This is It : แผลที่ปกปิดของเฟอร์กี้ กับการปฏิวัติที่ผิดของเดวิด มอยส์
Posted 06/12/2013 by goal.com
เกมพรีเมียร์ลีกนัดที่ 14 ของฤดูกาลเพิ่งจบไปเมื่อวันพุธที่ผ่านมา ถ้าถามว่าแฟนบอลทีมไหนเหนื่่อยใจที่สุดคงหนีไม่พ้น ทีมปีศาจแดงที่ตกไปรั้งอันดับที่ 9 ของตาราง ด้วยการมี 22 คะแนน ตามหลังจ่าฝูงอย่างอาร์เซนอลถึง 12 แต้ม!!
คำถามมาก มายเกิดขึ้นในหัวของเหล่าเรด อาร์มี นี่พวกเราเป็นแชมป์เก่าจริงหรือ? เดวิด มอยส์เหมาะสมที่จะเป็นทายาทของเซอร์ อเล็๋กซ์ เฟอร์กูสันใช่หรือไม่? ฤดูกาลนี้เราจะจบอันดับที่เท่าไหร่? และอีกร้อยแปดคำถามที่ยังไม่สามารถตอบได้จนกว่าฤดูกาลนี้จะสิ้นสุด
ความ พ่ายแพ้ต่อเวสต์บรอมฯ คาบ้านครั้งแรกในรอบ 34 ปี, การแพ้ต่อเอฟเวอร์ตันในโรงละครแห่งความฝันทั้งที่ว่ากุนซือคนปัจจุบันของ ปีศาจแดงไม่เคยคว้าชัยออกมาได้เลยสมัยทำงานอยู่ในกูดิสัน ปาร์ค ไปจนถึงความพ่ายแพ้ต่อแมนเชสเตอร์ ซิตี้ แบบหมดสภาพ คือหลักฐานท่นโท่ทางประวัติศาสตร์ที่เป็นรูปธรรมชัดเสียจนไม่มีคำปฎิเสธว่า ผลงานของกุนซือชาวสก็อตในเวลานี้ย่ำแย่เกินทน
มอยส์คือคนที่ใช่ หรือแค่คนคั่นเวลา
หาก มองย้อนกลับไปในช่วงซัมเมอร์ กระทาชายนามว่าเดวิด มอยส์ ถูกแต่งตั้งเข้ามาแทนที่ของตำนานกุนซืออย่างเซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน พร้อมถูกขนานนามว่า “เดอะ โชเซน วัน” แฟนผีจำนวนมากมายต่างวาดหวังไว้อย่างสวยหรูว่าเขาคือคนที่ใช่ และเหมาะสมสำหรับการเป็นทายาทเฟอร์กี้อย่างแท้จริง เมื่อนายใหญ่จากรังท็อฟฟีสีน้ำเงินเป็นโค้ชที่ป๋าลงทุนคัดเลือกด้วยตัวเอง
แต่ เค้าลางไม่ดีก็เริ่มปรากฏมาตั้งแต่ช่วงซัมเมอร์ ปีศาจแดงยุคมอยส์คว้าน้ำเหลวมาตลอดในการไล่ล่าตัวนักเตะใหม่เข้ามาเสริมทัพ ทั้งเชสก์ ฟาเบรกาสที่ดันทุรังทั้งที่เขาไม่ยอมขาย, ติอาโก้ อัลคันทาร่าที่ขอไปอยู่กับเป็ป กวาร์ดิโอลา เจ้านายเก่าในทีมเสือใต้ หรือการที่ทีมต้องเสียเวลารั้งเวย์น รูนีย์ไปกว่าสองเดือนเต็มๆ
จน สุดท้าย พวกเขาก็มาจบตลาดหน้าร้อนด้วยการคว้ามารูยาน เฟลไลนี (ที่โชว์ฟอร์มยังไม่คุ้มค่าตัว 27.5ล้านปอนด์เลย) มาร่วมทีมได้ในวันสุดท้ายก่อนปิดตลาดแบบเฉียดฉิว (ยังมีดาวรุ่งอีกสองตัวนะ อย่าลืม กิเยร์โม บาเลรากับไซดี้ ยานโก้ไงล่ะ)
