ผลคะแนนและราคา 2 in 1 คะแนนในการแข่งสด ผลการแข่งขัน ตารางการแข่งขัน อัตราต่อรอง ข้อมูล คะแนนบาสเก็ตบอล
หน้าแรก » กีฬาอื่นๆ » แมนปลอบน้องให้เข้มแข็งรุ่นพี่ทีมชาติครวญโดนหนักเกิน

แมนปลอบน้องให้เข้มแข็งรุ่นพี่ทีมชาติครวญโดนหนักเกิน

Posted 29/07/2013 by siamsport


บรรยากาศงานแถลงข่าวกรณี บดินทร์ อิสสระ,มณีพงศ์ จงจิตร ชกต่อยกันในศึก โยเน๊กซ์ แคนาดา โอเพ่น

 


บดินทร์ อิสสระ , มณีพงศ์ จงจิตร จับมือยอมให้อภัยกันและกัน

 

 

 
"ซูเปอร์แมน" บุญศักดิ์ พลสนะ ออกมาให้กำลังใจ "อาท" บดินทร์ อิสระ ยอมรับบทสรุปแตกต่างกันมาก โทษแบน 2 ปีหนักเกินไป แทบต้องเลิกเล่น ขณะที่ สุดเขต ประภากมล นักแบดฯ รุ่นพี่อีกคนย้ำ โทษแบน 2 ปี ไม่มีนักกีฬาคนไหนรอไหวที่จะต้องซ้อมอย่างเดียว ส่วน "เอ" มณีพงษ์ จงจิตร ยอมรับผลตัดสินอาจกลับไปบวชที่ภูเก็ต



         หลังจากที่ทางสหพันธ์แบดมินตันโลก หรือ "บีดับเบิลยูบีเอฟ" ได้แจ้งความผิดทั้ง 2 คนจากการกระทำที่อื้อฉาวในรอบชิงชนะเลิศประเภทชายคู่ศึกโยเน็กซ์ แคนาดา โอเพ่น 2013 ทัวร์นาเมนต์สะสมคะแนนระดับกรังด์ปรีซ์ ที่เมืองริชมอนด์ ประเทศแคนาดา เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เมื่อขนไก่ชายคู่ของไทยวางแร็กตะบันหน้ากันกลางสนามแข่งเมื่อทาง "อาท" บดินทร์ อิสระ วางมวยใส่ "เอ" มณีพงษ์ จงจิตร หลังจากที่ปะทะคารมกันมาตั้งแต่คะแนนแรกไปทั่วโลก ซึ่งในการพิจารณาบทลงโทษ 2 นักแบดฯ ไทย "อาท" บดินทร์ อิสระ กับ "เอ" มณีพงษ์ จงจิตร โดยทางสหพันธ์แบดมินตันโลก มีหนังสือแจ้งข้อกล่าวหามีการตั้งข้อหานักกีฬาทั้งสองคนตามข้อบังคับของ สหพันธ์แล้ว "อาท" บดินทร์ อิสระ ได้ถูกตั้งข้อกล่าวหา 5 ข้อ  ส่วนทาง "เอ" มณีพงษ์ จงจิตร โดน 3 ข้อหา

 
          ซึ่งทางสหพันธ์แบดมินตันโลก ให้นักกีฬาทั้งสองเข้าสู่กระบวนการสอบสวนและกระบวนการไต่สวนให้การเป็นลาย ลักษณ์อักษร พร้อมด้วยวัตถุพยานหลักฐานต่างๆ ซึ่งจดหมายแจ้งข้อหาดังกล่าวนี้ ได้มีเอกสารหลักฐานประกอบจากรายงานของฝ่ายจัดการแข่งขันและภาพถ่ายวิดีโอภาพ ถ่ายที่เกิดขึ้น โดยให้นักกีฬาสามารถส่งเอกสารชี้แจงถึงบีดับเบิลยูเอฟ ภายในวันอังคารที่ 30 กรกฎาคมนี้ ส่วนผลตัดสินจะออกมาอย่างรวดเร็วประมาณวันที่ 2 สิงหาคมก็คงได้รู้กันว่าใครจะได้รับโทษอย่างไรบ้าง

