สร้างกระแสความฮือฮาให้วงการแฟชั่นอีกครั้งกับการแสดงแฟชั่นโชว์บนเวที “บางกอกแฟชั่นวีค 2013” (B/FW )ที่จัดขึ้นเมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยที่บรรดานางแบบรุ่นเล็กรุ่นใหญ่ยกทีมมาขึ้นโชว์ความเซ็กซี่กันอย่างอะร้าอร่ามตา โดยเฉพาะนางแบบก้านยาว “โย” ยศวดี หัสดีวิจิตร และ “เอเลี่ยน” กัญญณัท บำรุงพงษ์ ที่โนบราทาผิวสีทอง

เปิดเต้าเปิดจุกกันเลยทีเดียว ขณะที่นางแบบรุ่นเอ๊าะ “สตางค์” ดิษย์ลดา ดิษยนันทน์ ทายาทค่ายละคร กันตนา ก็โนบราโชว์สีข้างเต้าอวดความเป็นสาวสะพรั่ง อีกทั้ง “สิ” พิญช์สินี ตันวิบูลย์ ที่งานนี้จัดเต็มในชุดกระโปรงซีทรู โชว์แก้มก้นและหน้าอกหน้าใจที่ดูตู้มผิดหูผิดตา นอกจากนี้ยังมีแฟชั่นสวยๆ จากพระนางสุดฮอต “แพนเค้ก” เขมนิจ จามิกรณ์, “ญาญ่า” อุรัสยา สเปอร์บันด์, ณเดชน์ คูกิมิยะ, “เคน” ภูภูมิ พงศ์ภานุ ฯลฯ
จากการโชว์แฟชั่นของเหล่านางแบบบนเวที B/FW นี้เอง ที่ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สร้างกระแสความสนใจได้มากถึงขนาดมีการพูดคุยในกลุ่มผู้ชมแฟชั่นโชว์ว่า ฮือฮามากกว่าเวทีแฟชั่นโชว์อย่าง “แอล แฟชั่นวีค” ที่เพิ่งจัดไปก่อนหน้านี้ไม่นาน เนื่องจากว่าเวทีก่อนหน้านั้นไม่ค่อยได้เห็นหน้าค่าตานางแบบอาชีพไปเดินกันมากมายนัก จนทำให้มีข่าวว่านางแบบอาชีพจำนวนหนึ่งวางมือหรือแขวนคัทชูกันไปเลยทีเดียว

ครั้นผู้สื่อข่าวมีโอกาสได้สอบถามนางแบบสาว “เข็ม” ลภัสรดา ช่วยเกื้อ นางแบบอาชีพอีกคนที่ร่วมขึ้นโชว์ในงาน บางกอก แฟชั่นวีค ครั้งนี้ด้วย แม้ว่างานนี้ สาวเข็ม จะไม่ได้โชว์เซ็กซี่หวือหวาเหมือนที่เคยโชว์ในอดีต แต่เธอก็ได้เปิดใจถึงมุมมองของเวทีแฟชั่นโชว์ 2 เวทีใหญ่อย่าง แอล แฟชั่นวีค และ บางกอก แฟชั่นวีค ที่ถูกจับเอามาเปรียบเทียบกระแสความฮือฮากันว่า

“เข็มคิดว่าแล้วแต่มุมมองของคนมากกว่า แต่เข็มอยากเรียนว่าทุกวันนี้เสื้อผ้ามันออกมาเยอะมากเหลือเกิน แต่ละแบรนด์มันก็ไม่ค่อยต่างกันเท่าไหร่ ในมุมส่วนตัวที่ยังเป็นนางแบบอยู่นะ ที่นี้เนี่ย คนก็อยากดูดีไซเนอร์รุ่นใหญ่ ก็อาจจะเป็นข้อเปรียบเทียบกันมากกว่าว่าทำไม 2 เวทีนี้แตกต่างกัน อย่าง BFW เนี่ย ก็มี 5 ไทยดีไซเนอร์ 5 ดีไซเนอร์เอเชีย ส่วนงานแอล ถามว่าไม่ค่อยมีนางแบบรุ่นใหญ่เดินแล้วมีข่าวว่าวางมือหรือเปล่า เอ่อ...ก็ต้องเข้าใจเนอะว่าหนึ่งการทำโชว์แต่ละโชว์มันมีงบจำกัด ถูกมั้ยคะ ถ้าโชว์หนึ่ง โอเคทางนี้จ่ายให้นายแบบนางแบบ 20 คน ด้วยดีไซเนอร์ใหม่เกิดขึ้นมาเยอะ เขาก็อาจจะใช้เด็กๆ มากกว่า (ไม่ใช่รุ่นใหญ่มีปัญหากับเวทีแอลใช่มั้ย?) ไม่เกี่ยวค่ะ เราผูกพันกับแอล อย่างเข็มเนี่ยเดินมาตั้งแต่ปีแรกกับแอล เราก็ผูกพัน แต่ทีนี้ก็ต้องเข้าใจดีไซเนอร์ด้วยว่าอันนี้เราอาจจะไม่เหมาะกับเสื้อผ้าเขา รุ่นเข็มอาจจะไม่เหมาะกับเสื้อผ้าเขา เพราะส่วนใหญ่จะค่อนข้างเป็นแบรนด์ใหม่ เด็กๆ หน่อยอะไรอย่างนี้ค่ะ ก็เลยอาจจะไม่ค่อยได้เห็นรุ่นเข็มขึ้นไปเดินสักเท่าไหร่”