เค้า ลางที่ย่ำแย่บวกฟอร์มในช่วงปรีซีซันที่เข้าขั้นห่วยบรม ถูกปัดเป่าไปจนหมดสิ้นด้วยการออกสตาร์ทแบบร้อนแรง ถล่มสวอนซีไปถึง 4-1 ทำให้เหล่าเรด อาร์มีต่างพร้อมใจตะโกนว่า ปีนี้ข้ามาแน่ ก่อนจะค่อยๆ เสียงแผ่วลงไป จนเริ่มเงียบสนิทหลังจบเกมแดงเดือด กระทั่งพอมีเสียงเล็กๆ ดังขึ้นอีกครั้งหลังชนะอาร์เซนอล แต่ตอนนี้พวกเขาคงต้องยอมรับความจริงเสียทีว่านี่ไม่ใช่ช่วงเวลาเดิมๆ แบบที่ป๋าเฟอร์กี้อยู่อีกต่อไปแล้ว
การสร้างสถิติไม่แพ้ใครถึง 12 นัดในช่วงก่อนหน้านี้แทบไม่มีแฟนคนไหนจดจำ เนื่องจากเกมส่วนใหญ่จบลงด้วยผลเสมอ และอันดับบริเวณกลางตารางก็เป็นเรื่องที่ยากจะทำใจให้คุ้นเคยสำหรับสโมสรที่ ลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีกติดต่อกันมาตลอด 21 ปีที่ก่อตั้งมา
มองไปที่ ม้านั่งข้างสนาม สต๊าฟโค้ชทั้ง สตีฟ ราวด์, ฟิล เนวิลล์ รวมถึงไรอัน กิ๊กส์ ต่างพากันทำหน้าบอกบุญไม่รับ ตอนนี้ทุกอย่างเริ่มเห็นภาพชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ สำหรับการปฏิวัติที่ผิดพลาดของเดวิด มอยส์ ซึ่งปลดเรเน่ มิลเลนสตีน ที่ตอนนี้ไปได้งานกับฟูแลม รวมถึง ไมค์ ฟีแลนและเอริค สตีล สตาฟฟ์จากชุดของเฟอร์กี้ จนแทบไม่เหลือเลยหน้าเก่าเลยแม้แต่คนเดียว ยกเว้นเจ้าของสโมสรยังเป็นคนเดิมคือตระกูลเกลเซอร์เท่านั้น
ระยะทางการแข่งขันยังเดินไม่ถึงครึ่งพวกเขาเหล่านี้จะรักษาแผลภายในอย่างไร
นี่ คือการเดินหมากผิดพลาดครั้งสำคัญของเดวิด มอยส์ เนื่องจากเขามั่นใจเกินไปว่าหากนำส่วนผสมของเอฟเวอร์ตันมารวมกับปีศาจแดงจะ ยังทำให้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดเกรียงไกรต่อไป ซึ่งคำตอบตอนนี้เริ่มชัดเจนขึ้นทุกวินาทีว่ามันไม่ง่ายอย่างที่เห็น
เมื่อ ประกอบกับแผลเน่าที่ปกปิดมาเนิ่นนานตั้งแต่ยุคของบรมกุนซืออย่างเซอร์อเล็ก ซ์ เฟอร์กูสัน ทำให้ทุกอย่างมันแย่อย่างที่เห็น ความจริงแมนฯ ยูไนเต็ด มีปัญหาชัดเจนมาตั้งแต่ปีก่อน แต่ด้วยกึ๋นและประสบการณ์ของเฟอร์กี้ที่พาให้ทีมเดินหน้าคว้าแชมป์ลีกสมัย ที่ 20 ก่อนที่เจ้าตัวจะประกาศวางมือ
ความผิดหวังครั้งแล้วครั้งเล่าของเหล่าเรด อาร์มี
แผล แรกการเสริมทัพในช่วงซัมเมอร์ปีก่อนของเฟอร์กี้อย่างโรบิน ฟาน เพอร์ซี ซึ่งถือว่าเป็นการชี้้ชะตาคว้าแชมป์เมื่อปีที่แล้วเลยก็ว่าได้ แต่กลับกลายเป็นว่าปีศาจแดงชุดล่าสุด คือ ทีมที่มองหาดาวยิงดัตช์ให้เป็นคนแก้สถานการณ์ตลอดเวลา และเมื่อเขาเจ็บหรือฟอร์มตกลงเหมือนอย่างปีนี้ ทุกอย่างก็ดูติดขัดไปหมด
