อัซซูรี่เก๋ากว่า!พลิกแซงซามูไรสุดมันส์4-3
Posted 20/06/2013 by siamsport
อิตาลี "รองแชมป์โลก" ต้องหืดจับกว่าจะเอาชนะ "ขุนพลซามูไร" ญี่ปุ่น ไปได้แบบลุ้นเหนื่อย 4-3 เก็บเพิ่มเป็น 6 คะแนนน ผ่านเข้าสู่รอบรองฯตาม บราซิล เจ้าภาพเช่นกัน ในศึกฟุตบอล ฟีฟ่า คอนเฟดเดอเรชั่นส์ คัพ กลุ่มเอ เมื่อวันพุธที่ 19 มิถุนายน 2556
ฟุตบอล ฟีฟ่า คอนเฟดเดอเรชั่นส์ คัพ กลุ่มเอ
วันพุธที่ 19 มิถุนายน 2556
อิตาลี 4-3 ญี่ปุ่น
สนาม : อารีน่า เปอร์นัมบูโก้
เริ่มเกมมาเป็น ญี่ปุ่น ที่เป็นฝ่ายเปิดเกมบุกเข้าใส่ทันที และนาทีที่ 5 ก็ได้ลุ้นก่อนเลย ชินจิ คางาวะ วางบอลเข้าไปในเขตโทษให้ เรียวอิชิ มาเอดะ ได้โขกเต็มหัว แต่บอลไปตรงตัว จานลุยจิ บุฟฟ่อน ล้มตัวเซฟไว้ได้
นาทีที่ 9 เกมบุกของทัพซามูไร ยังดูน่ากลัว ยาสุฮิโตะ เอนโดะ ได้สับไกหน้าเขตโทษ แต่บอลหลุดกรอบออกไปไกล
นาทีที่ 15 โอกาสแรกของอิตาลี มาริโอ บาโลเตลลี่ ได้บอลกลางสนามก่อนลากไปยิงแต่ติดกองหลังญี่ปุ่นออกข้างไป
นาทีที่ 17 ชินจิ คางาวะ สับไกยิงด้วยซ้ายระยะ 20 หลา บอลพุ่งเข้าหาประตู แต่ จานลุยจิ บุฟฟ่อน โดดปัดออกหลังไว้ได้
นาทีที่ 20 มัตเตีย เด ชีโย่ จ่ายบอลคืนหลังพลาด ชินจิ โอคาซากิ เก็บบอลได้ก่อนโดน จานลุยจิ บุฟฟ่อน รวบล้มลงในเขตโทษ ผู้ตัดสินวิ่งมาชี้เป็นลูกจุดโทษและให้ใบเหลืองกับ จานลุยจิ บุฟฟ่อน
นาทีที่ 21 เคสุเกะ ฮอนดะ รับหน้าที่สังหารจุดโทษไม่พลาด ญี่ปุ่น ออกนำ 1-0
หลังได้ประตูขึ้นนำ ทัพซามูไร ยังไม่เพลาเกมบุกและได้ลุ้นอีกครั้งในนาทีที่ 27 จากการยิงของ ยูโตะ นากาโตโมะ แต่บอลไปตรงตัว จานลุยจิ บุฟฟ่อน
ผ่านครึ่งชั่วโมง ทีมอัซซูรี่ ก็เปลี่ยนตัวแก้เกมทันที โดยถอดเอา อัลแบร์โต้ อาควิลานี่ ออกและส่ง เซบาสเตียน โจวินโก้ ลงสนามแทน
นาที ที่ 33 ญี่ปุ่น มาได้ประตูหนีห่าง 2-0 จากจังหวะที่แนวรับอิตาลีสกัดบอลกันไม่ขาด บอลกระดอนมาถึง ชินจิ คางาวะ กลับตัววอลเลย์ด้วยซ้ายแบบไม่ต้องจับ บอลพุ่งเสียบเสาชนิด จานลุยจิ บุฟฟ่อน ได้แต่ยืนมอง
นาทีที่ 36 ดานิเอเล่ เด รอสซี่ ก็รับใบเหลืองอีกคนหลังไปทำฟาวล์ใส่ เคสุเกะ ฮอนดะ หน้ากรอบเขตโทษ
