ฟุตบอล พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ

วันเสาร์ที่ 22 กุมภาพันธ์ 2557

แมนฯ ซิตี้ 1-0 สโต๊ค ซิตี้

        สนาม : เอติฮัด สเตเดี้ยม

        ความพร้อมของแมนฯซิตี้ถือว่า มานูเอล เปเยกรีนี่ไม่มีปัญหาผู้เล่นบาดเจ็บหรือติดโทษแบนเพิ่มเติมให้เป็นกังวลก่อนเปิด เอติฮัด สเตเดี้ยม รับ สโต๊ค หลังจากที่สุดสัปดาห์ก่อน เพิ่งทุบ เชลซี 2-0 ใน เอฟเอ คัพ โดยดาวซัลโว เซร์คิโอ อเกวโร่ "กุน" ยังหมดสิทธิ์ เพราะเจ็บเอ็นหลังหัวเข่า
   

        ฟาก สโต๊ค ซิตี้ ของกุนซือ มาร์ค ฮิวจ์ส เกมนี้ จะหมดสิทธิ์ใช้บริการ อุสซามา อัสไซดี้ ปีกจอมเลื้อยที่ยืมจากลิเวอร์พูล หลังจากที่เจ็บเอ็นหัวเข่าระหว่างที่ไปเข้าแคมป์เก็บตัวกับเพื่อนๆ ที่ดูไบ นอกจากนี้ จอห์น กุยเด็ตติ กองหน้าสวีดิช ก็ต้องนั่งดูเช่นกัน เพราะไม่สามารถเจอกับต้นสังกัดแม่ได้ตามข้อตกลงยืมตัว ในรายของ โรเบิร์ต ฮูธ กองหลังชาวเยอรมัน ใกล้ฟิตแล้ว แต่เกมนี้ยังเร็วกินไป แต่ แอนดี้ วิลกินสัน กับ แม็ทธิว เอเธอริงตัน ที่มีปัญหาเจ็บก่อนหน้านี้ พร้อมเป็นตัวเลือกอีกครั้ง 

<% response.ContentType="text/html; charset=tis-620"%><% response.ContentType="text/html; charset=tis-620"%><% response.ContentType="text/html; charset=tis-620"%>     เริ่มเกมมาทนาทีที่6 เจ้าบ้านแมนฯซิตี้ได้ทักทายก่อน จากจังหวะยิงไกลของ แฟร์นันดินโญ่ แต่โดน อัสเมียร์ เบโกวิช ปัดข้ามคานออกไป 

      นาทีที่14 แว็งซ็องต์ ก็องปานี รับใบเหลืองเหลืองเป็นคนแรกของเกมจากจังหวะไปทำฟาลว์ เจฟฟ์ คาเมรอน

     นาทีที่ 20 สโต๊ค หวิดได้ประตูขึ้นนำ จากจังหวะทำเกมทางซ้ายแล้วโยนข้ามฟากมาให้ มาร์โก อาร์เนาโตวิช แตะบอลให้ ชาร์ลี อดัม วิ่งเข้ามายิงด้วยซ้าย แต่ โจ ฮาร์ท ยังเหนียวพุ่งปัดออกหลังไปได้ 

     แฟร์นันดินโญ่ มีโอกาสอีกครั้งในนาทีที่26จากจังหวะบอลกระดอนมาเข้าทาง ก่อนที่จะสับไกยิงแต่บอลเบาเกินไปและตรงตัว อัสเมียร์ เบโกวิช รับเอาไว้สบาย

     นาที่ที่31 แฟร์นันดินโญ่ โดนใบเหลืองเป็นคนที่สองของแมนฯซิตี้ จากจังหวะไปทำฟาลว์ ปีเตอร์ โอเดมวิงกี้
      นาทีที่ 33 ชาร์ลี อดัม โดนใบเหลืองจากจังหวะไปเสียบสกัด ซามีร์ นาสรี่

     แมนฯซิตี้ มีโอกาสบ้างในนาทีที่ 39 ยาย่า ตูเร่ ทำชิ่งกับ อัลบาโร่ เนเกรโด้ หลุดเข้าไป แต่ยิงไม่ดีบอลลอยยข้ามคานออกไปเยอะ