แผล ที่สอง คือ กองหลังที่โรยราและเริ่มแสดงความเชื่องช้าออกมาให้เห็น ในวันที่ริโอ เฟอร์ดินานด์ และ เนมานยา วิดิชไม่ใช่คู่ปราการหินผาเหมือนเคย ในขณะที่จอห์นนี อีแวนส์, คริส สมอลลิงและฟิล โจนส์ยังไม่พร้อมทดแทน ส่งผลให้แนวรับของทีมกลายเป็นบ่อน้ำมันที่พร้อมจะเสียประตูตลอดเวลา
แผล ที่สาม การฝากความหวังอันใหญ่หลวงไว้ที่เวย์น รูนีย์ ซึ่งถ้าจะว่ากันตามตรง ด้วยฝีเท้าระดับที่เขาเป็นอยู่ คงยังเทียบเวิลด์คลาสขนานแท้ อย่าง คริสเตียโน โรนัลโด้, ลิโอเนล เมสซีหรือฟร๊องค์ ริเบรี ไม่ได้ (รูนีย์ไม่เคยมีชื่อเข้าชิงรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมของทวีปหรือติดทีมยอด เยี่ยมแชมเปี้ยนส์ลีกเลยแม้แต่ครั้งเดียว)
แผลที่สี่ ปีกสองข้างที่เป็นจุดเด่นมาโดยตลอดสมัยที่เฟอร์กี้คุมทัพเริ่มไร้พิษสง เพราะดูจากรายชื่อในปัจจุบัน ทั้งแอชลีย์ ยัง, นานี, อันโตนิโอ วาเลนเซีย และอาจจะรวมถึงแดนนี เวลเบ็ค เมื่อพูดถึงชื่อเหล่านี้ทุกคนแทบจะเบือนหน้าหนีทั้งสิ้น
แผลเหล่านี้ แหละที่ตอนนี้เริ่มเกิดอาการอักเสบและเป็นหนองในร่างกายปีศาจแดง จนส่งผลให้ทีมต้องอยู่ในกลางตารางเวลานี้ หากคนที่นั่งอยู่ข้างสนามยังเป็นเซอร์อเล็กซ์ พวกเขาจะไม่มีทางจมปลักในอันดับแบบนี้แน่นอนหลังผ่านไป 14 นัด
มอยส์จะถูกจดจำในฐานะกุนซือผู้ล้มเหลว หรือเขาจะสานต่อความยิ่งใหญ่ของเซอร์อเล็กซ์ได้
ถาม ว่าเดวิด มอยส์ผิดไหม คำตอบคือก็ส่วนหนึ่ง แต่อีกส่วนหนึ่งคนที่รับไปเต็มๆ น่าจะเป็นเซอร์อเล็กซ์นี่แหละ เฟอร์กี้คือกุนซือที่ฉลาดรู้จักใช้นักเตะ มีกึ๋นในการแก้เกม การสั่งการ การกระตุ้นนักเตะจนพาทีมคว้าแชมป์มาตลอด 26 ปีในการทำงาน
แต่การทำงานมานานๆ มันก็ส่งผลต่อกุนซือคนใหม่ที่จะมาแทนที่เขาเช่นกัน แม้คนที่เข้ามาแทนจะมีกึ๋นระดับไอน์สไตน์อย่างมูรินโญก็ยังต้องยอมรับว่านี่ ไม่ใช่งานง่าย รายละเอียดของการเป็นโค้ชไม่ใช่อยู่ที่การวางแท็คติกเพียงอย่างเดียวเหมือน ในวิดีโอเกม แต่ทั้งคาแรคเตอร์, การสั่งการ, การกระตุ้นข้างสนาม, การกดดันกรรมการหรืออะไรต่างๆ นานา
