ก่อนจะเข้าสู่ช่วงโค้งสุดท้ายของการลุ้นแชมป์ลีกหลายประเทศ เรามาเช็คฟอร์มกันคร่าวๆ ว่าจนถึง ณ ปัจจุบัน ใครคือนักเตะที่ทำประตูได้มากที่สุดในยุโรปเวลานี้

หลังจากที่ผ่านตลาดนักเตะหน้าหนาวกันมาเกือบหนึ่งเดือน สัปดาห์นี้เป็นสัปดาห์ที่ฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก จะกลับมาหวดกันอีกครั้งในรอบน็อคเอาท์ และนั่นคือสัญญาณว่าฤดูกาลกำลังจะเข้าสู่โค้งสุดท้ายเต็มที

วันนี้ โกล ประเทศไทย จึงขออาสาพาทุกท่านมาเช็คฟอร์มดาวยิงทั่วยุโรปว่าใครอยู่ในอันดับใด ทำได้กี่ประตูในเวลานี้ โดยที่เราจะนับเฉพาะประตูในลีกของ 5 ลีกดัง (อังกฤษ, สเปน, เยอรมัน, อิตาลี, ฝรั่งเศส) และหากจำนวนประตูเท่ากัน เราจะตัดสินกันด้วยจำนวนนัดที่ลงสนาม (ใครลงน้อยกว่า แต่ยิงได้เท่ากันจะอยู่ในอันดับที่ดีกว่า)

เป็นที่น่าสังเกตว่าราย ชื่อนักเตะที่ทำประตูได้มากที่สุด 10 อันดับแรก ในเวลานี้ มีรายชื่อที่แตกต่างจากฤดูกาลที่แล้วอยู่พอสมควร เนื่องจาก ลิโอเนล เมสซี ดาวยิงตัวเก่งเจ้าของรางวัลรองเท้าทองคำยุโรปฤดูกาลก่อนได้รับบาดเจ็บยาวจน ทำได้เพียง 13 ประตูในตอนนี้ รวมถึงนักเตะอย่างทั้งโรบิน ฟาน เพอร์ซี, เอดินสัน คาวานี หรือราดาเมล ฟัลเกา ต่างก็ทำผลงานตกลงไป

พร้อมแล้ว เราไปดูรายชื่อกันได้เลย

10. อ็องตวน กรีซมันน์ - 14 ประตู

ปีก ซ้ายจากเรอัล โซเซียดาด น่าจะถือเป็นรายชื่อที่เซอร์ไพรส์ที่สุดในตอนนี้ที่เป็นนักเตะซึ่งทำประตู นับเฉพาะในลีกเยอะที่สุด 10 อันดับแรกของยุโรป โดยแข้งชาวฝรั่งเศสรายนี้ทำประตูในลาลีกาไปแล้วทั้งสิ้น 14 ประตู พร้อมสร้างโอกาสให้เพื่อนอีก 2 ครั้งด้วยกัน

9. โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ - 14 ประตู

ทีม เสือเหลืองอาจชอบออกอาการสะดุดและฟอร์มการเล่นไม่ค่อยเปรี้ยงปร้างเท่าไหร่ นักในฤดูกาลนี้ แต่นั่นไม่ใช่ปัญหาของโรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ เมื่อศูนย์หน้าชาวโปลนำเป็นดาวซัลโวของบุนเดสลีกาเวลานี้ด้วยจำนวน 14 ประตูด้วยกัน

นอกจากนี้เลวานดอฟสกี้ยังช่วยทำทางให้เพื่อนยิงได้อีก 6 ครั้ง จากการลงสนามทั้งสิ้น 20 (1) นัด ซึ่งเจอร์เกน คล็อปป์คงได้ปวดหัวหนักในช่วงซัมเมอร์นี้เพื่อหาตัวตายตัวแทนของดาวยิงวัย 25 ปีรายนี้

8. จูเซปเป้ รอสซี - 14 ประตู

รอสซี อาจห่างหายจากตำแหน่งจอมถล่มประตูไปนานเพราะอาการบาดเจ็บที่รบกวนเขาอยู่ไม่ หยุดหย่อน แต่เมื่อได้โอกาสกลับมาลงสนามแบบเต็มเม็ดเต็มหน่วยอีกครั้ง เจ้าตัวก็พร้อมเสมอที่จะพิสูจน์ว่าเขาคือแถวหน้าในเรื่องการทำประตูของวงการ ฟุตบอลอิตาลี