นาทีที่ 37 จากลูกฟรีคิก เคสุเกะ ฮอนดะ รับหน้าที่ยิงบอลพุ่งเข้าเสาแรกแต่ จานลุยจิ บุฟฟ่อน ล้มตัวปัดไว้ได้ บอลกระดอนมาเข้าทาง มาโกโตะ ฮาเซเบะ ที่ตามซ้ำแต่ก็ยังไม่ผ่านมือบุฟฟ่อน
นาทีที่ 40 อิตาลี มาได้ลุ้นจากลูกฟรีคิกระยะ 25 หลา อันเดรีย ปีร์โล่ ยิงไปที่เสาสองแต่บอลเหินข้ามคานออกไปนิดเดียว
นาที ที่ 41 อันเดรีย ปีร์โล่ เปิดลูกเตะมุมเข้าไปหน้าเขตโทษ ดานิเอเล่ เด รอสซี่ โหม่งคนเดียวโล่งๆ บอลพุ่งตุงตาข่ายให้ อิตาลี ไล่ตามมาเป็น 1-2
ช่วงทดเจ็บ อิตาลีพลาดได้ประตูตีเสมอ เอมานูเอเล่ จัคเครินี่ ได้กลับตัวยิงในเขตโทษ บอลพุ่งชนโคนเสากระดอนออกมาอย่างน่าเสียดาย จบครึ่งแรก ญี่ปุ่น นำ 2-1
กลับมาเล่นกันต่อในครึ่งหลังทั้งสองทีมยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงตัวผู้เล่น
นาที ที่ 50 อิตาลี มาได้ประตูตีเสมอเป็น 2-2 จากจังหวะที่ มายะ โยชิดะ ไม่ยอมเตะทิ้งโดน เอมานูเอเล่ จัคเคริน ฉกบอลไปได้ก่อนเปิดเข้าไปหน้าปากประตู อัตซึโตะ อูชิดะ พยายามเตะทิ่งแต่พลาดทำเข้าประตูตัวเอง
นาที ต่อมา อิตาลี มาได้ลูกจุดโทษจากจังหวะที่ มาริโอ บาโลเตลลี่ ได้ยิงบนเส้นเขตโทษ มาโกโตะ ฮาเซเบะ ล้มตัวขวางไว้ได้ แต่บอลกระดอนมาโดนมือแบบไม่ตั้งใจ ผู้ตัดสินดิเอโก้ อาบัล วิ่งมาชี้เป็นจุดโทษและให้ใบเหลืองกับ ฮาเซเบะ
นาทีที่ 52 มาริโอ บาโลเตลลี่ สังหารจุดโทษไม่พลาด ทีมอัซซูรี่ พลิกกลับขึ้นมานำ 3-2
หลังได้ประตูออกนำ อิตาลี โหมบุกกดดันหนักและเกือบได้เพิ่มจากลูกเตะมุมในนาทีที่ 57 แต่ เซบาสเตียน โจวินโก้ โหม่งไปตรงตัว เออิจิ คาวาชิม่า
นาทีที่ 59 อิตาลี ขยับเปลี่ยนตัวอีกครั้ง โดยถอดเอา คริสเตียน มาจโจ้ ออกและส่ง อินยาซิโอ อบาเต้ ลงแทน
นาทีที่ 68 อิตาลี เปลี่ยนตัวคนสุดท้าย เคลาดิโอ มาร์คิซิโอ ลงสนามมาแทน เอมานูเอเล่ จัคเครินี่
นาที ที่ 69 ยาสุฮิโตะ เอนโดะ เปิดลูกฟรีคิกริมเส้นฝั่งขวาเข้าไปที่เสาแรก ชินจิ โอกาซากิ วิ่งโฉบเข้าโหม่งเต็มหัว บอลพุ่งเสียบตาข่ายเข้าประตูไป ซามูไรบลู ตามตีเสมอเป็น 3-3
นาทีที่ 72 ญี่ปุ่นน่าจะได้ประตูขึ้นนำ เคสุเกะ ฮอนดะ ลากบอลหลบแนวรับอิตาลี ก่อนยิงด้วยขวาแต่ จานลุยจิ บุฟฟ่อน พุ่งปัดไว้ได้
นาทีที่ 73 ญี่ปุ่นเปลี่ยนตัวคนแรก โดยส่ง ฮิโรกิ ซากาอิ ลงสนามมาแทน อัตซึโตะ อูชิดะ
