3โทษ1แดง!บาร์ซ่าบุกเชือดราชัน4-3เอลกลาซิโก้
Posted 24/03/2014 by siamsport
ลีโอเนล เมสซี่ ทำสามประตูสุดสำคัญในศึก เอล กลาซิโก้ ช่วยให้ "แชมป์เก่า" บาร์เซโลน่า บุกไปคว้าชัยเหนือ "ราชันชุดขาว" เรอัล มาดริด แบบสุดมันส์ถึงถิ่น 4-3 เก็บสามแต้มขยับแต้มไล่จี้ สองทีมดังจากมาดริด ที่รั้งตำแหน่งจ่าฝูงเหลือเพียงแต้มเดียว ในเกมการแข่งขันฟุตบอลลา ลีกา สเปน เมื่อวันอาทิตย์ที่ 23 มีนาคม ที่ผ่านมา
การแข่งขันฟุตบอลลา ลีกา สเปน
วันอาทิตย์ที่ 23 มีนาคม 2557
เรอัล มาดริด 3-4 บาร์เซโลน่า
สนาม: เอสตาดิโอ ซานติอาโก้ เบร์นาเบว, (มาดริด, สเปน)
ออกสตาร์ทครึ่งแรกมาได้แค่ 4 นาที เจ้าบ้านบุกเข้าใส่ แกเร็ธ เบล เปิดบอลให้กับ คาริม เบนเซม่า ยิงด้วยซ้ายหลุดกรอบออกไป
สามนาทีต่อมา กลายเป็น เจ้าบุญทุ่ม ที่ได้ประตูขึ้นนำไปก่อนจากจังหวะที่ ลีโอเนล เมสซี่ สตาร์ชาวอาร์เจนไตน์ถ่ายบอลออกซ้ายให้กับ อันเดรส อิเนียสต้า เติมขึ้นมายิงด้วยซ้ายเต็มเหนี่ยวบอลเสยใต้คานเข้าไปอย่างสวยงามให้ บาร์เซโลน่า นำก่อน 1-0 อย่างรวดเร็ว
เกมแลกกันสนุก เรอัล มาดริด ลุยขึ้นมา แกเร็ธ เบล จ่ายให้กับ คาริม เบนเซม่า ยิงด้วยขวาไปตรงตัวของ บิคตอร์ บัลเดส นายทวารบาร์ซ่าในนาทีที่ 12
นาทีต่อมา ราชันชุดขาว น่าจะได้ประตูตีเสมอ เมื่อ อังเคล ดิ มาเรีย พาบอลขึ้นมาทางด้านซ้ายแล้วไหลคืนให้กับ เบนเซม่า ยิงด้วยซ้ายจากระยะ 8 หลาบอลข้ามคานไปอย่างไม่น่าเชื่อ
ทีมเยือนเองก็น่าจะได้ประตูที่สองในนาทีที่ 15 เมื่อ เซส ฟาเบรกาส ผ่านให้กับ ลีโอเนล เมสซี่ หลุดกับดักล้ำหน้า กระชากเข้าไปทางกรอบเขตโทษด้านซ้าย ก่อนยิงด้วยซ้ายหักข้อหลุดเสาสองไป
ถัดมาสามนาที ชุดขาว สวนขึ้นมาทาง คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ลองยิงไกลด้วยขวาแต่บอลไม่มีน้ำหนักเท่าไหร่ ทำให้ บัลเดส รับไว้ได้สบาย
ผ่านมา 20 นาที เจ้าถิ่นไล่ตามตีเสมอสำเร็จจากจังหวะที่ อังเคล ดิ มาเรีย โยนจากทางด้านซ้ายมาให้กับ คาริม เบนเซม่า เทคตัวขึ้นโหม่ง บิคตอร์ บัลเดส นายทวารบาร์ซ่า ปัดได้นิดหนึ่งแต่บอลยังเข้าประตูไป ช่วยให้ เรอัล มาดริด ตามตีเสมอ 1-1
