ผลคะแนนและราคา 2 in 1 คะแนนในการแข่งสด ผลการแข่งขัน ตารางการแข่งขัน อัตราต่อรอง ข้อมูล คะแนนบาสเก็ตบอล
ฟุตบอล » พรีเมียร์ลีก อังกฤษ » เทียบหงส์ชุดแชมป์ปี 1990 vs ชุดลุ้นแชมป์ปี 2014

เทียบหงส์ชุดแชมป์ปี 1990 vs ชุดลุ้นแชมป์ปี 2014

Posted 02/04/2014 by siamsport

 

หลังจากทะยานขึ้นเป็นจ่าฝูง ด้วยฟอร์มเทพถล่ม ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ ขาดลอยถึง 4-0 เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ลิเวอร์พูล กำลังทำให้ สาวก เดอะ ค็อป ทั่วโลกเริ่มหวังและคิดถึงเรื่องการคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกอย่างจริงจังเสียแล้ว ฉะนั้นลองมาเทียบฟอร์มของหงส์แดงในยุค ''ร็อดเจอร์ส'' กับ หงส์แดง ในยุคแชมป์ปี 1990 กันดูสิว่าใครจะฟอร์มดีกว่ากัน

 เพราะครั้งนี้ถือว่า เป็นโอกาสที่ดีที่สุดที่ทัพหงส์แดงจะสามารถกลับมาครองความยิ่งใหญ่ในลีกสูงสุดของอังกฤษ นับตั้งแต่เคยคว้าแชมป์ลีกเมืองผู้ดีเอาไว้ครั้งล่าสุดเมื่อปี 1990 ก่อนที่จะเปลี่ยนมาเป็นพรีเมียร์ลีก ในปี 1992 ลิเวอร์พูล ก็ยังไม่เคยได้แชมป์
 
ทั้งนี้หลังแข่งขันผ่านไป 32 นัด ลิเวอร์พูล ขึ้นเป็นจ่าฝูงมี 71 คะแนน จากสถิติ ชนะ 22 แพ้ 5 เสมอ 5 และยิงในเกมลีกไปแล้วทั้งสิ้น 88 ประตู สูงสุดในบรรดา 20 ทีมตอนนี้ และทิ้งห่าง เชลซี ที่อยู่อันดับสองอยู่ 2 แต้ม ซึ่งจากผลงาน 10 นัดหลังสุดทีมของ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส ชนะถึง 9 เกม เสมอ 1 เกมนับว่า ดีเยี่ยมจริงๆ
 
จนถูกมองว่า เป็นเต็งแชมป์เสียแล้ว ถึงแม้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ยังเป็นทีมเดียวในท็อปโฟร์ที่แข่งเพียง 30 เกม ยังเหลือโปรแกรมอีก 2 นัด แต่การที่ล่าสุดทีมเรือใบสีฟ้ามีแต้มตามหลัง 4 แต้ม ดังนั้นอะไรก็เกิดขึ้นได้ถ้าหากพ่ายแพ้เกมใดเกมหนึ่งในสองนัดดังกล่าว
 
โดยแมตช์ต่อไปจากนี้ของ แมนฯ ซิตี้ เปิดรังเตะกับ เซาธ์แฮมป์ตัน  ในวันเสาร์ที่  5 เมษายนที่จะถึงนี้ และเจอศึกหนักออกไปเยือนรัง แอนฟิลด์ พบกับ ลิเวอร์พูล ในวันอาทิตย์ที่ 13 เมษายนศกนี้
 
อย่างไรก็ดีความหวังที่จะเป็นแชมป์พรีเมียร์ลีกของ ลิเวอร์พูล ต้องขึ้นอยู่กับปัจจัยสำคัญก็คือ ขุมกำลังทีมชุดนี้ว่า มีศักยภาพดีถึงที่สุดหรือยัง ดังนั้นสื่อดังของเมืองผู้ดีอย่าง "อินดิเพนเดนต์" จึงจัดการเปรียบผู้เล่น ลิเวอร์พูล 11 คนในทีมชุดใหญ่ ระหว่างปี 1990 กับ ปี 2014 ว่า ชุดไหนจะดีกว่ากัน ดังนั้นเราไปติดตามกันเลยว่า เป็นอย่างไรกันบ้าง ...

