คาร์ดิฟฟ์ ซิตี้ หักปากกาเซียนยกบาง หลังเปิดบ้านเฉือนเอาชนะ "เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ไป 3-2 เฟรเซอร์ แคมป์เบลล์ โขกสองประตู เก็บสามคะแนนสุดมัน ในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 25 สิงหาคม ที่ผ่านมา

 

 ฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ

วันอาทิตย์ที่ 25 สิงหาคม 2556

คาร์ดิฟฟ์ 3-2  แมนเชสเตอร์ ซิตี้


สนาม : คาร์ดิฟฟ์ ซิตี้ สเตเดี้ยม


         คาร์ดิฟฟ์ ซิตี้ เปิดรัง คาร์ดิฟฟ์ ซิตี้ สเตเดี้ยม ต้อนรับ "เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี้ โดยเจ้าถิ่นนำทัพโดย เคร็ก เบลลามี่ และ เฟรเซอร์ แคมป์เบลล์ ขณะที่ทีมเยือน ส่ง เซร์คิโอ อเกวโร่ "กุน" จะผนึกคมแข้ง เฆซุส นาบาส และ ดาบิด ซิลบา เพื่อสนับสนุน หัวหอกเป้า เอดิน เชโก้


        เริ่มเกมมา6นาที เป็นฝ่ายเจ้าบ้าน คาร์ดิฟฟ์ ได้ยิงทักทายก่อน จากลูกฟรีคิกของ ปีเตอร์ วิตติงแฮม บอลแม้โค้งข้ามกำแพงไปแล้ว แต่กลับหมุดออกข้างเสาไปอย่างเฉียดฉิว


        5นาทีต่อมา เจ้าถิ่น คาร์ดิฟฟ์ ยังใช้ลูกตั้งเตะ เล่นงานใส่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แล้วก็มีลุ้น เมื่อ ปีเตอร์ วิตติงแฮม ไปที่หน้าประตู ให้ สตีเว่น คอลเกอร์ วิ่งโฉบมาแป โจ ฮาร์ท ต้องออกแรงเซฟ แต่ผู้ช่วยผู้ตัดสินยกธงล้ำหน้าไปก่อน


        นาทีที่18 แมนฯซิตี้ มีโอกาสได้จบการทำประตูครั้งแรก จากการวางบอลจากฝั่งซ้ายของสนามของ ดาบิด ซิลบา ให้ เอดิน เชโก้ โหม่ง แต่บอลก็หลุดออกหลังไปเยอะ


        เกมผ่านครึ่งชั่วโมงแรก ทั้งสองทีมยังไม่มีจังหวะจะแจ้งยิงประตู ใกล้เคียงสุดเป็นของแมนฯซิตี้ โดยเริ่มต้นจาก เฆซุส นาบาส ไหลบอลให้ เซร์คิโอ อเกวโร่ เปิดไปที่หน้าประตู ก่อนที่ เอดิน เชโก้ จะได้โหม่ง ก็ถูก แมตธิว คอนนอลลี่ ชิงโหม่งตัดหน้าให้บอลเข้ามือ เดวิด มาร์แชลล์ ไป


        5นาทีต่อมา แมนฯซิตี้ มีโอกาสอีกครั้ง จากการปั่นนอกกรอบเขตโทษ ด้วยเท้าซ้ายข้างถนัดของ ดาบิด ซิลบา แต่บอลไม่แรงและตรงตัว เดวิด มาร์แชลล์ จึงรับเข้ามือไม่ยาก


        ช่วงท้ายครึ่งแรก เจ้าถิ่น คาร์ดิฟฟ์ มีโอกาสได้ลุ้น เมื่อ เฟรเซอร์ แคมป์เบลล์ หลุดไปดวลเดี่ยวกับ โจ ฮาร์ท แต่ เฟรเซอร์ แคมป์เบลล์ ยิงไม่ผ่านมือ หมดครึ่งแรกทั้งสองทีมจึงเสมอกันแบบไร้สกอร์ 0-0


        เริ่มครึ่งหลังมาถึงนาทีที่52 แฟนเรือใบได้เฮกันสักที เมื่อ เซร์คิโอ อเกวโร่ แตะบอลให้ เอดิน เชโก้ กดด้วยขวานอกกรอบ แม้จะแฉลบบั้นท้าย สตีเว่น คอลเกอร์ นิดนึง แต่ด้วยความแรง ก็ทำให้บอลพุ่งเสียบตาข่ายอย่างสวยงาม แมนฯซิตี้ บุกนำ 1-0


        3นาทีต่อมา แมนฯซิตี้ เปลี่ยนตัวก่อน โดยส่ง ซามีร์ นาสรี่ ลงมาแทน เฆซุส นาบาส


        นาทีที่60 เจ้าบ้าน คาร์ดิฟฟ์ ได้เฮคืนบ้าง เมื่อ คิม โป-คยอง นักเตะเกาหลี เลี้ยงบอลฝ่าไปถึงเส้นหลังประตู ก่อนหักเข้ากลางให้ เฟรเซอร์ แคมป์เบลล์ ตวัดยิงไปติด โจ ฮาร์ท มาเข้าทาง อารอน กุนนาร์สสัน ตามซ้ำไม่เหลือ คาร์ดิฟฟ์ ตีเสมอ 1-1