จากนั้น 4 นาที ราชันชุดขาว มาได้ประตูแซงนำจากจังหวะที่ อังเคล ดิ มาเรีย ปีกทีมชาติอาร์เจนติน่า ลากมาจนถึงสุดเส้นหลังด้านซ้ายหักเข้ากลางให้กับ คาริม เบนเซม่า พักอกแล้ววอลเลย์ด้วยขวาผ่าน บัลเดส เข้าไปอย่างเด็ดขาดช่วยให้ เรอัล มาดริด นำ 2-1 และเป็นประตูที่ 17 ของ เบนเซม่า ใน ลา ลีกา ซีซั่นนี้
เกมดำเนินมาถึงนาทีที่ 26 เรอัล มาดริด น่าจะได้ประตูที่สามอย่างยิ่ง เมื่อ ดิ มาเรีย ผ่านให้กับ คาริม เบนเซม่า ได้ ยิงด้วยซ้ายบอลผ่าน บัลเดส ไปแล้ว แต่ยังมี เคราร์ด ปีเก้ ปราการหลังของทีมเยือนช่วยสกัดบอลออกมา ก่อนข้ามเส้นประตูได้อย่างหวุดหวิด
ก่อนหมดครึ่งแรกแค่สามนาที เจ้าบุญทุ่ม มาได้ประตูตีเสมอ เมื่อ ลีโอเนล เมสซี่ ทำชิ่งกับ เนย์มาร์ แต่โดน ดาเนียล กาบาร์ฆัล แบ็คขวาของเรอัล มาแหย่ไว้บอลทะลักมาทาง เมสซี่ จับแล้วซัดด้วยซ้ายเข้าไปช่วยให้ บาร์เซโลน่า ตามตีเสมอ 2-2 เป็นประตูที่ 19 ของเมสซี่ในลีกซีซั่นนี้ และเป็นประตูที่ 32 ของเจ้าตัวจากทุกรายการ พร้อมกับทำให้ เมสซี่ ขึ้นมานำเป็นดาวยิงสูงสุดตลอดกาลของศึก "เอล กลาซิโก้" แล้วด้วยจำนวน 19 ประตู ทำลายสถิติเดิมของ อัลเฟรโด้ ดิ สเตฟาโน่ อดีตดาวยิงระดับตำนานของราชันชุดขาว ที่เคยทำเอาไว้ 18 ประตู
โดยในจังหวะที่บาร์ซ่าตีเสมอได้นั้นทาง เซส ฟาเบรกาส จะรีบไปเก็บลูกมาเล่น แต่ เปเป้ กองหลังเรอัล มาดริด มาขวางไว้แล้วปะทะกันจนเกือบจะบานปลาย แต่ผู้ตัดสินห้ามทัพไว้ได้แล้วแจกใบเหลืองให้กับทั้งคู่
นาทีสุดท้ายของครึ่งแรก คาริม เบนเซม่า มีโอกาสทะยานขึ้นโขกบอลเฉี่ยวเสาสองออกไปเส้นยาแดงผ่าแปด ทั้งที่ บัลเดส ไม่อยู่ในตำแหน่งที่จะป้องกันแล้ว หมดครึ่งแรกเสมอกันอยู่ 2-2
มาเล่นกันต่อในครึ่งหลังได้แค่ 7 นาที แกเร็ธ เบล กระชากมาจ่ายสั้นๆจ่ายให้กับ คาริม เบนเซม่า ได้ซัดด้วยขวาตามน้ำ แต่ บิคตอร์ บัลเดส นายทวารบาร์ซ่า ปัดไว้ก่อนเพื่อนร่วมทีมช่วยโหม่งสกัดออกมาได้