บรูซ กร็อบเบลลาร์ vs ซิมง มิโญเล่ต์


  มิโญเล่ต์ ย้ายจาก ซันเดอร์แลนด์ มาค้าแข้งกับ ลิเวอร์พูล ช่วงเริ่มต้นฤดูกาล 2013/2014 นี้เอง และก็ไม่ต้องใช้เวลาปรับตัวอะไรมากในการเล่นลีกสูงสุดของเมืองผู้ดี เพราะนายทวารทีมชาติเบลเยียม รายนี้ประสบความสำเร็จในซีซั่นแรกด้วยการมีสถิติไม่เสียประตูเลย (คลีน ชีต) ถึง 9 เกมจากการลงเล่น 31 เกมลีก
 
        ส่วนทางด้าน กร็อบเบลลาร์ ตำนานผู้รักษาประตูของลิเวอร์พูล ถือว่า เป็นนายด่านที่มีชื่อเสียงอย่างมากในช่วงที่ค้าแข้งอยู่ระหว่างปี 1980-1994 ด้วยสถิติลงเล่น 628 นัดในเกมลีก ซึ่งตลอดเวลา 14 ปี กร็อบเบลลาร์ พาทีมคว้าแชมป์ลีกได้ 6 สมัย, 3 แชมป์เอฟเอ คัพ, 3 แชมป์ลีก คัพ และแชมป์ยูโรเปี้ยน คัพ ฤดูกาล 1983-84

        สตีฟ นิโคล vs จอน ฟลานาแกน


        ฟลานาแกนอายุแค่เพียง 21 ปี แต่กลายเป็นแข้งดาวรุ่งที่เจิดจรัสอีกคนหนึ่งของ ลิเวอร์พูล ในยุคนี้ หลังจากโชว์พรสวรรค์ให้ทุกคนได้ประจักษ์ ก่อนหน้านี้แบ็กซ้ายรายนี้เคยอกหักจากการไม่มีชื่อในผู้เล่น 11 ตัวจริงจนกระทั่งพัฒนาการเล่นและได้รับโอกาสมากขึ้นจนกลายมาเป็นตัวหลักได้สำเร็จ
 
        สำหรับ สตีฟ นิโคล ก็มีความสามารถเล่นได้ทั้งแผงหลังและแผงมิดฟิลด์ โดยทำสถิติลงเล่นให้ ลิเวอร์พูล 343 นัด พร้อมกับยิงได้ 37 ประตูก่อนจะย้ายไปอยู่ในสหรัฐอเมริกา และกลายเป็นผู้จัดการให้กับ
นิวอิงแลนด์ เรฟโวลูชั่น ทีมชั้นนำในเมเจอร์ลีกนานถึง 9 ปี
 
        ซึ่งก่อนหน้านี้หลังจบเกมแดงเดือดที่ ลิเวอร์พูล ถล่ม แมนฯ ยูไนเต็ด 3-0 เบรนแดน ร็อดเจอร์ส เคยเอ่ยเปรียบเทียบ ฟลานาแกน กับ นิโคล เอาไว้ว่า ทั้งคู่สามารถเล่นทางฝั่งซ้ายได้ดีเยี่ยมถึงแม้จะถนัดเท้าขวาก็ตาม

        อลัน แฮนเซ่น vs  เกล็น จอห์นสัน

 เกล็น จอห์นสัน อยู่กับ ลิเวอร์พูล มาตั้งแต่ปี 2009 และติดทีมชาติอังกฤษ มาแล้ว 50 นัด จัดว่า เป็นผู้เล่นที่ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส ใช้งานต่อเนื่องและไว้วางใจ เช่นเดียวกับ อลัน แฮนเซ่น ที่เคยค้าแข้งกับทีมหงส์แดงนานเกือบ 3 ทศวรรษ ไล่ตั้งแต่ปี 1978 ถึง ปี 1991
 
        ซึ่งบทบาทตำแหน่งเซนเตอร์ฮาล์ฟของแฮนเซ่นถือว่ามีจุดเด่นทั้งการผ่านบอลให้เพื่อนอย่างแม่นยำและสกัดบอลอย่างใจเย็น จนเคยร่วมสร้างความสำเร็จพาทีมคว้าแชมป์ลีกถึง 8 สมัย และแชมป์ยูโรเปี้ยน คัพ 3 สมัย โดยไม่มีปัญหาอาการบาดเจ็บหนักรบกวนเลย