 
         สำหรับเรื่องราวระหว่าง มณีพงษ์ กับ บดินทร์ ที่แคนาดาถือเป็นกรณีแรกที่มีเรื่องราวกระทบกระทั่งถึงขนาดลงไม้ลงมือกันใน การแข่งขันแบดมินตัน ซึ่งทำให้ทางคณะกรรมการพิจารณาระเบียบวินัยของทางสหพันธ์แบดฯ โลกต้องทำหน้าที่อย่างรอบคอบ ที่ผ่านมาเคสใหญ่ๆ ก็คือกรณีล้มแบดฯ ของนักกีฬาหญิงคู่ในศึกโอลิมปิก ลอนดอน 2012 ซึ่งทางสหพันธ์แบดฯ โลกลงโทษแค่เพียงถอนชื่อนักกีฬาทั้ง 4 คู่ออกจากทัวร์นาเมนต์เท่านั้น แต่บทลงโทษจะไปอยู่ที่สมาคมแบดฯ ของแต่ละชาติ อย่างนักกีฬาจากเกาหลีเบื้องต้นลงโทษแบน 2 ปีแต่หลังจากอุทธรณ์แล้วลดลงเหลือเพียง 6 เดือน, อินโดนีเซีย ลงโทษแบน 4 เดือน, จีน ไม่มีบทลงโทษเนื่องจากในตอนแรกนักกีฬาแจ้งว่าจะขอแขวนแร็กเกตเลิกเล่นไปเลย แต่หลังจากเรื่องราวได้ผ่านพ้นไประยะหนึ่งทั้งคู่ก็กลับคืนสู่สนามอีกครั้ง และยังคงรั้งคู่มือ 1 ของโลกในปัจจุบัน ยู่ หยาน กับ หวัง เสี่ยวลี่

 
         และเมื่อวันเสาร์ที่ 27 ก.ค. ที่ผ่านมาทางคณะกรรมการบริหารสมาคมแบดฯ จะปิดประตูประชุมพิเศษเพื่อพิจารณาโทษกับเหตุการณ์ดังกล่าวซึ่งใช้เวลา นานกว่ากว่า 2 ชั่วโมง ก่อนที่จะได้เปิดเผยผลการประชุมว่า สมาคมแบดมินตันฯ ตัดสินลงโทษห้ามบดินทร์ลงแข่งทั้งในและต่างประเทศตลอดชีวิต แต่เนื่องจากเคยทำชื่อเสียงให้ประเทศ และยอมรับผิดจึงลดโทษให้เหลือ 2 ปี
ส่วน มณีพงษ์ลงโทษห้ามแข่งทั้งในและต่างประเทศ 6 เดือน แต่ทำชื่อเสียงให้ประเทศ รวมทั้งยอมรับผิด ลดโทษให้เหลือ 3 เดือน จากการโดนลงโทษครั้งนี้ทำให้มณีพงษ์ ไม่สามารถลงแข่งขันในแบดมินตันชิงแชมป์โลก 2013 ที่ประเทศจีน ระหว่างวันที่ 5-11 สิงหาคม

 
         ด้านนางรุ่งนภา พินธุวัฒน์ ผู้จัดการทีมของสมาคมฯ นายศิริพงษ์ ศิริภูล โค้ชของสมาคมฯ ลงโทษห้ามคุมทีมออกไปแข่งขันต่างประเทศ 3 เดือน, นายเจน ปิยะทัต ผู้จัดการทีมสโมสรแกรนนูลาร์ ที่ควบคุมทีมครั้งนี้ ห้ามทำหน้าที่คุมทีมแข่งขัน 6 เดือน ขณะที่สโมสรแกรนนูลาร์ที่มีนักกีฬาในสังกัดจำนวนมาก ทางคณะกรรมการมีความเห็นใจกับนักกีฬาที่ไม่มีส่วนร่วมจึงมีมติไม่มีการลงโทษ แต่อย่างใด โดยบทลงโทษทั้งหมดจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 27 ก.ค. เป็นต้นไปทันที ซึ่งหลังจากที่ได้มีการเผยแพร่บทลงโทษจากทางสมาคมแบดฯ ออกไปทำให้มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์เกิดขึ้นในวงการแบดฯ มากมาย

      

