยตลอดอยู่แล้วไม่ใช่ว่าจะไม่สนใจหรือทิ้งไปค่ะ”

พอมีข่าวแบบนี้เราเครียดไหม

     “ทับทิมเป็นห่วงคุณพ่อคุณแม่มากกว่าค่ะ ก็ไม่อยากให้ท่านคิดมาก เพราะอย่างที่ทับทิมบอกไปว่าคุณพ่อคุณแม่ไม่ได้มีปัญหาอะไร แล้วทุกๆ คนก็พยายามอย่างดีที่สุดอยู่แล้วค่ะ อีกอย่างคือขออนุญาตไม่พูดนะคะ ถ้าเกิดเป็นเรื่องภายในครอบครัวหรือเรื่องที่เกี่ยวข้องกับครอบครัว”

หลังจากนี้ไปจะไม่มีข่าวแบบนี้อีกแล้วใช่ไหม

     “ไม่ทราบจริงๆ ค่ะ แต่ที่บอกได้คือทุกๆ คนพยายามทำให้มันดีที่สุด ไม่อยากให้มีปัญหาอะไร ก็พยายามปรับความเข้าใจกันค่ะ”