ศูนย์หน้าฟิออเรนตินาทำไปแล้ว 14 ประตู จากการลงสนามเพียง 18 นัด นำเป็นดาวซัลโวของกัลโช เซเรีย อา เวลานี้ และคงไม่มีใครกล้าปฏิเสธว่านี่คือเครื่องหมายของยอดดาวยิงตัวจริงเสียงจริง

7. อเล็กซิส ซานเชซ - 15 ประตู

ใน ช่วงที่ลิโอเนล เมสซี ได้รับบาดเจ็บจนต้องพักยาวอย่างที่แทบไม่เคยเป็นมาก่อนในช่วง 2-3 ปีหลัง แฟนบอลบาร์เซโลนาต่างวิตกกังวลว่าสโมสรจะเจอปัญหาเรื่องการทำประตูหรือไม่ เพราะสตาร์อาร์เจนไตน์คือผู้แบกรับหน้าที่นี้มานานหลายปีโดยไม่ยอมแบ่งให้ ใคร

อย่างไรก็ดี กองหน้าที่เหลืออยู่ของบาร์เซโลนาต่างก็เค้นฟอร์มเก่งของตัวเองออกมาโดย พร้อมเพรียงกัน และคนที่โดดเด่นที่สุดก็คงหนีไม่พ้นดาวยิงชิลีอย่างอเล็กซิส ซานเชซ ซึ่งทำไปแล้ว 15 ประตูด้วยกัน ส่งผลให้ตาต้า มาร์ติโน คงจะปวดหัวไม่น้อยทีเดียวยามต้องเลือกนักเตะลงสนามเมื่อเมสซีกลับมาฟิตพร้อม สมบูรณ์แล้วในเวลานี้

6. เซร์คิโอ อเกวโร - 15 ประตู

นับ จากวันที่ย้ายมาค้าแข้งในเกาะอังกฤษเมื่อปี 2011 เอล กุน ก็สถาปนาตัวเองเป็นแกนหลักและกำลังสำคัญของเรือใบสีฟ้ามาโดยตลอด รวมถึงเป็นผู้ทำประตูชัยให้แมนฯ ซิตี้ เฉือนควีนส์พาร์ค เรนเจอร์ส ไปในวินาทีสุดท้าย 3-2 พร้อมคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก 2011-12 ไปครองได้แบบเหลือเชื่อ

แม้ฤดูกาลนี้จะเปลี่ยนตัวกุนซือใหญ่ของทีมมา เป็น มานูเอล เปเยกรินี แล้ว แต่ความสำคัญของเขาก็ไม่ได้ลดลงไปเลย เมื่อเจ้าตัวทำไปแล้วทั้งสิ้น 15 ประตูจาก 15 (2) นัด และอยู่ในอันดับสามของดาวซัลโวพรีเมียร์ลีก แม้จะต้องเผชิญหน้ากับอาการบาดเจ็บอยู่ในเวลานี้ก็ตาม

5. ดาเนียล สเตอร์ริดจ์ - 16 ประตู

หาก มีใครถามว่าทีมใดมีคู่หูกองหน้าที่อันตรายที่สุดในยุโรปเวลานี้ คำตอบคงต้องออกมาเป็นลิเวอร์พูลอย่างไม่ต้องสงสัย คู่ขา SAS ฉบับ 2014 ของทีมหงส์แดงทำรวมกันไปแล้วทั้งสิ้นถึง 39 ประตูด้วยกัน ซึ่งในจำนวนนั้นเป็นผลงานของสเตอร์ริดจ์คนเดียว 16 ประตู

ดาวยิงทีม ชาติอังกฤษส่งบอลไปกองอยู่ก้นตาข่ายได้ 16 ครั้ง จาก 16 (2) นัด ในลีกสูงสุดของอังกฤษ และเป็นอันดับสองในตารางดาวซัลโว โดยเป็นรองเพียงคู่ขาของเขาอย่างหลุยส์ ซัวเรซ คนเดียวเท่านั้น