"มณีพงษ์" กลับภูเก็ตอาจบวช
   

 
         มณีพงษ์ จงจิตร เปิดเผยว่าตนยอมรับในผลการตัดสินและคงต้องหยุดพักเป็นเวลา 3 เดือน ส่วนตัวก็รู้สึกเสียดายที่ไม่ได้ไปแข่งขันในรายการชิงแชมป์โลก จากนี้คงต้องพักฟื้นร่างกาย และเตรียมความพร้อมต่อไปในการแข่งขันอีก 3 เดือนข้างหน้า ซึ่งเวลานี้ก็ยังไม่ทราบว่ารายการไหนจะเป็นแมตช์แรกในการแข่งขัน ทั้งนี้ตนตั้งใจว่าอาจจะกลับไปพักผ่อนที่บ้านเกิดสักระยะ ถ้ามีจังหวะก็อาจจะบวชเพราะตั้งใจไว้นานแล้วแต่ยังไม่ได้ทำคงต้องดู สถานการณ์อีกครั้งว่าจะได้ทำอย่างที่ตั้งใจหรือไม่ โดยเวลานี้ก็อยากจะให้เรื่องราวต่างๆ ที่ผ่านมาเงียบไปไม่อยากรื้อฟื้นอะไร อยากเริ่มต้นกับเรื่องราวใหม่ๆ และได้เตรียมตัวอย่างเต็มที่ในการกลับมารับใช้ชาติในอีก 3 เดือนจากนี้

      

เอสซีจี หวัง 2 ส.ค. ผลจบสวยงาม

 
         ขณะที่ ณปภัช ประไพตระกูล ผู้จัดการโครงการ เอสซีจี แบดมินตัน อะคาเดมี่ กล่าวว่าในฐานะที่มณีพงษ์ เคยเป็นนักกีฬาในโครงการคงต้องบอกว่าในเรื่องนี้ทางเอสซีจี
คงไม่ได้ เข้าไปยุ่งอะไรมากนัก เพราะนอกเหนือเขตความรับผิดชอบที่เราได้ส่ง มณีพงษ์ ต่อไปยังสมาคมแบดมินตันแห่งประเทศไทย ซึ่งข้อสรุปหรือ บทลงโทษต่างๆ เอสซีจีคงไม่
ติดใจ และคงต้องเป็นไปตามที่ประชุม เพราะคณะกรรมการทุกคนได้พิจารณาไตร่ตรองกันอย่างดีที่สุดแล้ว จากนี้ก็คงต้องรอดูการตัดสินจากสมาพันธ์แบดมินตันโลก อีกครั้งในวันที่ 2 ส.ค. นี้ว่าจะเป็นอย่างไรส่วนตัวคงอยากให้ทุกอย่างจบไปด้วยดี และทุกคนได้กลับมาทำหน้าที่นักกีฬากันอีกครั้ง
 
      

"โค้ชโอ๊ค" บอกอาทเหมือนแขวนแร็ก

 
         "โค้ชโอ๊ค" พันเอก ศักดิ์ระพี ทองสาริ หนึ่งในสตาฟฟ์โค้ชนักแบดมินตันทีมชาติไทยในประเภทคู่ และเป็นนักกีฬาที่เคยโดนสมาคมแบดฯ แบน 1 ปี เนื่องจากตอนไปแข่งขันชายคู่กับ ไสว จันทร์เสี้ยวรัศมี ในรายการมาเลเซียโอเพ่น 1998 คู่ของตนสามารถผ่านเข้าไปถึงรอบรองชนะเลิศและต้องพบกับคู่จากประเทศจีน แต่ตนได้รับคำสั่งจากทางกองทัพบกให้กลับมาร่วมทีมลงสู้ศึกกองทัพไทย ทำให้ตนตัดสินใจเดินทางกลับประเทศไทยทันที หลังจากนั้นตนก็โดนทางสมาคมแบดฯ ลงโทษแบนประมาณ 1 ปีที่ไม่ได้ออกแข่งขันเลย ได้ให้ความเห็นในกรณีของ บดินทร์ ว่า "การลงโทษบดินทร์นั้นหนักเกินไปมากยิ่งถ้าดูจากโทษที่ยังไม่ได้ลดในเบื้อง ต้นนั้นมากถึงแบนตลอดชีวิต

