สื่อเผย โรมัน อบราโมวิช เจ้าของทีม เชลซี ไอเดียกระฉูดอีกครั้งกับการมองไปที่การดึง ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา ศูนย์หน้าชาวไอวอรี่โคสต์ อดีตนักเตะของทีม กลับคืนสู่ทัพ "สิงห์บลูส์" อีกระลอกในช่วงซัมเมอร์นี้ กับการเข้ามาเป็นโค้ชช่วยปลุกปั้นสร้างหัวหอกดาวรุ่งขึ้นมาใช้งาน แทนที่จะทุ่มซื้อแบบไม่ลืมหูลืมตาเหมือนในอดีต

เชลซี ทีมในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ตกเป็นข่าวว่ากำลังมองไปที่การดึง ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา กองหน้าตัวเก๋าชาวไอวอรี่โคสต์ กลับมาร่วมทัพ "สิงโตน้ำเงินคราม" อีกครั้งในช่วงซัมเมอร์นี้ โดยมีรายงานระบุว่า โรมัน อบราโมวิช มหาเศรษฐีเจ้าของทีมชาวรัสเซีย คือผู้ที่อยู่เบื้องหลังแนวคิดนี้
 
"เดอะ ไทม์ส" และ "ซันเดย์ พีเพิ่ล" สื่อ 2 สำนักประจำแดนผู้ดี เผยไปในทิศทางเดียวกันว่า ดร็อกบา ซึ่งจะอายุครบ 36 ปีบริบูรณ์ในเดือนมีนาคมนี้ ต้องการที่จะกลับมายังถิ่น สแตมฟอร์ด บริดจ์ ในฐานะโค้ช ด้วยความหวังที่จะช่วย "สิงห์บลูส์" ปลุกปั้นสตาร์ในตำแหน่งกองหน้าขึ้นมาใช้งานเองในอนาคต แทนที่จะต้องสูญเสียเป็นจำนวนหลายล้านปอนด์เพื่อซื้อหาเข้ามา
 
การย้ายสังกัดครั้งนี้น่าจะทำให้ ดร็อกบา ซึ่งเตรียมลงเล่นให้กับ กาลาตาซาราย ต้นสังกัดในลีกตุรกี เปิดบ้านต้อนรับการมาเยือนของ เชลซี ในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดแรก วันพุธที่ 26 กุมภาพันธ์นี้ มีความสนใจอยู่ไม่น้อย เนื่องจาก ลัลล่า ภรรยาและลูกสุดที่รักของเขาก็ยังคงใช้ชีวิตอยู่ใกล้ๆ กับกรุงลอนดอน
 
ดร็อกบา เคยตกเป็นเป้าหมายที่ โชเซ่ มูรินโญ่ ผู้จัดการทีมชาวโปรตุเกส อยากได้ตัวร่วมทีมเมื่อช่วงต้นฤดูกาลที่ผ่านมา ระหว่างที่กำลังมองหาสตาร์ในตำแหน่งศูนย์หน้าเข้ามาเพิ่มความแข็งแกร่ง แต่ อบราโมวิช ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทกับ ดาวยิงไอวอรี่โคสต์ แสดงอาการไม่สู้เต็มใจนักกับการดึงนักเตะที่มีอายุเกิน 30 ปี เข้ามาสู่ทัพ "สิงห์บลูส์"
 
อย่างไรก็ดี เมื่อเวลาผ่านไป อบราโมวิช คงเริ่มคิดได้บ้างแล้วว่าหากนำเงินที่ลงทุนไปเป็นจำนวนกว่า 150 ล้านปอนด์ (ราว 7,500 ล้านบาท) เพื่อซื้อดาวยิงระดับซูเปอร์สตาร์อย่าง เฟร์นานโด ตอร์เรส, อาเดรียน มูตู, อังเดร เชฟเชนโก้, เอร์นัน เครสโป, นิโกล่าส์ อเนลก้า รวมไปถึง ดร็อกบา มาร่วมทีมในรอบ 10 ปี มาใช้ปลุกปั้นบรรดาดาวรุ่ง ป่านนี้ก็คงจะมีให้เลือกใช้แบบไม่ขาดมือ แถมยังสามารถปล่อยขายทำเงินได้อีกทางหนึ่งด้วย
 
ทั้งนี้เชื่อกันว่า ดร็อกบา มีโอกาสไม่น้อยที่จะตอบรับข้อเสนอดังกล่าว เนื่องจากนี่เป็นเหมือนใบเบิกทางสำหรับการเปลี่ยนเส้นทางชีวิตจากนักเตะมาเป็นโค้ช ซึ่งน่าจะมาถึงในอนาคตอันใกล้