เดอะ แฮปปี้ วัน ยอมรับความพ่ายแพ้อย่างไม่ค่อยแฮปปี้ เพราะเชื่อว่า ลูกทีมของตนเป็นฝ่ายที่เหนือกว่าอย่างชัดเจน

โชเซ มูรินโญ มั่นใจว่า เชลซีของเขา เป็นทีมที่ดีกว่า บาเยิร์น มิวนิค แม้จะลงท้ายด้วยความพ่ายแพ้ต่อแชมป์ยุโรปใบใหญ่ ในศึกยูฟา ซูเปอร์คัพพ เมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา

เชลซีของโชเซ มูรินโญ ออกนำอย่ารวดเร็วจากเฟร์นานโด ตอร์เรส ก่อนที่เสือใต้จะค่อย ๆ ครองเกมได้ และตีเสมอในช่วงต้นครึ่งหลังโดยฟรองก์ ริเบรี สองทีมบดกันอย่างเข้มข้นในครึ่งหลัง เชลซีมีผู้เล่นได้ใบเหลืองเยอะขึ้นเรื่อย ๆ จนรามิเรสมาโดนเหลืองที่สองในนาทีที่ 85 หักกันไม่ลง ต้องต่อเวลาพิเศษ ซึ่งเชลซีมาได้ประตูขึ้นนำอย่างรวดเร็วอีกครั้ง จาก เอเด็น อาซาร์ แชมป์ยูโรปาลีกทำท่าจะรักษาสกอร์นี้ไว้ได้ จนมาโดนทีเด็ดของ ฆาบี มาร์ติเนซ ในนาทีสุดท้าย เกมจึงต้องยืดเยื้อถึงการดวลจุดโทษ และกลายเป็น โรเมลู ลูกากู ที่ต้องฝันร้าย ยิงจุดโทษลูกสุดท้ายไปถูกมานูเอล นอยเออร์ เซฟไว้ จบเกมสุดเข้มข้นด้วยชัยชนะของเทรบเบิลแชมป์เมืองเบียร์

"ทีมที่ควรค่ากับชัยชนะมากกว่าเป็นฝ่ายแพ้ แต่ฟุตบอลก็แบบนี้ ทีมที่ดีที่สุดไม่ได้ชนะเสมอไป ถึงอย่างนั้นมันก็ยอมรับได้ นี่ล่ะครับฟุตบอล" มูรินโญกล่าวหลังเกมแบบตรงไปตรงมาเช่นเคย

"มีสัก 15 นาทีในครึ่งหลังที่พวกเขาเอาเราอยู่หมัด แต่รวม ๆ แล้ว เราคุมเกมไว้ได้หมด แม้จะเหลือสิบคน เราก็ยังเล่นได้อย่างยอดเยี่ยม ทั้งที่ต้องเจอกับทีมที่ดีขนาดนั้น

"เรื่องสมศักดิ์ศรีมันก็โอเคอยู่ แต่เราแพ้นั่นแหละ คุณอาจจะบอกว่าเราโชคร้าย หรือเราทำพลาด ก็ไม่รู้สินะ ถ้าฟุตบอลจะยุติธธรรมกว่านี้สักหน่อย ผมว่าเราคงชนะเกมนี้"

เดอะ แฮปปี้ วัน ยังเผยว่า ประสบการณ์ของเขาช่วยได้มาก ในยามที่ทีมต้องเสียเปรียบตัวผู้เล่น "ฟุตบอลเล่นข้างละ 11 คน แต่เมื่อต้องสู้กับ 11 คน ด้วย 10 คน มันก็ยากขึ้นสำหรับฝั่ง 10 คน และง่ายขึ้นสำหรับฝั่ง 11 คน ผมเองมีประสบการณ์ชั้นยอดในการเล่น 10 คน ในเกมระดับยุโรป ดังนั้น ผมจึงตอบสนอง และคุมทีมให้เล่นได้อย่างสูสีด้วยคนแค่สิบคนได้

"ด้วยผู้เล่นที่อ่อนล้า 10 คน เรายังสร้างโอกาสทำประตูได้ มันชัดเจนว่าพวกเขาทุ่มเททุกอย่างที่มี ส่วนผมก็เพียงคอยช่วยเหลือพวกเขา"