 
         ส่วนคู่กรณีแค่ 6 เดือน ถ้าจะบอกว่าเรื่องราวต่างๆ มันดังไปทั่วโลกแต่ในกรณีที่นักบอลอาชีพที่ก่อเรื่องชกต่อยกัน ยังไม่โดนลงโทษหนักถึงขนาดนี้ โดยส่วนตัวตนมองว่าการลงโทษลักษณะนี้เหมือนกับการตัดอนาคตของ บดินทร์เลยทีเดียว ในอดีตตอนที่ตนโดนแบนเพียงแค่ 1 ปี ก็ถือว่าแย่แล้ว ซ้อมไปแต่ไม่ได้แข่งความมุ่งมั่นตั้งใจก็จะค่อยๆ หายไปทุกวันๆ เกมแข่งขันมันหนักหนาสาหัสกว่าตอนซ้อมเยอะมาก ตนกลัวว่าบดินทร์จะออกอาการท้อแท้เลิกเล่นไปเสียก่อนตนเสียดายฝีมือเด็กคน นี้มากๆ ที่สำคัญที่สุดการแก้ไขปัญหาในครั้งนี้มันยังไม่ได้แก้ไขตรงจุดต้นเหตุที่ แท้จริงถ้าไม่แก้ไขปัญหามันก็ไม่มีวันจบ"


      

"สราลีย์"เห็นใจทำไมโทษห่างกันจัง

 
          เรืออากาศโท หญิง สราลีย์ ทุ่งทองคำ "หมวดส้ม" นักแบดมินตันทีมชาติในประเภทคู่ผสม กล่าวว่า "ตนรู้สึกเห็นใจน้องทั้ง 2 คน แต่บทลงโทษบดินทร์ได้รับนั้นหนักเกินไปเหมือนกับเป็นการตัดอนาคตไปเลย แต่สิ่งที่ทำให้ตนแปลกใจก็คือว่าก่อนหน้านี้นายกสมาคมแบดมินตันฯ นายเจริญ วรรธนะสิน เคยให้สัมภาษณ์ว่ากรณีของทั้งคู่นั้นนั้นมีความรุนแรงน้อยกว่าการล้มแบดฯ หญิงคู่ของนักกีฬาเกาหลีใต้, อินโดนีเซีย กับจีน ในการแข่งขันแบดมินตันโอลิมปิก ลอนดอน เมื่อปีที่แล้ว แต่ทำไมถึงพิจารณาลงโทษบดินทร์ถึงได้หนักกว่านักกีฬาเกาหลีใต้, อินโดนีเซีย และจีน รวมทั้งรู้สึกแปลกใจว่าทำไมบดินทร์ที่ถูกตั้งข้อหา 5 ข้อ มณีพงษ์ถูกตั้งข้อหา 3 ข้อจากสหพันธ์แบดมินตันนานาชาติ ถึงถูกลงโทษด้วยระยะเวลาที่แตกต่างกันมากมายนัก การที่จะสร้างนักกีฬาให้เก่งขึ้นมาถึงระดับโลกได้แบบนี้ต้องใช้เวลานานมาก และกว่าจะมีแววขึ้นมาก็ไม่ใช่ว่าจะสร้างได้ทุกคน ทำไมถึงไม่ให้โอกาสนักกีฬาได้แก้ตัวเลย นักกีฬาทำผิดแค่ครั้งเดียวลงโทษแบบนี้เท่ากับปิดโอกาสและอาจทำให้อาทต้อง เลิกเล่นไปเลยก็ได้"

     

