ซามูเอล เอโต้ โชว์การจบสกอร์ที่ยอดเยี่ยมเมื่อจัดการเหมาคนเดียวสามประตูในเกมที่ "สิงโตน้ำเงินคราม" เชลซี เปิดบ้านเอาชนะ "ปีศาจแดง" แมนฯ ยูไนเต็ด 3-1 ในศึกฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 19 มกราคม ที่ผ่านมา

 

 

ฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ

วันอาทิตย์ที่ 19 มกราคม 2557

เชลซี  3-1  แมนฯ ยูไนเต็ด

สนาม : สแตมฟอร์ด บริดจ์


         "สิงโตน้ำเงินคราม" เชลซี เปิดถิ่นสแตมฟอร์ด บริดจ์ โดย  ซามูเอล เอโต้ ถูกส่งลงเป็นตัวเป้าส่องสกอร์ โดยมี วิลเลี่ยน,ออสการ์ และ เอแดน อาซาร์ ขยับเกมช่วยข้างหลัง ส่วน "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะไม่มีทั้ง เวย์น รูนี่ย์ และ โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ สองกองหน้าตัวหลักร่วมทัพเนื่องจากบาดเจ็บทั้งคู่ โดยจะส่ง แดนนี่ เวลเบ็ค เป็นตัวความหวัง 

     เริ่มเกมมา2นาที ทีมเยือน แมนฯยูฯ มาได้ดุดัน และมีโอกาสยิงทักทายก่อน เมื่อ คาร์ริค จ่ายบอลให้ แอชลี่ย์ ยัง ทำชิ่งกับ แดนนี่ เวลเบ็ค ก่อนได้ซัดยิงมุมแคบ แต่ ปีเตอร์ เช็ก ยังเซฟได้เยี่ยม

     นาทีที่11 เจ้าถิ่นสิงห์บลู มีโอกาสได้ส่องไกลบ้าง จากการยิงนอกกรอบของ รามิเรส บอลแม้จะเข้ากรอบ แต่ไม่ผ่านมือ เด เคอา

       นาทีที่ 17 เจ้าบ้านได้ประตูออกนำ ซามูเอล เอโต้ ยิงด้วยซ้ายจากหน้าเขตโทษบอลไปแฉลบ ไมเคิ่ล คาร์ริค ย้อยเสียบเสาสองเข้าประตูไปชนิด ดาบิด เด เคอา หมดสิทธิ์ป้องกัน เชลซี ขึ้นนำ 1-0

       นาทีที่ 19 ดาวิด ลุยซ์ รับใบเหลืองเป็นคนแรกของเกม

      นาทีที่ 27 ปาทริซ เอวร่า แย่งบอลได้จากกลางสนาม ก่อนลากไปซัดไกลด้วยซ้ายจากระยะ 20 หลา บอลพุ่งเข้าด้านข้างตาข่ายชนิดได้เสียว

       นาทีที่ 35 แอชลี่ย์ ยัง โดนใบเหลืองหลังไปเจตนาทำฟาวล์เพื่อหยุดเกมใส่ รามิเรส ที่บริเวณกลางสนาม

      นาทีที่ 37 ทีมเยือนน่าจะได้ประตูตีเสมอจากจังหวะที่ อัดนาน ยานาไซ เปิดบอลจากริมเส้นเข้าไปในกรอบเขตโทษ แนวรับเจ้าบ้านพลาดกันหมดบอลเลยมาถึง แดนนี่ เวลเบ็ค ได้ยิงแต่ไม่ถนัดทำให้เบาเกินไป ปีเตอร์ เช็ก รับไว้ได้สบาย

      นาทีที่ 42 เจ้าบ้านได้ลุ้นอีก ซามูเอล เอโต้ เปิดบอลไปแฉลบแนวรับแมนฯยูฯ บอลเลยไปถึง ออสการ์ ที่ตัดสินใจเอี้ยวตัวยิงแต่โดนไม่ดีบอลเหินข้ามคานออกไป

       นาทีสุดท้ายของเกม จากลูกเตะมุมของสิงห์บลูส์ กองหลังปีศาจแดงเคลียร์ไม่ดี บอลเลยไปที่ รามิเรส แทงบอลออกเส้นข้างให้ แกรี่ เคฮิลล์  เปิดบอลเข้าเขตโทษให้ ซามูเอล เอโต้ ซัดจ่อๆไม่เหลือ เชลซี หนีห่างเป็น 2-0 

      หมดครึ่งเวลาแรก เชลซี ออกนำ แมนฯ ยูไนเต็ด 2-0

       กลับมาเล่นต่อในครึ่งเวลาหลัง แค่ 4 นาที เชลซีก็ออกนำอีกครั้ง จากลูกเตะมุม แกรี่ เคฮิลล์  โขกเต็มหัว ดาบิด เด เคอา เซฟไว้ได้จังหวะแรก แต่ ซามูเอล เอโต้ ตามซ้ำจ่อๆไม่เหลือ เชลซี ออกนำห่าง 3-0 และเป็นแฮตทริกของดาวยิงทีมชาติแคเมอรูนด้วย