     นาทีที่ 44 แมนฯซิตี้บุกมาอีกครั้ง จาก ดาบิด ซิลบาทางด้านซ้าย แล้วจ่ายให้ เอดิน เชโก้ แตะบอลทำชิ่งกับ อัลบาโร่ เนเกรโด้ ก่อนยิงแต่บอลออกข้างออกไป 

     ช่วงทดเวลาบาดเจ็บแมนฯซิตี้ยังบุกต่อเนื่องแต่ก็ยังทำอะไรไม่ได้ จบครึ่งเวลาแรก ยังเสมอกันอยู่ 0-0

      ครึ่งหลัง เรือใบ พับสนามบุก นาทีที่ 48 ดาบิด ซิลบา ลากจี้เข้าเขตโทษ แล้วเปิดเข้ากลาง เอดิน เชโก้ ส่องข้ามคานออกไป

       นาทีที่ 55 เจ้าบ้านเปลี่ยนตัวคนแรก ส่ง สเตวาน โยเวติช ลงแทน อัลบาโร่ เนเกรโด้ ก่อนจะส่ง เฆซุส นาบาส แทน แฟร์นันดินโญ่ ในอีก 6 นาทีต่อมา

       กลับกัน สโต๊ค ก็แพ็กเกมรับให้แน่นขึ้น ส่ง วิลสัน ปาลาซิออส แทน มาร์โก อาร์เนาโตวิช ในนาทีที่ 67

       ข่าวร้ายของ แมนฯ ซิตี้ คือ โยเวติช บาดเจ็บหลังจากยิงไกล ต้องถูกเปลี่ยนตัวออก ให้ ฆาบี การ์เซีย ลงแทนในนาทีที่ 68

       หลังจากรอคอยอยู่นาน ในที่สุด เรือใบ ก็ขึ้นนำ 1-0 อเล็กซานดาร์ โคลารอฟ เติมขึ้นมาผ่านเรียดจากด้านซ้ายให้ ยาย่า ตูเร่ แปด้วยขวาระยะ 10 หลาติดเซฟ เบโกวิช แต่ป้องกันเอาไว้ไม่อยู่ เป็นประตูที่ 13 ในลีกของ ตูเร่ ฤดูกาลนี้แล้ว

      ให้หลัง 3 นาที เจ้าบ้านน่าได้ประตูที่สองสุดๆ จากจังหวะทำชิ่งสวยๆ หลายทอด สุดท้าย เฆซุส นาบาส ผ่านเรียดจากขวาให้ เอดิน เชโก้ เหลือแค่เสากับตาข่าย แต่กลับยิงระยะ 6 หลาไปติดแข้งติดขาตัวเองอย่างเหลือเชื่อ


        จบเกม แมนฯ ซิตี้ เฉือนชนะ สโต๊ค 1-0 เก็บสามแต้มสำคัญไล่บี้ทีมนำต่อไป      

  
        รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

        แมนฯ ซิตี้ : โจ ฮาร์ท, ปาโบล ซาบาเลต้า, แว็งซ็องต์ ก็อมปานี, มาร์ติน เดมิเคลิส, อเล็กซานดาร์ โคลารอฟ, แฟร์นันดินโญ่, ยาย่า ตูเร่, ดาบิด ซิลบา, ซามีร์ นาสรี่, อัลบาโร่ เนเกรโด้, เอดิน เชโก้
        สำรอง : คอสเทล ปันติลิมอน, โจเลียน เลสค็อตต์, กาแอล กลิชี่, ฆาบี การ์เซีย, เจมส์ มิลเนอร์, เฆซุส นาบาส, สเตวาน โยเวติช


        สโต๊ค ซิตี้ : อัสเมียร์ เบโกวิช, เจฟฟ์ คาเมรอน, ไรอัน ชอว์ครอส, มาร์ค วิลสัน, เอริค ปีเตอร์ส, เกล็น วีแลน, ชาร์ลี อดัม, ปีเตอร์ โอเด็มวิงกี้, โจนาธาน วอลเตอร์ส, มาร์โก อาร์เนาโตวิช, ปีเตอร์ เคร้าช์
        สำรอง : โธมัส โซเรนเซ่น, แอนดี้ วิลกินสัน, มาร์ก มูเนียซ่า, วิลสัน ปาลาซิออส, สตีเว่น เอ็นซอนซี่, สตีเฟ่น ไอร์แลนด์, แม็ทธิว เอเธอริงตัน


        ผู้ตัดสิน : คริส ฟอย