"โค้ชเป้" ชี้น่ามีคนกลางร่วมตัดสิน

 
         ด้าน "โค้ชเป้" ภัททพล เงินศรีสุข โค้ชของทีมบ้านทองหยอด กล่าวว่า "บทลงโทษที่ออกมาทางบดินทร์ โดนลงโทษรุนแรงเกินไปถ้าเทียบกันกับมณีพงษ์มันต่างกันเยอะมากยิ่งดูจากโทษ เบื้องต้นก่อนที่จะมีการลดโทษลงมา  แสดงให้เห็นถึงความไม่เท่าเทียมกันอย่างแรง ตนคิดว่าในตอนพิจารณาบทลงโทษทางสมาคมแบดฯ น่าจะเชิญคนกลางมาร่วมในการตัดสินเพราะเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องระหว่าง นักกีฬาของสมาคมแบดฯ กับนักกีฬาที่อยู่นอกสมาคมเพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทุกคนในวงการแบดมินตัน รู้ดีว่ามีสาเหตุมาจากอะไรบทลงโทษ 2 ปีของ บดินทร์เหมือนกับเป็นการบีบให้บดินทร์เลิกเล่นแบดมินตัน ตอนนี้ก็ต้องคอยดูว่าทางสหพันธ์แบดมินตันโลกจะตัดสินออกมาอย่างไร ถ้าไม่หนักมากกว่าทางสมาคมฯ ตนคิดว่าทางบดินทร์น่าจะทำเรื่องอุทรณ์โทษแบนครั้งนี้เพื่อโอกาสในการกลับมา เล่นแบดฯ อีกครั้ง"

     

"ซูเปอร์แมน" ให้น้องเข้มแข็ง

 
         "ซูเปอร์แมน" บุญศักดิ์ พลสนะ กล่าว ว่า "บดินทร์ โดนแบน 2 ปีนั้นมันหนักหนามากเกินไปเรื่องที่เกิดขึ้นมันก็ผิดด้วยกันทั้งคู่ตามที่ ทางสหพันธ์แบดมินตันโลกได้แจ้งข้อกล่าวหามา แต่บทสรุปที่ออกมามันแตกต่างกันมาก แน่นอนว่าบดินทร์เป็นฝ่ายที่ลงมือก่อนแต่มันก็มีสาเหตุมาจากการยั่วยุกันของ ทั้ง 2 ฝ่าย ตอนนี้ยังต้องลุ้นโทษจากสหพันธ์แบดมินตันโลกอีก การโดนแบน 2 ปีก็แทบจะต้องเลิกเล่นอยู่แล้ว ตนอยากจะให้น้องๆ มีจิตใจที่แข็งแกร่ง เข้มแข็งสู้กับปัญหาที่เกิดขึ้น ปัญหาทั้งหมดที่เกิดขึ้นทุกฝ่ายต้องพูดความจริงออกมาให้หมดถ้าคิดจะแก้ไขทุก สิ่งทุกอย่าง ตอนนี้เราแก้ไขที่ปลายเหตุทั้งหมดถ้าเป็นอย่างนี้อีกไม่นานก็จะมีปัญหาเกิด ขึ้นมาอีกแน่นอน"


     

"อ.หลวง" เสียดายแทนทีมชาติ

 
         "อ.หลวง" รศ.ดร.ปริญญา หลวงพิทักษ์ชุมพล เป็นผู้จัดการทีมแบดฯ ม.โลก กล่าวว่า "ก่อนอื่นพวกเราต้องให้อภัยกับสิ่งที่เด็กๆ วัยรุ่นได้ก่อขึ้น อีกทั้งได้มีการออกมาขอโทษอย่างเป็นทางการไปแล้ว เราต้องไม่ซํ้าเติมเด็กๆ คนวงในรู้ดีว่าทั้งคู่มีปัญหาคาใจกันอยู่ในการที่จะพิจารณาบทลงโทษที่ออกมา ตนคิดว่าทำให้ทีมชาติไทยสูญเสียบุคลากรที่มีฝีมือดีมากๆ ไป ตนอยากให้ทางบดินทร์ได้ยื่นอุทธรณ์ลดโทษเพื่อโอกาสที่จะได้กลับมาสร้างชื่อ เสียงให้กับทีมชาติไทยในอนาคตต่อไป"

     

"สมพล" ไม่เห็นไม่ออกความเห็น

 
         สมพล คูเกษมกิจ โค้ชทีมชาติไทย "บดินทร์โดนแบน 2 ปี ถ้าเป็นนักแบดฯ แล้วจะรู้ทันทีว่านานมากๆ แทบอยากจะเลิกเล่นไปเลย ตนคิดว่าบดินทร์ยังคงมีศักยภาพที่จะสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศได้อีกมาก เมื่อเด็กยอมรับผิดแล้วน่าจะให้โอกาสเด็กอีกสักครั้ง ตนขอเป็นกำลังใจให้ บดินทร์จงอดทนและสู้กับอุปสรรคให้ได้ จากนี้คงต้องรอดูว่าทางสหพันธ์แบดมินตันโลกจะตัดสินออกมาอย่างไร  จากนั้นก็ทำเรื่องอุทธรณ์ภายหลัง"

