ปีกคือหนึ่งในตำแหน่งที่น่าตื่นตาตื่นใจที่สุดในสนาม เมื่อคิดถึงลีลากระชากลากเลื้อยผ่านกองหลังคนแล้วคนเล่าของพวกเขา และใครคือนักเตะตำแหน่งนี้ในระดับท็อปของโลกปัจจุบันกันบ้าง

ในโลกฟุตบอลยุคใหม่ หลายทีมอาจละเลยผู้เล่นในตำแหน่งปีก โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่สเปนและบาร์เซโลนาครองความยิ่งใหญ่ด้วยฟุตบอลที่เน้นการจ่ายบอลแม่นยำ บางคนถึงขั้นบอกว่าปีกอาจเป็นตำแหน่งที่ใกล้สูญพันธุ์เต็มที

อย่างไรก็ดี ด้วยลีลาการกระชากบอลผ่านกองหลังคนแล้วคนเล่า ทำให้นักเตะในตำแหน่งนี้เรียกเสียงฮือฮาจากแฟนบอลได้เสมอ นักเตะทั้ง 10 รายในสไลด์ชิ้นนี้จะช่วยยืนยันได้เป็นอย่างดีว่า ความเร็วและการดวลตัวต่อตัวกับกองหลังไม่มีวันจากหายไปจากโลกฟุตบอล

ไม่ว่ายุคสมัยจะเปลี่ยนไปมากน้อยแค่ไหนก็ตาม

10. เจมส์ โรดริเกวซ

ปีกชาวโคลอมเบียที่ถูกยกย่องว่าจะเป็น "นิว โรนัลโด้" อาจไม่ใช่นักเตะที่มีจุดเด่นด้านความรวดเร็วเหมือนเช่นปีกชื่อดังคนอื่นๆ แต่ถ้าพูดถึงเรื่องความพริ้วแล้วล่ะก็ โรดริเกวซมีดีไม่แพ้ใคร

นอกจากนี้ อดีตตัวริมเส้นของปอร์โต้ยังตัดเข้ามาทำประตูได้บ่อยครั้ง มีลูกจ่ายที่เฉียบคม และสามารถสร้างสรรค์เกมในรูปแบบอื่นได้หลากหลาย ซึ่งทั้งหมดนั้นทำให้เขาเป็นปีกที่อันตรายทีเดียว แม้จะไม่ได้เร็วปานจรวดเหมือนปีกสไตล์โบราณก็ตาม

9. เฆซุส นาบาส

ปีกจากเซบีญา คือ อีกหนึ่งปีกหลงยุคที่เน้นการพาบอลไปถึงเส้นหลังก่อนจะเปิดเข้ากลาง ท่ามกลางปีกยุคใหม่ที่จำเป็นต้องติดอาวุธหลายอย่าง ทั้งทำประตูได้ดี และจ่ายทะลุ แต่เขาก็เป็นปัญหาที่แบ็คซ้ายทุกรายต้องปวดหัว แม้จะเล่นด้วยวิธีที่ใครๆ ก็พอจะเดาได้ก็ตาม

นาบาสอาจจะเป็นแกะดำในทีมชาติที่เต็มไปด้วยนักเตะประเภทจอมทัพทักษะสูงและครองบอลได้ดี แต่เมื่อถึงคราวคับขัน บิเซนเต้ เดล บอสเก้ ก็มักเลือกนาบาสเป็นซูเปอร์ซับรายแรกๆ ในทุกทัวร์นาเมนต์ใหญ่ ซึ่งเจ้าตัวก็ไม่เคยทำให้ผิดหวัง และมักสร้างความแตกต่างได้เสมอเมื่อได้โอกาสลงไปยืนในสนาม

ซึ่งนั่นก็เพียงพอแล้วที่จะบอกว่าคุณสมบัติในการเป็นปีกของเขาคือของจริง แม้มันจะเป็นสไตล์ที่ดูเหมือนจะล้าสมัยไปแล้วในฟุตบอลยุคปัจจุบัน

8. ลูคัส มูรา

ดาวเตะบราซิเลียนเคยเป็นข่าวกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อย่างหนักในฤดูกาลที่ผ่านมา ก่อนจะตัดสินใจย้ายไปร่วมทีมปารีส แซงต์ แชร์กแมง แทนในท้ายที่สุด จนแฟนปีศาจแดงต้องอกหักไปตามๆ กัน

มูรา ทำให้เราต้องย้อนนึกไปถึงปีกดังๆ ของทีมชาติบราซิลในยุคก่อนอย่างการินชา ที่นอกจากจะมีเทคนิคระดับพรสวรรค์แล้วยังมีความเร็วและความแข็งแกร่งที่สร้างความหนักใจให้กองหลังอยู่เสมอ ผลงานของเขาในเกมพบบาร์เซโลนาบนเวทียูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ยืนยันได้เป็นอย่างดี