        8นาทีต่อมา แมนฯซิตี้ ทำการเปลี่ยนตัวอีกครั้ง โดยส่ง อัลบาโร่ เนเกรโด ลงมาแทน เอดิน เชโก้


        นาทีที่75 แมนฯซิตี้ พยายามบุกเพื่อเอาประตูอีกครั้ง แล้วก็มีโอกาสจากการยิงของ ดาบิด ซิลบา แต่ลูกยิงผิดเป้าออกหลังไปเยอะ


        นาทีต่อมา แมนฯ ซิตี้ เปลี่ยนตัวคนสุดท้าย โดยส่ง เจมส์ มิลเนอร์ ลงมาแทน แฟร์นันดินโญ่


        นาทีที่78 สาวก คาร์ดิฟฟ์ ซิตี้ ได้กรี๊ดกันลั่นทุ่ง เมื่อได้ลูกเตะมุม เตะโดย ปีเตอร์ วิตติงแฮม บอลโค้งไปที่หน้าประตู เฟรเซอร์ แคมป์เบลล์ พุ่งมาโหม่งเต็มหัว ส่งบอลตุงตาข่าย ให้เจ้าบ้าน แซงนำ 2-1


        3นาทีต่อมา แมนฯซิตี้ ได้โอกาส จบสกอร์บ้าง เมื่อ ดาบิด ซิลบา เปิดลูกเตะมุมมาที่หน้าประตู ฆาบี การ์เซีย โถมโหม่ง แต่ ไม่ผ่านมือ เดวิด มาร์แชลล์


        นาทีต่อมา คาร์ดิฟฟ์ เปลี่ยนตัวบ้าง โดยส่ง ดอน โควี่ ลงมาแทน เคร็ก เบลลามี่ กองหน้าวัย34ปีของทีม


        นาทีที่87 คาร์ดิฟฟ์ ตอกย้ำความเจ๋งอีกครั้ง เมื่อได้ลูกเตะมุม เตะโดย ดอน โควี่ มาที่เสาสอง เฟรเซอร์ แคมป์เบลล์ วิ่งฉีกแนวรับ เรือใบ มาเทคโขกเต็มหัว ส่งบอลตุงตาข่าย ให้ คาร์ดิฟฟ์ นำห่าง 3-1


        ช่วงท้ายเกม คาร์ดิฟฟ์ เปลี่ยนตัวอีก โดยส่ง จอร์ดอน มัตช์ ลงมาแทน คิม โป-คยอง


        นาทีที่92 แมนฯซิตี้ ได้ประตูตีตื้น เมื่อ ดาบิด ซิลบา เปิดบอลให้ อัลบาโร่ เนเกรโด ลอยตัวโหม่งเต็มหัว ส่งบอลเข้าประตูให้ ทีมเยือนไล่ตาม 2-3


        ก่อนช่วงเวลาที่เหลือทั้งสองทีมทำอะไรกันเพิ่มไม่ได้ หมดเวลา คาร์ดิฟฟ์ หักปากกาเซียนยกแผง เปิดบ้านเอาชนะ แมนฯซิตี้ ไปอย่างสนุก 3-2

11นักเตะของทั้งสองทีม

คาร์ดิฟฟ์ (4-4-2):เดวิด มาร์แชลล์;แมตธิว คอนนอลลี่,สตีเว่น คอลเกอร์,เบน เทอร์เนอร์, แอนดรูว์ เทย์เลอร์;อารอน กุนนาร์สสัน, แกรี่ เมเดล,คิม โป-คยอง, ปีเตอร์ วิตติงแฮม;เคร็ก เบลลามี่,เฟรเซอร์ แคมป์เบลล์

สำรอง:มาร์ค ฮัดสัน,อันเดรียส คอร์เนเลียส,เคร็ก นูเน่,จอร์ดอน มัตช์,ดอน โควี่,นิกกี้ เมย์นาร์ด,โจ ลูอิส

 แมนฯ ซิตี้ (4-2-3-1):โจ ฮาร์ท;ปาโบล ซาบาเลต้า, ฆาบี การ์เซีย, โจเลียน เลสค็อตต์, กาแอล กลิชี่;แฟร์นันดินโญ่, ยาย่า ตูเร่; เฆซุส นาบาส, ดาบิด ซิลบา, เซร์คิโอ อเกวโร่ "กุน" ;เอดิน เชโก้

สำรอง:เจมส์ มิลเนอร์,ซามีร์ นาสรี่,อัลบาโร่ เนเกรโด,อเล็กซานเดอร์ โคลารอฟ,แจ๊ค ร็อดเวลล์,คอสเทล พานติลิมอน,มาติย่า นาสตาซิช

  ผู้ตัดสิน : ลี โพรเบิร์ต