กระเถิบมานาทีที่ 55 เจ้าบ้านได้จุดโทษจากจังหวะที่ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ กระชากมาโดนื ดาเนียล อัลเวส สกัดล้มลง ดูเหมือนว่าจะริมกรอบเขตโทษแล้วมาล้มข้างในเขต แต่ผู้ตัดสินเป่าเป็นจุดโทษไปแล้ว คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ลุกขึ้นมาสังหารเองยิงด้วยขวาเข้าไปช่วยให้ เรอัล มาดริด นำ 3-2
และเป็นประตูที่ 26 ของโรนัลโด้ ในลา ลีกา ซีซั่นนี้ นำเป็นดาวซัลโวต่อไป
ถัดมา 3 นาที เรอัล น่าได้ประตูที่สี่ เมื่อ แกเร็ธ เบล หลุดไปทางกรอบเขตโทษด้านขวายิงมุมแคบ แต่ไปติดเซฟของ บัลเดส ออกหลังไป
บาร์ซ่า ไม่กลัวโต้ขึ้นมา เนย์มาร์ ลากตัดเข้าในแล้วยิงโค้งด้วยซ้ายไปเข้าซองของ ดีเอโก้ โลเปซ นายทวารเรอัล มาดริด ในนาทีที่ 61
กระนั้นก็ดีนาทีที่ 65 เจ้าบุญทุ่ม ตามตีเสมอได้สำเร็จจากจังหวะที่ ลีโอเนล เมสซี่ แทงบอลทะลุแนวรับให้กับ เนย์มาร์ สปีดขึ้นมารับบอลในกรอบเขตโทษ แต่โดน เซร์คิโอ รามอส ปราการหลังเรอัล มาดริด แหย่ขาสะกิดล้มลงไป ผู้ตัดสินชี้เป็นจุดโทษ พร้อมชักใบแดงไล่ รามอส ออกจากสนามไปด้วย ทำให้เจ้าบ้านเหลือแค่ 10 คน จากลูกจุดโทษ เมสซี่ สังหารเองซัดด้วยซ้ายเข้าไปไม่เหลือให้ บาร์เซโลน่า ตามตีเสมอ 3-3 เป็นประตูที่สองของเจ้าตัวในเกมนี้ และเป็นประตูที่ 20 ของเมสซี่ ในการลงทำศึก "เอล กลาซิโก้" แล้ว
นาทีต่อมา เรอัล มาดริด ต้องถอด คาริม เบนเซม่า คนทำสองประตูออกแล้วส่ง ราฟาแอล วาราน ลงมาช่วยในเกมรับ
ขณะที่ บาร์ซ่า ถอด เนย์มาร์ ออกแล้วให้ เปโดร โรดริเกซ ลงมาเล่นหน้าแทนในนาทีที่ 67
พอมีผู้เล่นมากกว่า บาร์ซ่า โหมแล้วมีโอกาสได้ประตูที่ 4 เมื่อ เมสซี่ ไหลคืนหลังให้กับ ดาเนี่ยล อัลเวส ตะบันด้วยขวาจากริมกรอบเขตโทษบอลไปชนเสาออกมาอย่างน่าเสียดายในนาทีที่ 74
ท้ายเกมนาทีที่ 84 ทีมเยือนมาได้ประตูที่สี่จนได้ เมื่อ อิเนียสต้า ไปโดน ชาบี อลอนโซ่ ชนล้มในเขตโทษ ผู้ตัดสินชี้ทันที ก่อนที่ เมสซี่ รับหน้าที่สังหารซัดด้วยซ้ายเข้าไปตุงตาข่าย เป็นแฮตทริกของเจ้าตัวในเกมนี้ และเป็นประตูที่ 21 ในการทำศึกกลาซิโก้ของเจ้าตัวด้วย ช่วยให้ บาร์ซ่า แซงนำ 4-3
เวลาที่เหลือทั้งสองทีมทำอะไรกันอีกไม่ได้ จบเกม บาร์เซโลน่า บุกมาเอาชนะ เรอัล มาดริด ที่เหลือแค่ 10 คนได้อย่างสุดระทึก 4-3 เก็บสามแต้มเต็ม
รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม
เรอัล มาดริด: ดีเอโก้ โลเปซ - ดาเนียล กาบาร์ฆัล, เปเป้, เซร์คิโอ รามอส (กัปตันทีม), มาร์เซโล่ วิเอยร่า - ลูก้า โมดริช, ชาบี อลอนโซ่, อังเคล ดิ มาเรีย - แกเร็ธ เบล, คาริม เบนเซม่า, คริสเตียโน่ โรนัลโด้
สำรอง: อีเกร์ กาซียาส (ผู้รักษาประตู) - ราฟาแอล วาราน, ฟาบิโอ โคเอนเตรา, นาโช่ เฟร์นานเดซ, อีสโก้, อาเซียร์ อิยาร์ราเมนดี้, อัลบาโร่ โมราต้า
บาร์เซโลน่า: บิคตอร์ บัลเดส - ดาเนียล อัลเวส, เคราร์ด ปีเก้, ฮาเวียร์ มาสเคราโน่, จอร์ดี้ อัลบา - ชาบี เอร์นานเดซ (กัปตันทีม), เซร์คิโอ บุสเก็ตส์, เซส ฟาเบรกาส - เนย์มาร์, ลีโอเนล เมสซี่, อันเดรส อีเนียสต้า
สำรอง: โฆเซ่ มานูเอล ปินโต้ (ผู้รักษาประตู) - เปโดร โรดริเกซ, อเล็กซิส ซานเชซ, มาร์ก บาร์ตร้า, อเล็กซ์ ซง, อาเดรียโน่ คอร์เรอา, เซร์จี้ โรเบร์โต้
ผู้ตัดสิน: อัลเบร์โต้ อุนเดียโน่ มาเยนโก้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
เอลกลาซิโก้เดือด!ราชันฟัดบาร์ซ่า,จัดโด้วัดแมสซี่
ศึกนัดที่ทั่วทุกมุม โลกรอคอย..."เอล กลาซิโก้" ของสองโคตรทีมแห่งลีกกระทิงดุ "ราชันชุดขาว" เรอัล มาดริด เตรียมเปิดบ้านรับการมาเยือนของ "เจ้าบุญทุ่ม" บาร์เซโลน่า โดย คริสเตียโน่ โรนัลโด้ จอมทัพเจ้าถิ่นจะถูกส่งลงวัดความคมปิดสกอร์กับ ลีโอเนล เมสซี่ จักรสังหารผู้มาเยือน ลุ้นระทึกได้แบบวินาทีต่อวินาที ในศึกฟุตบอล ลา ลีกา สเปน คืนวันอาทิตย์ที่ 23 มี.ค. ศกนี้พลาดไม่ได้! บัลเดสรับต้องบุกทุบราชันหากยังหวังแชมป์ลีก
บิคตอร์ บัลเดส ยอมรับว่าการเยือน เรอัล มาดริด สัปดาห์นี้เป็นงานที่หนักมาก แต่ทีมจำเป็นต้องบุกไปเก็บสามคะแนนให้ได้ หากต้องการเป็นแชมป์ซีซั่นนี้
TOP 5 ข่าวในรอบ 3 วัน
อัลบั้มภาพเด็ดๆ
มาย ฮาเร็ม ส่งภาพเขย่าโซเชียล นุ...
เจนนี่ ธมนภัค พริตตี้สุดฮอต นุ่ง...
ฮาน่า ฮาอึน ชอง ดาว TikTok สาวสว...
นาฟ ฉัฐนันท์ ปล่อยแซ่บท้าลมหนาว ...
เต็มที่แล้ว! ไทย พ่าย อุซเบกิสถา...
ตัดเกรด นักเตะไทย เกมเสมอ โอมาน ...
คลิปไฮไลท์