นาทีที่ 79 ทีมซามูไร ทำเกมขึ้นมาได้สวยก่อนที่แนวรับอิตาลีจะเตะทิ้งออกมาหน้าเขตโทษ มาโกโตะ ฮาเซเบะ วิ่งอัดด้วยขวาบอลพุ่งเฉี่ยวเสาออกไปอย่างน่าเสียดาย
นาทีที่ 78 ญี่ปุ่นเปลี่ยนเอา ไมค์ ฮาเวนาร์ ลงสนามมาแทน เรียวอิชิ มาเอดะ
นาทีที่ 81 "แชมป์เอเชีย" น่าจะได้ประตูขึ้นนำ ชินจิ โอกาซากิ ได้สับไกในกรอบเขตโทษ บอลพุ่งผ่านมือ จานลุยจิ บุฟฟ่อน ไปแล้วแต่ไปชนเสากระดอนออกมา ชินจิ คางาวะ ตามซ้ำแต่บอลก็ไปโดนคานออกหลังไป
นาที ที่ 86 กลายเป็นอิตาลีที่ได้ประตูขึ้นนำ เคลาดิโอ มาร์คิซิโอ หลุดไปสุดเส้นหลังก่อนปาดบอลเข้ากลางให้ เซบาสเตียน โจวินโก้ ยิงง่ายๆเข้าไป ทีมอัซซูรี่ พลิกกลับขึ้นมานำ 4-3
นาทีที่ 89 ญี่ปุ่น ส่งบอลเข้าไปตุงตาข่ายได้สำเร็จ แต่ผู้ตัดสินชี้ว่า มายะ โยชิดะ อยู่ในตำแหน่งล้ำหน้าก่อนส่งบอลเข้าประตู
นาทีสุดท้าย ญี่ปุ่นเปลี่ยนเอา เคนโงะ นากามูระ ลงสนามมาแทน มาโกโตะ ฮาเซเบะ
จบเกม อิตาลี เป็นฝ่ายเอาชนะ ญี่ปุ่น ไปได้แบบสุดมันส์ 4-3 เก็บเพิ่มเป็น 6 แต้ม พร้อมผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศ ขณะที่ ญี่ปุ่น แพ้สองเกมติด ไม่มีแต้มตกรอบเป็นที่แน่นอนแล้ว
รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม
อิตาลี (4-3-2-1) : จานลุยจิ บุฟฟ่อน ; คริสเตียน มาจโจ้, จอร์โจ้ คิเอลลินี่, มัตเตีย เด ชีโย่, อันเดรีย บาร์ซายี่ ; อัลแบร์โต้ อาควิลานี่, ริคคาร์โด้ มอนโตลิโว่, อันเดรีย ปีร์โล่ ; ดานิเอเล่ เด รอสซี่, เอมานูเอเล่ จัคเครินี่ ; มาริโอ บาโลเตลลี่
ญี่ปุ่น (4-2-3-1) : เอ อิจิ คาวาชิมะ ; ยูโตะ นากาโตโมะ, มายะ โยชิดะ, ยาสุยูกิ คอนโนะ, อัตซึโตะ อูชิดะ ; ยาสุฮิโตะ เอนโดะ, มาโกโตะ ฮาเซเบะ ; เคสุเกะ ฮอนดะ, ชินจิ คางาวะ, ชินจิ โอคาซากิ ; เรียวอิชิ มาเอดะ
ผู้ตัดสิน : ดิเอโก้ อาบัล (อาร์เจนติน่า)
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
TOP 5 ข่าวในรอบ 3 วัน
อัลบั้มภาพเด็ดๆ
แม่เจ้าโว้ย! นักร้องสาวนุ่งบิกิน...
มาย ฮาเร็ม ส่งภาพเขย่าโซเชียล นุ...
เจนนี่ ธมนภัค พริตตี้สุดฮอต นุ่ง...
ฮาน่า ฮาอึน ชอง ดาว TikTok สาวสว...
นาฟ ฉัฐนันท์ ปล่อยแซ่บท้าลมหนาว ...
เต็มที่แล้ว! ไทย พ่าย อุซเบกิสถา...
คลิปไฮไลท์