ชิชาริโต้ ยังเป็นตัวทีเด็ดของ "ปีศาจแดง" แมนฯ ยูไนเต็ด ล่าสุดซัดประตูชัย 1-0 เขี่ย "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล อริตลอดกาล ร่วงตกรอบฟุตบอล ลีกคัพ เพียงแค่รอบสาม ในศึกฟุตบอลแคปิตอล วัน คัพ อังกฤษ รอบ 32 ทีมสุดท้าย เมื่อวันพุธที่ 25 กันยายน ที่ผ่านมา

 

ฟุตบอลแคปิตอล วัน คัพ อังกฤษ รอบ 32 ทีมสุดท้าย

วันพุธที่ 25 กันยายน 2556

แมนฯ ยูไนเต็ด (พรีเมียร์ลีก) 1-0 ลิเวอร์พูล (พรีเมียร์ลีก)

สนาม : โอลด์ แทรฟฟอร์ด

     เริ่มเกมการแข่งขัน ปีศาจแดง เจ้าบ้านเปิดเกมบุกเข้าใส่ทันที และเพียงแค่นาทีที่ 4 นานี่ ก็ได้โอกาสยิงจากหน้ากรอบเขตโทษ แต่บอลแฉลบกองหลังลิเวอร์พูล ออกหลังไป


     นาทีที่ 9 เป็นเจ้าบ้านที่ได้ลุ้นอีกครั้ง ชินจิ คางาวะ ล็อกบอลหลบ โคโล่ ตูเร่ ก่อนยิงด้วยขวาในเขตโทษแต่เบาไป ซิมง มินโญเลต์ ล้มตัวรับเข้าซองได้ไม่ยาก


     นาทีที่ 12 ลิเวอร์พูล ทีมเยือนทำเกมขึ้นมาได้สวย หลุยส์ ซัวเรซ ผ่านบอลให้ โฆเซ่ เอ็นริเก้ บรรจงเปิดบอลโค้งไปที่เสาสอง บอลกำลังจะถึง แดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ อยู่แล้ว แต่ อเล็กซานเดอร์ บุทท์เนอร์ โหม่งออกหลังไปได้หวุดหวิด


     นาทีที่ 20 แดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ วิ่งเบียดกับ จอนนี่ อีแวนส์ เข้าไปในเขตโทษก่อนยิงด้วยขวาแต่บอลหลุดกรอบออกไป


     ถัดจากนั้น 2 นาที หงส์แดงได้ลุ้นอีกครั้ง โฆเซ่ เอ็นริเก้ เปิดบอลยาวเข้าไปในเขตโทษ จอนนี่ อีแวนส์ โหม่งสกัดพลาด หลุยส์ ซัวเรซ จับบอลได้แต่ก็ยาวไป ดาบิด เด เคอา วิ่งมาล้มตัวรับไว้ได้


      ผ่านครึ่งชั่วโมง ทั้งสองทีมยังผลัดกันรุกรับกันต่อเนื่อง แต่ยังไม่มีจังหวะจบสกอร์แบบจะแจ้ง


      นาทีที่ 39 ลูคัส เลว่า รับใบเหลืองแรกของเกมหลังไปตัดเกมใส่ ฟิล โจนส์ ที่บริเวณกลางสนาม


      นาทีที่ 41 ไรอัน กิ๊กส์ โดนใบเหลืองจากจังหวะที่ไปทำฟาวล์ใส่ วิคเตอร์ โมเสส ทางด้านหลัง


     หมดครึ่งเวลาแรก ทั้งสองทีมยังทำอะไรกันไม่ได้เสมอกันอยู่ 0-0


      กลับมาเล่นกันต่อในครึ่งหลังเพียงแค่นาทีเดียว สาวกปีศาจแดงก็ได้เฮ จากลูกเตะมุม เวย์น รูนี่ย์ เปิดเข้าไปหน้าประตู ชิชาริโต้ วิ่งฉีกหนีตัวประกบก่อนแปด้วยขวาจ่อๆเข้าประตูไม่เหลือ แมนฯยูไนเต็ด ออกนำ 1-0


     นาทีที่ 50 ทีมเยือนได้ลุ้นประตูตีเสมอจากจังหวะที่ โคโล่ ตูเร่ เปิดบอลเข้าไปหน้าประตู แต่ แดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์  ชาร์จไม่โดนบอลผ่านหน้าประตูออกข้างไป


      นาทีที่ 52 โคโล่ ตูเร่ โดนใบเหลืองจากการไปทำฟาวล์เพื่อหยุดเกมใส่ เวย์น รูนี่ย์


     นาทีที่ 54 ลิเวอร์พูลพลาดโอกาสตีเสมออีกครั้ง วิคเตอร์ โมเสส แย่งบอลกับ จอนนี่ อีแวนส์ ในกรอบเขตโทษ บอลกระดอนมาเข้าทาง จอร์แดน เฮนเดอร์สัน แปด้วยขวาหลุดกรอบออกไปอย่างน่าเสียดาย


