สิงโตพังคาบ้าน!เบียร์ยกพลทุบ1-0:กระชับมิตร
Posted 20/11/2013 by siamsport
-
"สิงโตคำราม" อังกฤษ ต้องพบกับความปราชัยในถิ่นตัวเองให้ผู้มาเยือน "อินทรีเหล็ก" เยอรมัน 0-1 ในศึกฟุตบอลนัดกระชับมิตรทีมชาติ เมื่อคืนวันอังคารที่ 19 พ.ย. ที่ผ่านมา
ฟุตบอลนัดกระชับมิตรทีมชาติ
วันอังคารที่ 19 พฤศจิกายน 2556
อังกฤษ 0 - 1 เยอรมัน
สนาม : เวมบลีย์
อังกฤษลงเล่นในบ้านอีกเกมหลังจากนัดก่อนถูกชิลีบุกมาพิชิต 2-0 โดยรอย ฮ็อดจ์สันเปลี่ยนนักเตะมากถึงเก้ารายคงเหลือแต่เวย์น รูนีย์กับอดัม ลัลลาน่าเป็นตัวจริงเท่านั้น
ด้านโจ ฮาร์ทกับแอชลีย์ โคลได้กลับมาเป็นตัวจริง ขณะที่ฟิล จากิลก้าเสียบแทนฟิล โจนส์ที่บาดเจ็บ ส่วนดาเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ , ไคล์ วอล์คเกอร์ และสตีเว่น เจอร์ราร์ดหายเจ็บกลับมาลงบู๊ได้โดยเกมนี้เป็นการรับใช้ชาตินัดที่ 108 ของสตีวี่ จีเทียบเท่าสถิติของบ๊อบบี้ มัวร์อดีตกัปตันชุดแชมป์โลกปี 1966 ผู้ล่วงลับ
ฝั่งเยอรมันซึ่งนัดก่อนเสมอกับอิตาลี 1-1 ดร็อปฟิลิป ลาห์ม , เมซุต โอซิล และมานูเอล นอยเออร์ออกไปพัก ขณะที่ซามี่ เคดิร่าบาดเจ็บ ยังผลให้โรมัน ไวเดนเฟลเลอร์ได้เฝ้าตาข่ายเป็นเกมแรกตามคาดในวัย 33 ปีซึ่งแก่ที่สุดในประวัติศาสตร์
อีกทั้งเยโรม บัวเต็ง , มาร์เซล ชเมลเซอร์ , สเวน เบนเดอร์ และมาร์โค รอยส์ต่างก็ได้ออกสตาร์ตตามที่โยอัคคิม เลิฟระบุเอาไว้ล่วงหน้าว่าต้องการทดลองนักเตะโดยมีแพร์ แมร์เตซัคเกอร์ทำหน้าที่กัปตัน
สิงโตคำรามเริ่มต้นบุกอย่างดุดันหวังเรียกศรัทธากลับคืนมา แต่ไม่อาจฝ่าแนวรับทีมเยือนไปได้ ต้องรอจนถึงนาทีที่ 20 ก่อนที่รูนีย์จะได้โขกลูกโยนจากกราบซ้ายในกรอบเขตโทษ แต่บอลลอยย้อยข้ามคาน
เกมตกอยู่กับเจ้าบ้านเป็นส่วนใหญ่โดยเน้นการขึ้นบอลทางขวาให้แอนดรอส ทาวน์เซนด์ลากเลื้อย แต่ยังไม่มีความอันตราย และนาทีที่ 38 ก็มาเสียลูกเตะมุมด้านขวาให้อินทรีเหล็กโดยแมร์เตซัคเกอร์ได้โขกเหน่งๆที่เสาแรกถูกฮาร์ทผวาปัดได้เหลือเชื่อ
อย่างไรก็ดี นาทีต่อมา แฟนสิงโตก็ต้องหงอยอยู่ดีจากการเสียลูกเตะมุมด้านขวาอีกหนที่เคลียร์ออกไปแล้วมาริโอ เกิทเซ่หยอดกลับเข้ามาใหม่ให้แมร์เตซัคเกอร์โขกสะบัดจาก 10 หลาเสียบเสาสองสุดที่ฮาร์ทจะเซฟได้ ทำให้เยอรมันนำ 1-0
อังกฤษพยายามเอาคืนให้ได้ และนาทีที่ 44 เจอร์ราร์ดก็มีโอกาสตะบันจาก 23 หลาส่งบอลลอยข้ามคานไปนิดเดียวเท่านั้น จบครึ่งแรกสิงโตคำรามจึงตามหลัง 0-1
ครึ่งหลังทีมเมืองเบียร์เปลี่ยนสองตัวสำรองส่งมาร์แซลล์ ยานเซ่นกับมัตส์ ฮุมเมิ่ลส์ลงไปแทนบัวเต็งกับมาร์เซล ชเมลเซอร์ และเกือบหนีห่างในนาทีที่ 48 เมื่อเกิทเซ่กระชากบอลขึ้นมาน่ากลัวหลอกล่อทั้งจากิลก้า และทอม เคลฟเวอร์ลีย์ในเขตโทษได้แล้วบอลทะลักไปให้มาร์โค รอยส์กระทุ้งเหน่งๆถูกฮาร์ทโชว์ฟอร์มหนึบปัดได้อีก
