หลังจากที่ดาราสาว ''โดนัท'' มนัสนันท์ พันเลิศวงศ์สกุล ออกมาเปิดเผยความสัมพันธ์กับพระเอกหนุ่ม อนันดา เอเวอร์ริ่งแฮม ว่า กำลังอยู่ในช่วงที่มีปัญหาและอึมครึม ไม่มีคำตอบที่ชัดเจนในสถานะความสัมพันธ์ว่าจะ ''รัก'' หรือ ''เลิก'' เพราะต่างคนต่างยุ่งอยู่กับงานที่ตัวเองรับผิดชอบ ซึ่งทำให้หลายคนที่กำลังรอลุ้นและเชียร์คู่นี้ต่างใจตุ้มๆ ต่อมๆ ว่าจะไปกันรอดหรือไม่

ล่าสุดเมื่อวันที่ 18 ก.ค. 56 ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปเปิดใจพระเอกหนุ่มอนันดาถึงเรื่องนี้ ในกองถ่ายทำหนังสั้น ''เดอะ ไลค์เบอร์รี่'' ที่ห้องสมุดเดอะเนลสันป์เฮย์ ถ.สุรวงศ์ ซึ่งงานนี้พระเอกหนุ่มพูดแบบไม่มีอ้อมค้อมและชัดเจนด้วยสีหน้าที่ยังมีรอยยิ้มสดใสปกติว่า ได้ลดระดับความสัมพันธ์สาวโดนัทเหลือแค่เพื่อนเท่านั้น ซึ่งหนุ่มอนันดาจะว่าอย่างไรบ้างนั้น ตามไปดูกันเลย

     
สรุปว่าความสัมพันธ์กับโดนัท ตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง
      
''ก็ตอบแบบตรงไปตรงมาเลยแล้วกันนะครับ ผมไม่อยากจะยืดเยื้อ ตอนนี้ก็เป็นเพื่อนกันครับ ไม่ได้คบกันเป็นแฟน แต่ยังคุยกัน ไม่ได้โกรธเกลียดอะไร แต่ด้วยเหตุการณ์หลายๆ อย่าง สภาวะของแต่ละคน เห็นดีที่สุดก็เป็นเพื่อนกัน''

    
ใช้คำว่าเลิกไหม
     
''ก็เป็นเพื่อนกันครับ''

     
คือเปลี่ยนจากคนรักมาเป็นเพื่อนกันหรือเปล่า

''คือไอ้รักน่ะมันรักกันอยู่แล้ว แต่ว่าอย่างที้ผมว่าสภาวะหลายๆ อย่าง เราเห็นดีกันทั้งสองว่า ทั้งผมกับโดเป็นเพื่อนกันดีกว่า พูดตรงๆ แต่ก่อนก็คบกันน่ะแหละ อาจจะไม่ได้อยากระบุว่ามันคืออะไร แต่อย่างที่ว่าแต่ก่อนคบกันมากกว่าเพื่อน ตอนนี้คือเพื่อน''

    
ห่างกันนานแค่ไหนแล้ว
     
''จริงๆ เราเป็นอย่างนี้มาพักหนึ่งแล้ว แต่ว่าพยายามจะหลีกเลี่ยงข่าวแหละ แต่ว่านี่ไงวันนี้พี่ๆ นักข่าวมาถึงเลี่ยงไม่ได้แล้วไง (หัวเราะ) คือก็ไม่นานมากหรอก แต่ช่วงนี้ตั้งใจห่างกัน เพราะว่าเขางานเยอะมาก เขายุ่งถ่ายละคร สอนเอเอฟ ผมก็ทำซีรีส์ เล่นหนัง เป็นความตั้งใจแหละว่า ช่วงนี้เราเอางานของเราให้จบก่อนดีกว่า ส่วนเราสองคนเดี๋ยวว่างๆ กว่านี้ค่อยมาคุยกัน''

