ความคืบหน้าคดีสังหารอดีตนักกีฬายิงปืนทีมชาติไทย ''เอ๊กซ์'' จักรกฤษณ์ พณิชย์ผาติกรรม ซึ่งโดนคนร้ายลั่นไกสังหารอย่างอุกอาจ ย่านซอยรามคำแหง 166 (สุขาภิบาล 3) กทม. เมื่อเย็นวันที่ 19 ต.ค. ที่ผ่านมา ส่งผลให้แม่นปืนวัย 40 ปี ที่รับใช้ชาติในฐานะนักกีฬายิงปืนมากว่า 20 ปีต้องจบชีวิตลงกะทันหัน

ซึ่งล่าสุด พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เป็นประธานประชุมเร่งรัดคดี ที่ห้องประชุมปารุสกวัน 2 ชั้น 2 กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) เมื่อ 21 ต.ค. ที่ผ่านมา โดยมีคณะทำงานสืบสวน และสอบสวน รวมทั้ง พ.ต.อ.สราวุธ จินดาคำ ผู้กำกับการสถานีตำรวจนครบาลมีนบุรี เจ้าของคดี และสน.พื้นที่ร่วมให้ข้อมูลหลังจากที่คณะทำงานได้สอบสวน-สืบสวนพยาน, หลักฐานเบื้องต้น และมีการจำลองเหตุการณ์ฆาตกรรม โดยใช้เวลาประชุมสรุปประมาณกว่า 1 ชม. ก่อนที่จะเปิดโอกาสให้สื่อมวลชนได้ร่วมรับฟังการแถลงผลการประชุม

''บิ๊กแจ๊ด'' พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง เผยหลังประชุมเสร็จสิ้นว่า ในวันนี้บช.น.ได้ประชุมเพื่อเร่งรัดคดี 3 คดี ได้แก่ คดีเพลิงไหม่ย่านคลองเตย, คดีปล้นร้านทองย่านโชคชัย 4 และอีกคดีเป็นคดีของ นายจักรกฤษณ์ พณิชย์ผาติกรรม นักกีฬายิงปืนทีมชาติไทย ที่โดนคนร้ายประกบยิงเสียชีวิตอยู่ในความสนใจของประชาชน

และสื่อมวลชนในขณะนี้ ที่ผ่านมาได้มีการประชุมเร่งรัด และมอบหมายให้ทุกฝ่ายทำงานอย่างเต็มที่ เนื่องจากเป็นการกระทำที่อุกอาจ และเป็นฝีมือของมือปืนรับจ้างที่เข้ามาทำงานในกรุงเทพฯ ยืนยันว่าเป็นการประชุมถึงประเด็น และสาเหตุต่างๆ และได้กำหนดแนวทางการสืบสวน และมอบการบ้านให้คณะสืบสวนไปทำงาน

 ''ประเด็นต้องตั้งไว้หลายประเด็น ครอบครัว, พระเครื่อง, ยาเสพติด ไม่มีการละทิ้ง แม้แต่การขัดแย้งในสมาคมยิงปืนฯ ด้วยกันเองก็ตาม ซึ่งไม่รู้ว่าเอ๊กซ์มีสาเหตุกับใครอะไรบ้าง ต้องหาหลักฐานพยานต่างๆ ไม่เพียงแต่เจ้าตัวจะไปอยู่นครปฐมตามที่ทราบมาเท่านั้น แต่เราทราบว่าเอ๊กซ์ยังไปอยู่ที่อื่นอีกหลายแห่ง ขอตรวจสอบก่อนว่าทำไมถึงต้องไปอยู่ที่โน่นที่นี่ 3-4 จุด
  
ส่วนภาพวงจรปิดพอเห็นรูปพรรณสัญฐานคนร้ายแต่ไม่ชัดเจนเท่าที่ควร เพราะช่วงนั้นเป็นช่วงมืดๆ เวลาประมาณ 18.40 น. จะพยายามหาหลักฐานให้มากที่สุด ถามว่าการจำลองเหตุการณ์เป็นคนร้ายตัวเล็กมั้ย ยังไม่ทราบ และรถจักรยานต์ที่ใช้ก่อเหตุ ยังไม่ทราบชัดเจนร้อยเปอร์เซ็นต์ว่าเป็นรุ่นใด แต่ได้ให้แฟนพันธุ์แท้ดูรายละเอียดแล้ว ซึ่งเราไม่อยากฟันธงว่าเป็นในแนวทางใด ไม่ฟันธงว่าคนร้ายมาดักรอ หรือรอโอกาสแล้วมาดักยิง กลัวตั้งโจทย์ผิด และดคีผิดไปเลย''

ผบช.น. กล่าวอีกว่า ตอนนี้ได้แบ่งงานกันทำว่าใครรับผิดชอบส่วนใดบ้าง ได้มอบหมายกันแล้ว สืบสวน และสอบสวนจะต้องทำงานควบคู่กันไป ส่วนข่าวที่ออกมาว่าเป็นเรื่องพระเครื่อง ไม่ทราบเหมือนกันว่าอย่างไร เพราะตราบใดที่สืบสวนชัดเจนไม่ได้ก็ฟันธงไม่ได้ อย่างไรก็ตามจะมีการสอบปากคำครอบครัว และผู้เกี่ยวข้องกับทุกคนเพิ่มเติม รวมทั้งกลุ่มฮาร์เลย์ไอ้มดแดงที่เป็นกลุ่มเดียวกันกับผู้ตายด้วย และในวันที่ 23 ต.ค. นี้จะมีการประชุมสรุปอีกครั้ง ในเวลา 10.00 น. ที่บช.น. น่าจะมีความคืบหน้ามากกว่านี้