ตั้งแต่เปิดตัวคบกันก็มีเรื่องราวไม่หยุดสำหรับคู่ "แตงโม ภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์" และ "โตโน่ ภาคิน คำวิลัยศักดิ์" เพราะไหนจะกระแสแอนตี้ ไหนจะภาพสนทนาไลน์หลุดออกมา แต่ทั้งคู่ก็ยังยืนหยัดและไม่คิดมากในเรื่องที่ผ่านมา

เมื่อได้เจอ "แตงโม" ในงาน "Perfect Slim" ณ ศูนย์การค้า เซ็นทรัล พลาซา แจ้งวัฒนะ ก็เลยเข้าไปสอบถามสักหน่อยว่าเรื่องราวมันเป็นยังไง ซึ่งเจ้าตัวก็บอกว่า "ก็ได้เห็นแว๊บหนึ่งแล้วค่ะ มันก็คงเป็นเรื่องเดิมๆ แต่ว่าข้อมูลในข่าวนั้นก็ยืนยันว่าเป็นข้อมูลจากโมเองจริง แต่ว่ามันเป็นข้อมูลที่ใครอ่านก็ค่อนข้างจะรู้สึกดีเลยเป็นประเด็นที่ไม่ค่อยหนักอะไรแบบนี้ ไลน์อันที่ 2 มันเป็นอันที่โมกับพี่โน่เพิ่งเป็นข่าวใหม่ๆ ก็ตามนั้นแหละค่ะ"

โตโน่รู้หรือเปล่า

"รู้ค่ะ โมมีอะไรก็ปรึกษาพี่โน่เขาตลอดเวลา เขาก็ไม่ได้ว่าอะไรเพราะมันเป็นเรื่องอดีต รายที่ 2 มันอาจจะคาบเกี่ยวตอนที่โมเจอพี่โน่แล้วแต่มันก็เป็นไลน์ที่โมได้ยืนยันไปแล้วว่าเหตุผลเป็นเพราะอะไร เราก็มีบทสรุปที่ตรงกันทั้งคู่ว่าอดีตก็คืออดีตค่ะ เราไม่ได้สนใจอดีตซึ่งกันและกันเพราะเราเลือกจะเดินไปข้างหน้าก็อย่าเอาอดีตมาฉุดรั้งตัวเราให้ไม่มีความสุข"

พูดแบบนี้เหน็บใครหรือเปล่า

"ก็ขอไม่เอ่ยถึงบุคคลที่ 3 หรือเอ่ยถึงใคร เอาเป็นว่าเอ่ยถึงปัจจุบันแล้วกันค่ะ พี่เขาก็ขยันทำงานอย่างที่ทุกๆ คนเห็นว่าพี่โน่งานเยอะ ส่วนที่เขามาขอคืนดีหรือเปล่าโมขอไม่พูดถึงนะคะ เพราะมันเป็นเรื่องที่เซ็นซิทีฟและอาจจะกระทบจิตใจกับใครหลายๆ คน"

แล้วที่เราเขียนแบบนั้นเราไปทำอะไรผิดมาหรือเปล่า

"โมที่จะเลือกเดินไปข้างหน้า ถ้าเกิดการเลือกของโมไม่ว่าจะถูกใจและไม่ถูกใจใครก็ขอโทษไว้ก่อนค่ะ"

แต่เห็นไลน์มีการปล่อยออกมาเรื่อยๆ เราติดใจอะไรหรือเปล่า

"ไม่ติดใจเลยเพราะอันไหนที่เป็นความจริงและออกจากโมจริงๆ โมก็จะออกมายอมรับแบบนี้ค่ะ บางทีคนเขาอาจจะคิดว่าเราอาจจะตรงเกินไปแต่โมคิดว่ามันก็ยังดีกว่าโมออกมาโกหกว่าใครเขาออกไลน์แกล้งโม ไม่รู้ หรือโดนแต่งเรื่องขึ้นมา แบบนั้นมันจะทำให้ความเชื่อถือในตัวโมลดลง โมทำไม่ลงค่ะ โมก็คิดว่าหลังจากนี้จะมีอะไรหลุดออกมาอีกไหมความจริงก็คือความจริงค่ะ"