       นาทีที่ 51 แมนฯ ยูไนเต็ด เปลี่ยนเอา คริส สมอลลิ่ง ลงสนามไปแทน ปาทริซ เอวร่า ที่มีอาการบาดเจ็บ

       นาทีที่ 55 อันโตนิโอ วาเลนเซีย โดนใบเหลืองไปอีกคน

       นาทีที่ 56 ทีมเยือนเปลี่ยนผู้เล่นคนที่สอง โดยถอดเอา แอชลี่ย์ ยัง ออกและส่ง ชิชาริโต้ ลงสนามแทน

       นาทีที่ 68 เชลซี เปลี่ยนเอา จอห์น โอบี มิเกล ลงสนามไปแทน ออสการ์

      นาทีต่อมา แมนฯ ยูไนเต็ด ได้ลุ้นทำประตูตีไข่แตกจากลูกเตะมุม แต่ แดนนี่ เวลเบ็ค โขกหลุดกรอบออกไป

       นาทีที่ 78 ทีมเยือนได้ประตูตีไข่แตกจากจังหวะที่ แดนนี่ เวลเบ็ค ลากบอลเข้าเขตโทษก่อนตบเข้ากลางให้ ฟิล โจนส์ ได้ยิงด้วยขวาบอลพุ่งทำท่าจะเข้าประตูอยู่แล้วแต่ ชิชาริโต้ พุ่งชาร์จเข้าไปไม่เหลือ ปีศาจแดง ไล่มาห่างๆเป็น 1-3

       นาทีที่ 80 เจ้าบ้านเปลี่ยนเอา เฟร์นานโด ตอร์เรส ลงสนามมาแทน ซามูเอล เอโต้ 

       นาทีที่ 86 เชลซีเปลี่ยนตัวคนสุดท้ายโดยส่ง เนมานย่า มาติช ลงไปแทน วิลเลี่ยน

      นาทีที่ 89 คริส สมอลลิ่ง โหม่งตั้งไปหน้าประตูให้ ชิชาริโต้ ได้โหม่งแต่บอลไปตรงตัว ปีเตอร์ เช็ก รับเข้าซองไว้ได้ไม่ยาก

       นาทีที่ 92 เนมานย่า วิดิช โดนใบแดงหลังไปทำฟาวล์ใส่ เอแด็น อาซาร์ ผู้ตัดสิน ฟิล ดาวด์ มองว่าเป็นการเจตนาเข้าหนัก

       นาทีที่ 94 ราฟาเอล ดา ซิลวา โดนใบเหลืองอีกคนหลังเจตนาพุ่งเสียบสองขาใส่ แกรี่ เคฮิลล์

      จบเกม เชลซี เปิดบ้านเอาชนะ แมนฯ ยูไนเต็ด 3-1 นับเป็นชัยชนะเกมที่ 100 ในการคุมทีมของ โชเซ่ มูรินโญ่ เฉพาะในเกมพรีเมียร์ลีก
 
        รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม   
        เชลซี : ปีเตอร์ เช็ก - บรานิสลาฟ อิวาโนวิช, แกรี่ เคฮิลล์, จอห์น เทอร์รี่, เซซ่าร์ อัซปิลิกวยต้า - ดาวิด ลุยซ์, รามิเรส - วิลเลี่ยน, ออสการ์, เอแด็น อาซาร์ - ซามูเอล เอโต้
        สำรอง : มาร์ค ชวาร์เซอร์, เฟร์นานโด ตอร์เรส, แอชลี่ย์ โคล, แฟร้งค์ แลมพาร์ด, ฆวน มานูเอล มาต้า, จอห์น โอบี มิเกล, เนมานย่า มาติช


        แมนฯ ยูไนเต็ด : ดาบิด เด เคอา - ราฟาเอล ดา ซิลวา, จอนนี่ อีแวนส์, เนมานย่า วิดิช, ปาทริซ เอวร่า - ฟิล โจนส์, ไมเคิ่ล คาร์ริค - อันโตนิโอ วาเลนเซีย, อัดนาน ยานาไซ, แอชลี่ย์ ยัง - แดนนี่ เวลเบ็ค   
        สำรอง: อันเดอร์ส ลินเดการ์ด, คริส สมอลลิ่ง, ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์, ไรอัน กิ๊กส์, ชินจิ คางาวะ, ฮาเวียร์ เอร์นานเดซ "ชิชาริโต้", ทอม เคลฟเวอร์ลี่ย์ 


        ผู้ตัดสิน : ฟิล ดาวด์