ผู้สื่อข่าวถามต่อถึงการขึ้นเวที บางกอก แฟชั่นวีค ที่เธอร่วมโชว์ให้แบรนด์ดัง “นาการ่า” นั้น สาวเข็มบอกว่าสนุกสนานดี เพราะเวทีนี้มีนางแบบอาชีพรุ่นใหญ่มาร่วมโชว์มากมาย อย่าง “ลูกเกด” เมทินี กิ่งโพยม, “ซินดี้” สิริยา บิชอพ, “นก” สินจัย เปล่งพานิช ฯลฯ ทำให้รู้สึกว่านี่เป็นแคทวอล์คในบรรยากาศเดิม พอถามว่า ตรงนี้หรือเปล่าที่ทำให้เวทีนี้ดูฮือฮากว่าอีกเวทีหนึ่ง สาวเข็ม ก็บอกเพียงว่า แล้วแต่มุมมองของแต่ละคน

กระทั่งผู้สื่อข่าวถามว่า ทางด้าน โย-ยศวดี ยังโชว์วาบหวิวบนแคทวอล์คเหมือนเดิม แต่เธอไม่โชว์เซ็กซี่แบบนี้แล้วหรือเปล่า สาวเข็ม ก็เปิดใจอีกครั้งว่า เมื่อก่อนยอมรับว่าเป็นวัยทำงานที่สนุกสนาน แต่ตอนนี้โตมาอีกระดับขั้นชีวิตแล้ว เลยขอวางมือจากการโชว์เซ็กซี่ดีกว่า

“อืม อันนี้ความคิดเข็มนะ คือช่วงนี้เข็มเล่นละครเยอะขึ้นด้วย ทำพิธีกรด้วย ก็อยากบาลานซ์ให้มันกลางๆ นิดนึงอ่ะ ถ้าเราไปสุดโต่งกับแฟชั่นโชว์ ความเป็นพิธีกรของเราก็จะไม่น่าเชื่อถือ การเล่นละครของเราคนก็จะไม่ได้มองแบบนั้นแล้ว เหมือนบาลานซ์ให้ทุกอย่างกลางๆ แล้วเข็มรู้สึกว่า ไม่จำเป็นต้องขายเนื้อหนังมังสามั้ง ขายเสื้อผ้าเขาดีกว่า คือความรู้สึกเข็มคือหมดวัยที่จะมาขายเนื้อหนังมังสาเพื่อให้เข็มมีกระแสหวือหวา เข็มว่ามันไม่จำเป็น ดูกันที่งาน ดูกันที่ฝีมือมากกว่า สำหรับเข็มนะ จะให้เข็มมาโป๊เป๊อ ไม่จำเป็นต้องทำเพื่อสร้างกระแสอ่ะ (มาอีกขั้นชีวิตที่โตขึ้นแล้ว) เออ จะต้องมาแก้พงแก้ผ้าอะไร โนแล้ว (ยิ้ม) แต่ถ้าสมมติพี่ๆ ดีไซเนอร์ขอจริงๆ เราก็ว่ากันเป็นจ๊อบๆ ไปว่า พี่เขาอยากให้เราทำแค่ไหน เราทำได้แค่ไหน ก็ไม่ถึงกับวางมือไปหรอก แต่ว่าเข็มคิดว่าชั้นไม่จำเป็นต้องเปลือยเพื่อที่จะสร้างกระแส มองชั้นในเรื่องของงานมากกว่า ละครมองสอ พิธีกรมองสิ อะไรอย่างนี้”