     นาทีที่ 64 เจ้าบ้านเกือบได้ประตูหนีห่าง ชินจิ คางาวะ พลิกบอลหลบ ลูคัส เลว่า ก่อนลากเข้าไปยิงด้วยซ้ายระยะ 20 หลา บอลพุ่งเช็ดคานออกหลังไป


      นาทีที่ 68 ลิเวอร์พูล เปลี่ยนตัวโดยถอดเอา ลูคัส เลว่า ออกและส่ง มาร์ติน เคลลี่ ลงสนามแทน


     นาทีที่ 70 หงส์แดงน่าจะได้ประตูตีเสมอแบบสุดๆ จากจังหวะที่ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน เปิดบอลเข้าเขตโทษกองหลังแมนฯยูฯเคลียร์บอลไม่ดี โฆเซ่ เอ็นริเก้ เก็บได้ก่อนเปิดยัดเข้าไปหน้าประตู วิคเตอร์ โมเสส พุ่งโหม่งเต็มหัว แต่ ดาบิด เด เคอา ปัดเอาไว้ได้


      นาทีต่อมา ฟิล โจนส์ รับใบเหลืองหลังไปเจตนาทำฟาวล์ใส่ หลุยส์ ซัวเรซ ที่กำลังจะหลุดเข้าเขตโทษ และจากจังหวะลูกฟรีคิก หลุยส์ ซัวเรซ บรรจงปั่นด้วยขวาบอลแฉบลกำแพงชนคานออกหลังไป


      นาทีที่ 74 เจ้าบ้านเปลี่ยนตัวทีเดียวสองคน โดยส่ง ไมเคิ่ล คาร์ริค กับ อัดนาน ยานูไซ ลงสนามาแทน ชินจิ คางาวะ กับ ชิชาริโต้


      นาทีที่ 75 จอร์แดน เฮนเดอร์สัน โดนใบเหลืองหลังไปเจตนาทำฟาวล์ใส่ เวย์น รูนี่ย์ ที่กำลังจะหลุดเข้าเขตโทษ


     นาทีที่ 76 ปีศาจแดงได้ลุ้นอีกครั้ง เวย์น รูนี่ย์ ปั่นฟรีคิกหน้าเขตโทษ บอลพุ่งจะเสียบเสาอยู่แล้ว แต่ ซิมง มินโญเลต์ พุ่งปัดไว้ได้ปลายมือ


     นาทีต่อมา เวย์น รูนี่ย์ ลากบอลเข้าเขตโทษก่อนซัดด้วยขวาเต็มแรงแต่ ซิมง มินโญเลต์ ก็ยังพุ่งปัดเอาไว้ได้


      นาทีที่ 80 หงส์แดงเปลี่ยนตัวเอา ราฮีม สเตอลิ่ง ลงสนามไปแทน วิคเตอร์ โมเสส


     นาทีที่ 87 ทีมเยือนได้เตะมุม สตีเว่น เจอร์ราร์ด เล่นสั้นจ่ายให้ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน เปิดบอลด้วยขวา แต่บอลติดไซด์โค้งเลี้ยวจะเข้าเสาแรกดีที่ ดาบิด เด เคอา ไม่หลงพุ่งไปปัดบอลเอาไว้ได้


      นาทีที่ 90 ปีศาจแดง เปลี่ยนตัวคนสุดท้ายโดยส่ง แดนนี่ เวลเบ็ค ลงสนามไปแทน นานี่


     จบเกมการแข่งขัน "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เปิดบ้านเฉือนชนะ "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล 1-0 ผ่านเข้ารอบสี่ต่อไป

     11ผู้เล่นของทั้งสองทีม

     แมนฯ ยูไนเต็ด : ดาบิด เด เคอา ; ราฟาเอล ดา ซิลวา, คริส สมอลลิ่ง, จอนนี่ อีแวนส์, อเล็กซานเดอร์ บุทท์เนอร์ ; ชินจิ คางาวะ, ไรอัน กิ๊กส์, นานี่, ฟิล โจนส์ ; ชิชาริโต้, เวย์น รูนี่ย์

     สำรอง : เบน อามอส, ฟาบิโอ ดา ซิลวา, แอนเดอร์สัน, ไมเคิ่ล คาร์ริค, อัดนาน ยานูไซ, วิลฟรีด ซาฮา, แดนนี่ เวลเบ็ค

     ลิเวอร์พูล : ซิมง มินโญเลต์ ; โคโล่ ตูเร่, มาร์ติน สเคอร์เทล, มามาดู ซาโก้, โฆเซ่ เอ็นริเก้ ; จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, สตีเว่น เจอร์ราร์ด, ลูคัส เลว่า, วิคเตอร์ โมเสส ; แดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์, หลุยส์ ซัวเรซ

     สำรอง : แบร็ด โจนส์, หลุยส์ อัลแบร์โต้,ราฮีม สเตอลิ่ง,จอร์ดอน อิเบ, มาร์ติน เคลลี่, อังเดร วิสดอม, ยาโก้ อัสปาส


     ผู้ตัดสิน : มาร์ค แคล็ตเท่นเบิร์ก