ไรอัน กิ๊กส์ ปีกจอมเก๋าของ แมนฯ ยูไนเต็ด ชี้ การที่ตนเลือกอยู่กับ "ปีศาจแดง" เพียงทีมเดียวตลอดชีวิตการค้าแข้ง เป็นสิ่งที่ทำให้ตนเล่นฟุตบอลมาได้จนอายุกำลังจะแตะหลัก 40 ปี พร้อมระบุ หัวใจยังกระปรี้กระเปร่าเหมือนในวัยหนุ่ม แถมรับ เดี๋ยวนี้คงจะให้ตนวิ่งไปทั่วสนามเหมือนแต่ก่อนไม่ได้แล้ว

ไรอัน กิ๊กส์ ปีกมากประสบการณ์ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยอดสโมสรแห่งเวทีพรีเมียร์ลีก อังกฤษ แสดงความเชื่อว่า การที่ตนได้เล่นให้ต้นสังกัดอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งชีวิตการค้าแข้งนั้น เป็นสิ่งที่ทำให้ตนสามารถเล่นฟุตบอลมาได้เรื่อยๆ จนกระทั่งกำลังจะมีอายุครบ 40 ปี

อดีตปีกทีมชาติเวลส์กำลังจะมีอายุครบ 40 ปี ในวันศุกร์ที่ 29 พฤศจิกายนนี้ แต่เขายังสามารถเล่นได้น่าประทับใจชนิดที่ เดวิด มอยส์ ผู้จัดการทีม "ปีศาจแดง" ถึงกับแย้มเลยว่า เขาอาจจะยังได้สวมสตั๊ดลงสนามต่อไปในฤดูกาลหน้า

ทั้งนี้ หาก กิ๊กส์ ต่อสัญญากับทีมออกไปแล้วนั้น เขาก็จะได้ลงเล่นให้ทีมชุดใหญ่ของ แมนฯ ยูไนเต็ด เพิ่มเป็น 24 ปี ซึ่งหากไม่ได้รับบาดเจ็บอะไร เขาก็มีโอกาสที่จะลงสนามในทุกรายการให้ยอดทีมแห่งถิ่น โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ถึงหลัก 1,000 นัดด้วย อย่างไรก็ตาม ดาวเตะชาวเวลส์ยอมรับว่า ชะตาชีวิตของตนมันคงจะต่างไปจากนี้มาก หากเลือกตัดสายสัมพันธ์กับสโมสรที่ตนสามารถสร้างชื่อขึ้นมาได้

"ถ้าผมต้องย้ายจากสโมสรหนึ่งไปอีกสโมสรหนึ่งแล้วเนี่ย ผมก็คงแขวนสตั๊ดไปแล้ว ผมโชคดีที่ได้อยู่กับสโมสรๆ หนึ่ง ที่รายล้อมไปด้วยนักเตะชั้นยอด และผมก็ยังมีผู้จัดการทีมที่ดีอีกด้วย ผมคอยดูแลตัวเอง และพยายามซ้อมทุกวันเพื่อทำให้ผมพร้อมสำหรับการถูกเลือกลงสนาม ผมพยายามสนุกสนานไปกับมันให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ และแน่นอนว่า พยายามช่วยทีมให้ได้ด้วย" เจ้าของฉายา "ปีกพ่อมด" ระบุ

กิ๊กส์ เสริมว่า ตนยังกระหายความสำเร็จ และมุ่งมั่นที่จะพิสูจน์ฝีเท้าของตัวเองกับบรรดาเพื่อนร่วมทีมวัยหนุ่ม รวมถึงคู่แข่ง เหมือนแต่ก่อนอยู่เสมอ ถึงแม้จะอายุมากแล้ว รวมถึงประสบความสำเร็จเป็นกอบเป็นกำแล้วก็ตาม "ผมไม่รู้นะว่า พวกนักเตะวัยหนุ่มคิดยังไงกับผม ตอนที่ผมอายุ 17 และ 18 ปีเนี่ย ผมคิดว่า คนที่อายุ 31 ปีก็ถือเป็นรุ่นคุณปู่แล้ว แต่ตอนนี้ผมมีอายุ 40 ปีเข้าไปแล้ว ถึงแม้บางครั้งมันจะเล่นได้ยากลำบาก แต่ผมก็ยังสนุกกับมันอยู่ ตราบใดที่มันยังรู้สึกแบบนั้น ผมก็จะยังเล่นต่อไป"

กิ๊กส์ ยอมรับด้วยว่า เดี๋ยวนี้ตนไม่สามารถวิ่งขึ้นวิ่งลงทั่วสนามเหมือนสมัยหนุ่มๆ ได้แล้ว โดยที่ตอนนี้ต้องคอยบัญชาเกมบริเวณกลางสนามมากขึ้น และปล่อยให้นักเตะวัยหนุ่มคอยวิ่งแทนตน "มันเป็นเรื่องเยี่ยมที่ได้เล่นร่วมกับนักเตะอย่าง ฟิล โจนส์ เขาคอยวิ่งแทนผม ส่วนสิ่งที่ผมทำได้ก็มีเพียงการพยายามครองเกมให้ได้เท่านั้น"