ความผิดพลาดของเฟอร์กี้คือการใช้ ความฉลาดปกปิดบาดแผลของตัวเองเอาไว้ จนคนใหม่อย่างเดวิด มอยส์เข้ามาก็เจอแผลข้างในเต็มไปหมดแบบไม่รู้ตัว รวมถึงการตัดสินใจอำลาทีมในวันที่กลไกทุกอย่างในถิ่นโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ยังคงทำงานไม่ลงตัว
ไม่ ต้องสงสัยเลยว่านี่คือฤดูกาลที่เต็มไปด้วยคำถามของแฟนๆ เรด อาร์มี มอยส์จะต้องปฏิวัติทีมใหม่มากน้อยแค่ไหน เขาจะยังมีโอกาสต่อไปหรือไม่ และถ้าไม่...ใครคือผู้เหมาะสมที่จะมานั่งเก้าอี้ร้อนตัวนี้แทน
ท้อง ฟ้าเหนือสนามโอลด์ แทร็ฟฟอร์ดยังคงมืดครึ้มไร้ความหวัง และบางทีแฟนบอลหลายคนอาจเฝ้าหวังให้เฟอร์กูสันเข้ามาสะสางปัญหาที่ยังค้างคา อยู่ในทีมก็เป็นได้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
ผู้กล้า! ฟ.เนวิลล์ เผยเกือบบ้านแตกเพราะทำงานให้ผี
ถือว่าเป็นผู้กล้าจริงๆ สำหรับเนวิลล์ผู้น้องที่ออกมาบอกว่าเขาเกือบจะมีปัญหากับภรรยาเพราะมาทำงานให้กับทีมปีศาจแดงมอยส์รับไม่รู้อาร์วีพีลงสนามได้เมื่อไหร่
เดวิด มอยส์ กุนซือ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยอมรับไม่รู้ว่าจะได้ โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ หัวหอกตัวหลัก กลับมาถล่มประตูให้ "ปีศาจแดง" อีกครั้งเมื่อไหร่ แต่ยืนยันอาการเจ็บต้นขาของ "อาร์วีพี" ไม่ได้ร้ายแรงอย่างที่หลายฝ่ายกังวลแต่อย่างใด10 นักเตะที่ตกเป็นเป้าหมายในการเสริมทัพของ ‘ปีศาจแดง‘ ในช่วงปีใหม่นี้
ฟุตบอล : เรียกได้ว่ามีข่าวเกี่ยวกับการซื้อขายออกมาไม่เว้นแต่ละวัน สำหรับทีมยักษ์ใหญ่แห่งศึกพรีเมียร์ลีกอย่าง ''ปีศาจแดง'' แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด...
TOP 5 ข่าวในรอบ 3 วัน
ห้ามทำตาม! อดีตแข้งอินเตอร์ เมาหยำเป,มีเซ็กซ์ไม่ป้องกัน
ทางการ! เอฟเอลงโทษแบนยาว เบนตานกูร์ เหยียด ซน ฮึง มิน
วิเคราะห์บอล บาเยิร์น พบ เอาก์สบวร์ก วันศุกร์ที่ 22 พ.ย. 67
ดีทั้งปัจจุบันและอนาคต!เด ลา ฟวนเต้ ลั่นวงการบอล สเปน กำลังอยู่ในช่วงรุ่ง
เพื่อนไม่ทิ้งกัน! เป๊ป เผยแพ้ 4 เกมติดเหตุผลต่อสัญญาใหม่ แมนซิตี้
อัลบั้มภาพเด็ดๆ
มาย ฮาเร็ม ส่งภาพเขย่าโซเชียล นุ...
เจนนี่ ธมนภัค พริตตี้สุดฮอต นุ่ง...
ฮาน่า ฮาอึน ชอง ดาว TikTok สาวสว...
นาฟ ฉัฐนันท์ ปล่อยแซ่บท้าลมหนาว ...
เต็มที่แล้ว! ไทย พ่าย อุซเบกิสถา...
ตัดเกรด นักเตะไทย เกมเสมอ โอมาน ...
คลิปไฮไลท์