    
ปัญหาหลักๆ ที่กระทบสัมพันธ์ครั้งนี้คืออะไร
     
''คือไอ้ห่างมันคงไม่ได้ห่างอะไรมากมายหรอก เพราะว่าเขาก็ยังอยู่ในชีวิตผมน่ะแหละ อย่างที่ผมว่าเป็นอีกสถานะนึง พูดตรงๆ แล้วกันตัวผมเองเป็นคนที่ไม่ใช่คนที่คบง่ายสักเท่าไหร่ เป็นคนที่ค่อนข้างมีความรับผิดชอบเยอะ  เป็นช่วงเวลาที่ผมรับผิดชอบหลายอย่างเกินไปที่จะรับผิดชอบคนอีกคนในชีวิต''

     
ใครเป็นคนขอลดสถานะก่อน
       
''ไม่เชิง ไม่ได้แบบว่า นี่เราจีบกันนะ เราคบกันนะ เราเลิกกันนะ เราไม่ได้เป็นแบบนั้น ส่วนมากเราวัดจากสิ่งที่มันเป็น ส่วนสัญญาว่าจะเป็นยังไงในอนาคต เราก็เคยคุยกัน แต่ก็ไม่เคยมาชี้แจงว่าเราต้องเป็นอย่างนี้ อนาคตของเราต้องเป็นอย่างนี้ ไม่ได้วาดฝันไว้ขนาดนั้น''

    
ก่อนหน้านี้โดนัทบอกยังไม่เลิก
     
''อืม...จริงๆ คงเป็นหน้าที่ผมแหละครับ''

    
เคลียร์กันหรือยังที่จะมาพูดวันนี้
      
''อ๋อ เคลียร์ครับ ทุกวันนี้ก็ยังคุยกันได้ เมสเซจหากันตลอดครับ เรื่องงานก็ยังทำร่วมงานอยู่ดีครับ''

    
เสียใจไหมกับเหตการณ์นี้

''ผมอาจจะไม่ได้มีมุมมองความรักในเชิงนั้น ผมรู้สึกว่า เรารู้สึกดีที่ได้รู้จักใครสักคน เราเก็บตรงนั้นไว้ ไปไม่ได้ก็คือไม่ได้  ผมมีทัศนคติที่แบบเราไม่ใช่เจ้าของใครอยู่แล้ว วันหนึ่งที่ใครเข้ามาในชีวิตเรา เขาก็มีสิทธิ์ที่จะเดินออกไปอยู่แล้ว ''

    
โดนัทน้อยใจที่เราไม่มีเวลาให้หรือเปล่า
     
''อันนั้นเป็นเรื่องปกติ คนที่อยู่รอบตัวผมเขารู้อยู่แล้วว่า เรามีหน้าที่ล้นตัว ไอ้ตรงนี้ผมไม่เคยไปหลอกใครหรอก  ก็เปิดตรงนี้ให้คนสำคัญในชีวิตผมทราบตลอดว่า ผมมีหน้าที่อย่างนี้ เขาก็รู้อยู่แล้ว''

     
โอกาสจะกลับมาเหมือนเดิมมีไหม
     
''ก็อาจจะ อนาคตมันระบุไม่ได้ว่าจะกลับมาคืนดีกันไหม เราเคยคุยกับโดด้วยตรงนี้ว่า พูดถึงเหตุผลว่าเรายังคุยกันได้ แต่ ณ ตอนนี้เราเป็นอย่างนี้กัน และไม่ใช่ว่าเราไม่พยายาม ก็พยายามกัน แต่เห็นชัดว่าตอนนี้มันยากไป ถ้าเราดันทุรังเดินหน้าอย่างที่มันเป็นอยู่เนี่ย มันคงจะทำร้ายจิตใจกันไปเรื่อยๆ''