     

"สุดเขต" ขอโอกาสให้น้องแก้ตัว

 
         ด้าน สุดเขต ประภากมล นักแบดมินตันทีมชาติรุ่นพี่ ได้โพสต์ลงอินสตาแกรมว่า "ผมว่าน้องผมสองคนก็จับมือกันแล้ว ออกมายอมรับผิดแล้วแต่บทลงโทษมันแรงไปรึเปล่า การแบน 3 เดือนหรือ 2 ปีเหมือนกับกึ่งบังคับให้เลิกเล่นไม่ใช่การแก้ปัญหาที่ดีสำหรับนักกีฬา ไม่มีนักกีฬาคนไหนรอไหวหรอกที่จะต้องซ้อมอย่างเดียวอีก 2 ปี เอาเวลาที่จะแบนน้องผมให้เขาสองคนซึ่งสำนึกผิดแล้วออกไปแข่งขันเพื่อกู้ชื่อ เสียงกลับคืนมาจะดีกว่ามั้ย บุคลากรวงการกีฬายิ่งสร้างยากๆ อยู่ คนที่สำนึกผิดแล้วก็น่าจะให้อภัยได้ มีหลายๆ เหตุการณ์ในประเทศที่รุนแรงกว่านี้และไม่น่าให้อภัยได้แต่บุคคลเหล่านั้นก็ ยังสามารถลอยหน้าลอยตาอยู่ในสังคมโดยไม่ต้องแสดงความรับผิดชอบอะไร ให้โอกาสน้องผมสองคนเถอะครับ ก็แค่เรื่องวัยรุ่นชกต่อยกันก็เท่านั้นเอง"

     

แกรนนูลาร์ลุ้นไม่หนักให้อาทกลับซ้อม

 
         นายเจน ปิยะทัต หัวหน้าทีมแกรนนูลาร์ กล่าวว่า "ก่อนอื่นทางทีมก็ต้องขอขอบคุณทางสมาคมฯ ที่ยังเห็นใจนักกีฬาในสังกัดที่มีอยู่จำนวนมากทั้งในรุ่นเยาวชนและรุ่นทั่ว ไป  ที่ไม่ลงโทษกับทางทีมแกรนนูลาร์ ทำให้ยังคงสามารถส่งนักกีฬาแข่งขันต่อไปได้ทั้งในและต่างประเทศ   ตนยังมองโลกในแง่ดีว่าเรื่องราวทั้งหมดจะไม่ร้ายแรงไปกว่านี้ สมาคมอาจจะต้องลงโทษแบบนี้เพื่อให้ทางสหพันธ์แบดมินตันโลกเห็นว่าได้มีการ ดำเนินการไปแล้ว ทางสหพันธ์แบดมินตันโลกก็จะพิจารณาแบบง่ายขึ้นและโทษจะเบาหรืออาจไม่มีการลง โทษเพราะสมาคมได้ลงโทษไปแล้ว
 
 
         ตอนนี้พวกเราต้องรอให้สถานการณ์มันค่อยๆ ดีขึ้นมา  วันที่ 2 สิงหาคมนี้ต้องรอดูว่าทางสหพันธ์แบดมินตันโลกจะตัดสินออกมาอย่างไร จากนั้นค่อยมาปรึกษากันอีกครั้งว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป แต่ในวันจันทร์นี้ตนได้ติดต่อให้ทางบดินทร์กลับเข้าสู่ทีมฝึกซ้อมกับเพื่อน ร่วมทีมตามปกติ เพื่อที่จะไม่ให้ทางบดินทร์ต้องคิดมากกับเรื่องที่เกิดขึ้น ได้อยู่กับเพื่อนร่วมทีมได้พูดคุยได้เล่นกีฬาที่รัก น่าจะทำให้สภาพจิตใจค่อยๆ ดีขึ้นตามลำดับ"

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

TOP 5 ข่าวในรอบ 3 วัน

อัลบั้มภาพเด็ดๆ

More »

คลิปไฮไลท์

More »