ถ้าจะมีจุดที่เป็นข้อเสียของเขาอยู่บ้างก็คงจะเป็นเรื่องของทีมเวิร์คที่ยังมีปัญหา ซึ่งถ้าเขาปรับปรุงเรื่องนี้ให้ดีขึ้นได้ รับรองได้ว่าจะกลายเป็นอีกหนึ่งในแข้งระดับโลกในอนาคตอย่างแน่นอน

7. อังเคล ดิ มาเรีย

ปีกร่างบางชาวอาร์เจนไตน์ของเรอัล มาดริด อาจจะฟอร์มตกลงไปบ้างในฤดูกาลที่ผ่านมา แต่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า เขาคือปีกที่อันตรายที่สุดคนหนึ่ง โดยเฉพาะความสามารถในการเปลี่ยนเกมรับเป็นรุกได้อย่างรวดเร็วด้วยฝีเท้าของเขา และการวางบอลยาวที่แม่นยำ

ดิ มาเรีย เป็นนักเตะที่มีลูกเล่นหลากหลาย ทั้งตัดเข้าในมาทำประตู จ่ายบอลทะลุ และครอสเข้ากลางได้อย่างเฉียบคม หรือแม้กระทั่งพาบอลเข้าไปในพื้นที่อันตรายด้วยตัวเองก็ทำได้ดีไม่แพ้กัน

นอกจากนี้ เขายังได้รับการยกย่องเสมอในเรื่องของการรับผิดชอบในเกมรับ ซึ่งถือเป็นจุดที่นักเตะในตำแหน่งปีกคนอื่นอาจบกพร่องไปบ้าง แต่ดิ มาเรีย ทำผลงานในจุดนี้ได้ดีทีเดียว

6. เอเด็น อาซาร์

จอมเทคนิคร่างเล็กชาวเบลเยียม กลายเป็นขวัญใจในถิ่นสแตมฟอร์ด บริดจ์ได้อย่างรวดเร็ว หลังจากที่โชว์ฟอร์มเด่นเป็นกำลังสำคัญขอทีม แม้จะเพิ่งย้ายมาเล่นในพรีเมียร์ลีกเป็นฤดูกาลแรก

อาซาร์ประสานงานกับ ฮวน มาตา กำลังสำคัญเดิมของสิงห์บลูได้อย่างเข้าขา และทำให้เชลซีมีตัวสร้างสรรค์เกมที่อันตรายที่สุดทีมหนึ่งในพรีเมียร์ลีก ที่น่าเสียดายคือผลงานของต้นสังกัดของเขาไม่ค่อยสวยหรูเท่าไหร่นัก เมื่อเปรียบเทียบกับรายอื่นๆ ไม่เช่นนั้นคงได้เห็นอาซาร์อยู่ในอันดับที่สูงกว่านี้

5. มาร์โค รอยส์

ก่อนหน้าที่จะย้ายมาอยู่กับโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ คอบอลเยอรมันทุกคนก็รู้ดีอยู่แล้วว่า มาร์โค รอยส์ เป็นนักเตะที่ฝีเท้าเยี่ยมแค่ไหน และฟอร์มของเขากับทีมเสือเหลืองในฤดูกาลที่ผ่านมาก็ช่วยยืนยันได้เป็นอย่างดีว่านี่คืออีกหนึ่งดาวรุ่งพรสวรรค์แห่งยุคของอินทรีเหล็กอย่างแท้จริง

รอยส์ ทำได้ 19 ประตู กับอีก 16 แอสซิสต์ ใน 49 เกม ซึ่งถือเป็นตัวเลขที่มากทีเดียวสำหรับสโมสรใหม่และความกดดันที่มากขึ้น ทั้งหมดเป็นผลพวงจากการเล่นแบบเข้าใจเกมและเคลื่อนไหวได้อย่างชาญฉลาดตลอดทั้งฤดูกาล

ไม่ต้องสงสัยเลยว่า หากรอยส์สั่งสมประสบการณ์ได้มากกว่านี้ จะขึ้นเป็นอีกหนึ่งในนักเตะระดับท็อปของโลกในไม่ช้า

4. อาร์เยน ร็อบเบน

เขาอาจถูกตราหน้าว่าเป็นนักเตะขี้เลี้ยง เห็นแก่ตัว และมีปัญหาเวลาต้องเล่นลูกชี้เป็นชี้ตายในเกมใหญ่ๆ แต่ไม่มีใครปฏิเสธได้ว่าพรสวรรค์ในตำแหน่งปีกของร็อบเบนเป็นของแท้ เมื่อผลงานในสนามกับบาเยิร์น มิวนิค โดยเฉพาะอย่างยิ่งนัดชิงชนะเลิศยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก กลบเสียงวิจารณ์ทุกอย่างได้หมดสิ้น

ปีกชาวดัตช์คือตัวทีเด็ดที่สร้างความแตกต่างในเกมดังกล่าว ด้วยการยิงประตูชัยให้เสือใต้ครองจ้าวยุโรปในช่วงท้ายเกม หลังจากที่พลาดโอกาสทองมาก่อนหน้านั้น 2-3 ครั้ง