4. ซลาตัน อิบราฮิโมวิช - 19 ประตู

ก่อน ที่ฤดูกาลนี้จะเริ่มต้น แฟนบอลหลายคนอาจปรามาสเอาไว้ว่าดาวยิงสวีดิชแก่เกินแกงเสียแล้วที่จะทำผลงาน ได้อย่างสุดยอดเหมือนฤดูกาลก่อนๆ ทว่าเมื่อถึงเวลาลงสนามจริงๆ อิบราฮิโมวิชก็พิสูจน์ให้เห็นได้ในทันทีว่าเขายังเป็นดาวยิงเบอร์ต้นๆ ของโลก แม้อายุจะล่วงเข้า 32 ปีแล้วในเวลานี้

ซลาตันทำประตูในลี กเอิงไปทั้งสิ้น 19 ประตู จากการลงสนาม 24 นัด นำโด่งเป็นดาวซัลโวของลีกแบบทิ้งห่างอันดับสองถึง 6 ประตูด้วยกัน นั่นคือหลักฐานชั้นดีว่าฝีเท้าของเขา "มีคลาส" ขนาดไหน

3. ดิเอโก คอสต้า - 21 ประตู

ก่อน ที่ฤดูกาล 2013-14 จะเริ่มต้น หงส์แดงเคยพยายามทาบทามแข้งตราหมีรายนี้อยู่นานสองนานแต่ไม่สำเร็จ และคำตอบก็ออกมาอย่างชัดเจนแล้วว่าทำไมพวกเขาถึงได้ต้องการตัวดาวยิงรายนี้ นัก

ดิเอโก คอสตา กดไปแล้วทั้งสิ้น 21 ประตู ในลีก จากการลงสนาม 23 (1) นัด และเป็นหัวใจสำคัญที่ทำให้แอตเลติโก มาดริด นำเป็นจ่าฝูงบนตารางลาลีกาเวลานี้อย่างไม่ต้องสงสัยเลย

2. คริสเตียโน โรนัลโด้ - 22 ประตู

หลัง จากที่ต้องพลาดหวังมาหลายปีติดต่อกัน ในที่สุดคริสเตียโน โรนัลโด้ ก็ได้คว้ารางวัลบัลลงดอร์กับทีมเรอัล มาดริด ได้สำเร็จในปีนี้ ซึ่งปัจจัยสำคัญที่ทำให้เขาได้รับรางวัลดังกล่าวคงหนีไม่พ้นผลงานส่วนตัวที่ ทำประตูได้อย่างต่อเนื่อง

ปีกชาวโปรตุกีสคือเครื่องจักรถล่มประตู ชั้นดีที่ในฤดูกาลนี้ทำไปแล้วทั้งสิ้น 22 ประตูด้วยกัน และกำลังขับเคี่ยวกับอันดับหนึ่งในยุโรปอย่างหลุยส์ ซัวเรซ อย่างสุดมันในการคว้ารองเท้าทองคำยุโรปประจำปี 2013-14

1. หลุยส์ ซัวเรซ

หลัง จากซัมเมอร์อันสับสนวุ่นวายที่เต็มไปด้วยข่าวลือมากมายหลายอย่าง หลุยส์ ซัวเรซ ยังคงอยู่กับลิเวอร์พูลอย่างน้อยที่สุดก็จนจบฤดูกาลนี้ และเขาก็แสดงให้เห็นแล้วว่าฝีเท้าที่มีอยู่นั้นสมควรอย่างยิ่งที่จะได้ฉาย แสงบนเวทียุโรป

ดาวยิงอุรุกวัยนำเป็นดาวซัลโวของทวีปยุโรปเวลานี้ ด้วยจำนวน 23 ประตู จาก 21 นัด และเป็นกำลังสำคัญของหงส์แดงที่เวลานี้อยู่ในอันดับ 4 ของตารางพรีเมียร์ลีก สิ่งเดียวที่จะรั้งเขาไว้อยู่ในแอนฟิลด์ได้นานๆ คือการพยายามเค้นฟอร์มของนักเตะคนอื่นๆ ที่เหลือในทีม เพื่อพิสูจน์ว่าสโมสรนี้มีดีพอจะให้นักเตะฝีเท้าระดับซัวเรซค้าแข้งอยู่ใน ทีม