ได้ยินว่าเราเลี้ยงลูกบุญธรรมกับโตโน่

"ไม่ได้เลี้ยงกับพี่เขาค่ะ คือโมมีลูกบุญธรรมเป็นน้องทางภาคใต้ ก็เลี้ยงผ่านทางมูลนิธิศุภนิมิตซึ่งดาราหลายคนก็ร่วมกับมูลนิธิหลายคนเลยค่ะ แต่ด้วยความที่วันที่ 13 จะเป็นวันเกิดโม ทางมูลนิธิก็ใจดีจัดวันเกิดให้ เขาก็พาน้องที่เป็นลูกบุญธรรมมาเจอ ก็ฝากพี่ๆ สื่อและแฟนคลับที่ว่างและอยู่แถวพารากอนในวันนั้นเวลาบ่าย 3 โมง ก็ไปร่วมแสดงความยินดีกับหลายๆ คนที่ได้รับอุปการะเด็กและไปเบิร์ธเดย์โมกันได้ที่นั่นซึ่งจะได้เจอลูกบุญธรรมของโมด้วย ก็เลี้ยงได้ประมาณ 6 ปี น้องๆ เขาก็โตหมดแล้ว ส่วนของพี่โน่เขามีลูกบุญธรรมเป็นยีราฟอยู่ที่สวนสัตว์ดุสิตซึ่งจะมีรูปพี่โน่ติดไว้ข้างหน้าให้เห็นว่าเป็นลูกของพี่โน่ค่ะ"

แบบนี้จะพาโตโน่ไปแนะนำกับลูกบุญธรรมของเราไหม

"คงไม่มีโอกาสเพราะพี่โน่ทำงาน แต่ก็เคยเล่าให้ฟังว่ามีลูกแล้ว เขาก็บอกว่าเขาก็มีลูกเป็นยีราฟกับเสือค่ะ"

มันมีกระแสว่าเราจะหมั้นกันในเดือนธ.ค.

"ยังไม่มีนะคะ เรายังทำงานกันอยู่ดังนั้นเรื่องการแต่งงานก็คงยังอีกยาวไกล เราก็เพิ่งคบกันได้ไม่กี่เดือน ก็ขอเวลาทำงานเป็นหลักก่อนค่ะ เอาให้งานสำเร็จไปด้วยดีและรักษาความมั่นคงในงานแบบนี้ไว้ไปเรื่อยๆ ก่อน ส่วนเรื่องส่วนตัวก็ค่อยเอาไว้เป็นเรื่องรองลงมา ถ้าเกิดงานอยู่ตัวแล้วเรื่องส่วนตัวจะเป็นยังไงเดี๋ยวจะมาอัพเดทให้ฟัง"

ตั้งแต่ประกาศคบกันก็มีเรื่องเข้ามาตลอด เรารู้สึกท้อบ้างไหม

"ช่วงแรกๆ อาจจะมีท้อเพราะโมรู้สึกว่าโมไม่ได้ทำอะไรผิด โมไม่ได้ไปฆ่าคนหรือไปทำเรื่องร้ายแรงเหมือนคนอื่นๆ แต่พอเวลาผ่านไปทุกอย่างมันก็พิสูจน์ตัวเองค่ะ เราก็พากันทำแต่เรื่องดีๆ ที่มีประโยชน์ บางคนเขาก็ยกให้เราเป็นคู่เที่ยวไทยซึ่งมันก็เป็นเรื่องที่ดี บางคนเขาก็รู้สึกว่าเราเป็นคู่ตัวอย่างที่หนักแน่นพอให้คู่อื่นๆ เขาหนักแน่นตามเรา เพราะฉะนั้นสิ่งที่ดีมันมากกว่าสิ่งที่ไม่ดี เราก็หยิบเรื่องดีๆ มาเป็นกำลังใจให้เราทั้ง 2 คนมากกว่า ส่วนสิ่งที่จะทำให้เราท้อมันก็ถูกลืมไปหมดแล้วค่ะ ตอนนี้ทุกคนเขาก็เข้าใจโมมากขึ้น โมพูดได้เต็มปากเลยว่าโมไม่จำเป็นจะต้องสู้กับอะไรอีกแล้ว มีแต่คำว่าขอบคุณที่ทุกๆ คนได้เปิดใจและให้โอกาสเราทั้ง 2 คนมากขึ้น ก็ต้องขอขอบคุณทั้งแฟนคลับพี่โน่ แฟนคลับโม หรือใครก็ตามค่ะ"