ถึงนาทีที่ 53 สิงโตคำรามส่งคีแรน กิ๊บบ์สลงสนามแทนโคล แล้วตามด้วยการปล่อยจอร์แดน เฮนเดอร์สันลงบู๊แทนเจอร์ราร์ดในอีกสามนาทีต่อมาพร้อมกับที่เยอรมันใช้งานซิดนีย์ แซมแทนมักซ์ ครูเซ่
ถัดมาในนาทีที่ 56 เจ้าบ้านน่าจะตีเสมอได้เมื่อทาวน์เซนด์โชว์ลูกเก่งรับบอลจากจากิลก้าแล้วลากตัดเข้ามาตะบันหน้าเขตโทษ แต่บอลพุ่งชนเสา
เข้าสู่นาทีที่ 63 ฮาร์ทออกมาหน้าเขตโทษโดยไม่จำเป็นอีกเมื่อเยอรมันสาดบอลยาวขึ้นมาแล้วมีคริส สมอลลิ่งประกบเกิทเซ่อยู่ แต่นายทวารแมนฯ ซิตี้ออกไปชนกองหลังแมนฯ ยูไนเต็ดล้ม ดีที่ว่าไม่เสียหาย
นาทีต่อมา อังกฤษส่งแจ็ค วิลเชียร์ลงไปแทนเคลฟเวอร์ลีย์ก่อนที่อินทรีเหล็กจะทำชิ่งกันจนเกิทเซ่ได้ซัลโวในเขตโทษถูกฮาร์ทปัดได้เยี่ยมอีกหน
จากนั้นในนาทีที่ 67 ทีมเมืองไส้กรอกก็ปล่อยยูเลี่ยน ดรักซ์เลอร์ลงไปแทนไฮโค เวสเตอร์มันน์ และอึดใจเดียวทีมเยือนเกือบได้อีกประตูจากการทำชิ่งแล้วแซมทะลุเข้าชิพบอลข้ามฮาร์ทในเขตโทษด้านขวา แต่บอลโด่งออกไป
สิงโตคำรามเปลี่ยนตัวสำรองเพิ่มในนาทีที่ 71 โดยส่งรอสส์ บาร์คลีย์ลงไปแทนรูนีย์ ก่อนที่ลัลลาน่าจะถูกถอดออกให้ริคกี้ แลมเบิร์ตลงเล่นอีกรายในนาทีที่ 76 และแม้จะโหมบุก แต่ก็สอยตาข่ายคืนไม่ได้ หมดเวลาอังกฤษจึงพ่ายคารังอีกนัดโดยถูกเยอรมันสยบ 1-0
รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม
อังกฤษ : โจ ฮาร์ท , ไคล์ วอล์คเกอร์ , คริส สมอลลิ่ง , ฟิล จากิลก้า , แอชลีย์ โคล ( คีแรน กิ๊บบ์ส น. 53) ,แอนดรอส ทาวน์เซนด์ , สตีเว่น เจอร์ราร์ด (จอร์แดน เฮนเดอร์สัน น.56) , ทอม เคลฟเวอร์ลีย์ (แจ็ค วิลเชียร์ น.64) , อดัม ลัลลาน่า (ริคกี้ แลมเบิร์ต น.76) , ดาเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ , เวย์น รูนีย์ (รอสส์ บาร์คลีย์ น.71)
สำรอง : จอห์น รัดดี้ , เกล็น จอห์นสัน , เลห์ตัน เบนส์ , แกรี่ เคฮิลล์ , เจมส์ มิลเนอร์ , แฟร้งค์ แลมพาร์ด , เจอร์เมน เดโฟ , เจย์ โรดริเกซ , เฟรเซอร์ ฟอร์สเตอร์
เยอรมัน : โรมัน ไวเดนเฟลเลอร์ , มาร์เซล ชเมลเซอร์ ( มาร์เซลล์ ยานเซ่น น.46) , ไฮโค เวสเตอร์มันน์ (ยูเลี่ยน ดรักซ์เลอร์ น.67) , แพร์ แมร์เตซัคเกอร์ , เยโรม บัวเต็ง (มัตส์ ฮุมเมิ่ลส์ น.46) , สเวน เบนเดอร์ , มักซ์ ครูเซ่ (ซิดนีย์ แซม น.56) , ลาร์ส เบนเดอร์ , โทนี่ โครส , มาร์โค รอยส์ (อันเดร เชือร์เล่ น.82) , มาริโอ เกิทเซ่
สำรอง : เรเน่ อ๊าดเลอร์ , เบเนดิกต์ โฮเวเดส , โธมัส มุลเลอร์
ผู้ตัดสิน : สเตฟาน ลันนัว (ฝรั่งเศส)
TOP 5 ข่าวในรอบ 3 วัน
อัลบั้มภาพเด็ดๆ
มาย ฮาเร็ม ส่งภาพเขย่าโซเชียล นุ...
เจนนี่ ธมนภัค พริตตี้สุดฮอต นุ่ง...
ฮาน่า ฮาอึน ชอง ดาว TikTok สาวสว...
นาฟ ฉัฐนันท์ ปล่อยแซ่บท้าลมหนาว ...
เต็มที่แล้ว! ไทย พ่าย อุซเบกิสถา...
ตัดเกรด นักเตะไทย เกมเสมอ โอมาน ...
คลิปไฮไลท์