     
แล้วโปรเจกต์หนัง ''ลอนดอน'' ที่ทำงานร่วมกันล่ะ
      
''อ๋อ ไม่เกี่ยวครับ เราแยกแยะเรื่องงานได้ ไม่เคยมีปัญหา''

    
หลังจากนี้จะมีไปไหนกันไหม
      
''ก็คงไม่ทันทีหรอกครับ (หัวเราะ) ต้องมีเวลานิดนึง เขายุ่งมากผมยุ่งมาก นึกออกไหมคนที่มันสนิทกันมาก มันจะใช้อารมณ์กันและกัน แล้วบางทีถ้าเราแบบงานเยอะ แล้วเราตึงเครียด พอยิ่งกับคนที่เราใกล้ เราก็มักจะทำร้ายคนที่อยู่ใกล้ตัวเรา คนที่เข้าใจเรา มันเป็นสิ่งที่แย่ในมนุษย์นะ เลยสงสัยต้องโฟกัสเรื่องงานกันดีกว่า''

    
แสดงว่าหลักๆ เลยคือเรื่องงาน
      
''มันเป็นส่วนหนึ่ง แต่มันหลายอย่าง ให้ผมมาจำกัดความว่า ทำไมคนสองคนคบกันไม่ได้ เราก็รู้อยู่แล้ว มันยังซับซ้อนอยู่''

     
เสียดายเวลาที่คบหรือเปล่า
     
''ไม่เสียดายอยู่แล้วครับ เพราะว่าอย่างที่ผมบอก เราขอจำสิ่งที่ดี แฮปปี้ที่ได้เจอและรู้จักเขาในสถานะไหนก็ว่าไป''

    
พร้อมมีคนใหม่หรือยัง
      
''โห...ยังไม่ทันคิดเลยครับ''

    
โสดร้อยเปอร์เซ็นต์ใช่ไหม
     
''ก็ประมาณนั้นครับ''

    
ไม่มีมือที่ 3 นะ
     
''ไม่มีครับ'' พระเอกหนุ่มยืนยันเสียงหนักแน่น

    
ส่วนหนึ่งเพราะความติสต์ทั้งคู่หรือเปล่า
     
''(หัวเราะ)  อย่างที่ผมบอกเมื่อกี้ว่า ผมไม่ใช่คนที่คบง่ายเท่าไหร่ ผมยอมรับผมเป็นคนที่มีอัตราชีวิตแปลกๆ ของผม ติดนิสัยชอบบงการ ถ้าวัดระหว่างผมกับโด ผมน่าจะเป็นคนที่คบยากกว่า คือเรื่องนี้มันไม่มีใครผิดถูก เราไม่ได้โทษกัน ตอนนี่เราคบกันก็ไม่ได้คุยว่าเราคบกันนะ เราจีบกันนะ มันโตแล้วไง สามารถพูดตรงๆ ได้ว่ามันเป็รอย่างนี้นะ พยายามทำให้ดีที่สุด มันจะไปสู่สิ่งที่มากกว่านี้ก็ปล่อยมันไป ถ้ามันไม่ได้ก็ไม่ได้''

    
มีเหงาและแอบคิดถึงโดนัทบ้างไหม
      
''คือแบบก็ไม่ได้อยู่ห่างไกลกันขนาดนั้น คิดก็คงมีคิดเแหละ สมมติผมจะโทร.หาหรือคุยกับเขา ผมคงไม่ลังเลอยู่แล้ว มันไม่ได้เฮิร์ตแบบว่าโทร.ไปได้ยินเสียงแล้วร้องห่มร้องไห้ ไม่ได้เป็นอย่างนั้น คือเราคุยได้ แต่ตอนนี้โฟกัสเรื่องงาน เพราะแค่นี้ก็ล้นกันทั้งคู่แล้ว''

    
เรียกว่าเคลียร์ชัดเจนสำหรับความสัมพันธ์ระหว่าง อนันดา-โดนัท ตอนนี้โสดสนิทและโฟกัสงาน