เดวิด มอยส์ กุนซือ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยอมรับเข้าใจถึงความคาดหวัง และแรงกดดันจากทุกคนที่เกี่ยวข้องกับ "เร้ด เดวิลส์" ที่ต้องการให้ตนพาทีม "ปีศาจแดง" กวาดแชมป์ได้อย่างต่อเนื่องเหมือนกับยุคของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ยอดบรมกุนซือคนก่อน ยก "เฟอร์กี้" คอยให้คำแนะนำที่ดีเสมอมา และหวังว่าท่านเซอร์จะหายเจ็บจากการผ่าตัดสะโพกโดยไว

เดวิด มอยส์ ผู้จัดการทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทีมดังแห่งศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ยอมรับว่าตัวเองรู้ดีถึงความคาดหวัง และแรงกดดันอันมหาศาลในการพาทีม "ปีศาจแดง" สานต่อความสำเร็จต่อจาก เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ยอดกุนซือคนเก่าให้ได้

 ทั้งนี้ นี่จะเป็นเกมลีกซีซั่นแรกนับตั้งแต่วันที่ 1 กันยายนปี 1986 ที่ "เร้ด เดวิลส์" จะไม่มี "เฟอร์กี้" คอยบัญชาเกมข้างสนาม ซึ่งแข้ง แมนฯ ยูไนเต็ด คนสุดท้ายที่ทำประตูได้ในตอนที่ทีมยังไม่ได้ เซอร์ อเล็กซ์ มาเป็นผู้จัดการทีมคือ ปีเตอร์ ดาเวนพอร์ต อย่างไรก็ตาม มอยส์ หวังว่าจะทำผลงานกับ "ผีแดง" ได้ดีต่อเนื่อง

 "ภายใน 10 นาทีแรกที่เขา (เฟอร์กูสัน) บอกว่าผมได้รับงานนี้ เราก็คุยกันเรื่องทีมทันที ไม่ว่าสิ่งที่จะทำต่อไป รวมทั้งความคาดหวังต่างๆ อย่างเช่นจากสปอนเซอร์ สื่อ และทุกๆ อย่างที่ออกมาจากสโมสรที่ยิ่งใหญ่แห่งนี้ เขาไม่ได้วางท่าใดๆ และรักษามารยาทอีกด้วย เขาไม่ใช่คนนุ่มนวล เขาบอกกับผมอย่างตรงไปตรงมา และบอกว่าอะไรคือความจริง เขาให้คำปรึกษาที่ยอดเยี่ยมกับผมเสมอ ผมอยากให้เขาอยู่ใกล้ๆ ตัวผมจริงๆ เขากำลังพักฟื้นจากการผ่าตัดสะโพก ผมได้ไปเยี่ยมเขา เขาคือบุคคลที่ยิ่งใหญ่จริงๆ" กุนซือวัย 50 ปี ระบุ
 นอกจากนี้ อดีตนายใหญ่ เอฟเวอร์ตัน ยังพูดถึงการที่ต้องมาคุมทีมที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในวงการฟุตบอลอังกฤษอย่าง แมนฯ ยูไนเต็ด ซึ่งนายใหญ่เลือดสกอตต์ ก็ยกย่องตระกูล เกลเซอร์ เจ้าของสโมสรที่ไม่ได้ตื่นตกใจกับการเปลี่ยนตัวผู้จัดการทีมแต่อย่างใด

 "ผมมีเจ้าของทีมที่ดีจริงๆ พวกเขาไม่ใช่คนที่วิตกกังวลอะไรง่ายๆ เรามีสโมสรที่มีเสถียรภาพ เราทราบดีว่าต้องเดินไปทิศทางไหนและต้องทำงานยังไง ที่นี่ไม่เคยตื่นตระหนกซักครั้งเมื่อทีมเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ แม้จะทำไม่ได้ตามที่ตั้งเป้าหมายไว้ ก็ไม่ใช่สิ่งที่จะมารบกวนจิตใจคุณได้ แน่นอน ผมตระหนักถึงงานนี้ดี และจะพยายามสานต่อความสำเร็จให้กับสโมสรต่อไปให้ได้ แต่เจ้าของทีมก็ยอดเยี่ยมจริงๆ ที่มีทั้งความใจเย็น ความตรงไปตรงมา และแรงสนับสนุนจากพวกเขา ซึ่งพวกเขาเห็นแล้วว่าทีมมีเสถียรภาพมากแค่ไหน และความต่อเนื่องคือสิ่งสำคัญ" มอยส์ ทิ้งท้าย