ร็อบเบนยังเป็นร็อบเบนคนเดิมที่เร็วและดุดันจนกองหลังทุกรายต้องปวดหัว เขาคือบทพิสูจน์ชั้นดีว่าปีกสไตล์ดั้งเดิมของแท้แน่นอนนั้นยังคงใช้ได้ผลในเกมฟุตบอลสมัยใหม่แบบปัจจุบัน

3. แกเร็ธ เบล

ปีกชาวเวลส์พัฒนาฝีเท้าขึ้นมาอย่างรวดเร็วใน 2-3 ฤดูกาลหลัง ที่ถูกขยับจากแบ็คซ้ายขึ้นมาเล่นเป็นปีกเต็มตัว จากปีกที่เคยเน้นเปิดจากริมเส้นเพียงอย่างเดียว ก็ติดอาวุธเพิ่มด้วยการทำประตูได้มากขึ้น และในที่สุด แม้กระทั่งการยิงฟรีคิก เขาก็ถือเป็นหนึ่งในผู้เชี่ยวชาญเต็มตัว

ผลงานที่แบกทีมท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์สเอาไว้บนบ่าเมื่อฤดูกาลที่แล้ว ทำให้เขากลายเป็นนักเตะยอดเยี่ยมของพีเอฟเออย่างไร้ข้อกังขา รวมถึงกวาดรางวัลส่วนบุคคลมาได้แทบทุกรางวัลในอังกฤษ

ไม่ว่ามหากาพย์ตลาดนักเตะของเบลกับเรอัล มาดริด จะลงเอยอย่างไร สิ่งที่เราอยากเห็นกันไปนานๆ คือ การพัฒนาของเขาในอนาคต

2. ฟรองก์ ริเบรี

ปีกเลือดน้ำหอมเป็นอีกหนึ่งอาวุธหนักของบาเยิร์น มิวนิค ที่ฟอร์มเมื่อฤดูกาลที่แล้วยอดเยี่ยมถึงขั้นที่บางคนอยากยกให้เขาได้รางวัลบัลลงดอร์ในปีนี้ ซึ่งเราคงต้องดูกันอีกทีว่าฟอร์มอันร้อนแรงของเขาจะข่ม เจ้าของสัมปทานเดิมอย่างลิโอเนล เมสซี ลงได้หรือไม่

ริเบรีทำได้ 11 ประตู กับอีก 23 แอสซิสต์ เมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา ทั้งหมดเป็นผลพวงจากความสามารถในการเลี้ยงบอลที่หาตัวจับยาก ความมุ่งมั่นที่สม่ำเสมอในสนาม รวมถึงเทคนิคที่ยอดเยี่ยมตามสไตล์นักเตะจากแดนตราไก่ทั่วๆ ไป

การประสานงานระหว่างเขากับอาร์เยน ร็อบเบน สองปีกผู้เกลียดความพ่ายแพ้มากกว่าใคร คืออีกหนึ่งอาวุธอันตรายของทีมเสือใต้ ที่ทำให้พวกเขาประสบความสำเร็จ เป็นเทรเบิลแชมป์ได้อย่างยิ่งใหญ่เมื่อฤดูกาลที่แล้วอย่างแท้จริง

1. คริสเตียโน โรนัลโด้

ถ้าพูดถึงนักเตะในตำแหน่งปีก คงไม่มีใครมองข้ามคริสเตียโน โรนัลโด้ และไม่ต้องสงสัยเลยว่าเขากลายเป็นตำนานที่ยังค้าแข้งในสนามไปแล้ว ไม่ว่าอนาคตของเจ้าตัวจะยังอยู่กับมาดริด หรือย้ายไปสโมสรอื่นก็ตาม

จากปีกจอมสับที่แฟนบอลปีศาจแดงอาจจะเหนื่อยหน่ายในช่วงแรก โรนัลโด้พัฒนาตัวเองจนกลายเป็นหนึ่งในนักเตะที่ดีที่สุดในโลกคู่กับ ลิโอเนล เมสซี ชนิดที่ถ้าไม่มีสตาร์อาร์เจนไตน์ยืนขวาง โรนัลโด้ก็คงจะกวาดบัลลงดอร์มากองเต็มบ้านแบบไม่ต้องสงสัย

เทคนิคของเขาอยู่ในระดับแถวหน้า รวมถึงลูกยิงอันหนักหน่วงที่ผู้รักษาประตูต้องหวาดหวั่นเสมอ แต่ที่เหนืออื่นใดคือความสามารถทางด้านร่างกาย โดยเฉพาะความเร็วที่ทำให้กองหลังแทบจะหมดความหมายเมื่อเจอจังหวะสวนกลับเร็ว

นอกจากนี้ โรนัลโด้ยังมีอาวุธเป็นลูกกลางอากาศที่เด็ดขาด ซึ่งเป็นสิ่งที่ปีกโดยทั่วไปไม่ค่อยมี ถ้าไม่เชื่อลองนึกย้อนไปถึงจังหวะที่เขาลอยตัวขึ้นโหม่งแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในเกมยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ดูสิ นั่นมันยอดมนุษย์ชัดๆ