        จอห์น บาร์นส์ vs สตีเว่น เจอร์ราร์ด

ทั้งสองคนถือว่าเป็นผู้เล่นระดับตำนานของ ลิเวอร์พูล อย่างแท้จริง ตลอดเวลา 16 ปีที่อยู่กับหงส์แดงมา กัปตันสตีวี่จีลงเล่นทุกรายการไปแล้วทั้งหมด 660 เกม และเคยพาทีมคว้าแชมป์ยูโรเปี้ยน คัพ, เอฟเอ คัพ และ ลีก คัพ
 
        ขณะที่ จอห์น บาร์นส์ เป็นหนึ่งในปีกที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดของสโมสร ลิเวอร์พูล หลังจากทำไปทั้งหมด 84 ประตูในเกมลีก และลงเล่นมากกว่า  300 เกม ถึงแม้ว่า บาร์นส์ จะไม่เคยพาทีมคว้าแชมป์ยุโรป แต่ก็สามารถนำทีมคว้าแชมป์ลีกสูงสุดได้ถึง 2 สมัย และเคยลงเล่นให้ทีมชาติอังกฤษ 79 นัด ส่วนเจอร์ราร์ดเล่นให้ทัพสิงโตคำรามไปแล้ว 109 นัด 
 

  เกล็น ไฮเซ่น vs มาร์ติน สเคอร์เทล


        มาร์ติน สเคอร์เทล เล่นในตำแหน่งเซนเตอร์แบ็กให้ ลิเวอร์พูล มาแล้วถึง 239 เกม จนกลายเป็นนักเตะตัวหลักที่ได้รับความไว้วางใจมากที่สุดในรอบ 4 ปีหลังสุด ซึ่งสเคอร์เทลเคยคว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของสโมสรเมื่อปี  2012 และเคยพาทีมคว้าแชมป์ลีก คัพ มาครอง ขณะที่ เกล็น ไฮเซ่น อยู่กับ ลิเวอร์พูล ช่วงระหว่างปี 1989 ถึง 1992  ไฮเซ่นถือว่าทำหน้าที่ได้ดี โดยเฉพาะการจับคู่เซนเตอร์กับ แฮนเซ่น จนกลายเป็นกุญแจสำคัญให้ทีมคว้าแชมป์ลีกในยุคนั้น

              สตีฟ สตอนตัน vs แดเนียล แอ็กเกอร์

 แดเนียล แอ็กเกอร์ ลงเล่นให้ ลิเวอร์พูล มากกว่า 170 นัดในเกมพรีเมียร์ลีก นับตั้งแต่ย้ายมาอยู่ในถิ่นแอนฟิลด์เมื่อปี 2006 จนกระทั่งมาแทนที่ เจมี่ คาร์ราเกอร์ ในฐานะรองกัปตันทีม ด้วยความสามารถที่ดีทำให้ บาร์เซโลน่า พยายามที่จะดึงตัวแอ็กเกอร์ไปร่วมทีมอยู่เสมอ
 
        ส่วนทางฝั่ง สตีฟ สตอนตัน เริ่มเล่นให้หงส์แดงตั้งแต่ปี  1986 ลงเล่นให้ทีมไป 109 นัด ถือว่าเป็นนักเตะสารพัดประโยชน์ เพราะใช้งานได้ทั้งแนวรับและเกมแดนกลาง จนมีส่วนช่วยให้ทีมคว้าแชมป์เอฟเอ คัพ กับแชมป์ลีกสูงสุด

        เรย์ ฮิวตัน vs จอร์แดน เฮนเดอร์สัน

 


        จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ซัดไปแล้ว 12 ประตูในการลงเล่น 128 เกมให้กับ ลิเวอร์พูล นับตั้งแต่ย้ายจาก ซันเดอร์แลนด์ มาเมื่อปี 2011 หลังจากนั้นก็ปักหลักเป็นตัวจริง และเป็นส่วนสำคัญอย่างยิ่งในการลุ้นแชมป์ฤดูกาลนี้ ซึ่งถือว่า เป็นนักเตะที่มีความทรงพลังและมีความแข็งแกร่งอย่างมาก
 
        ส่วน เรย์ ฮิวตัน เล่นมาแล้วทั้งหมด 8 ทีมระหว่างที่ยังค้าแข้งอาชีพอยู่ ซึ่งเล่นให้ ลิเวอร์พูล ระหว่งปี 1987
ถึง ปี 1992 ด้วยบทบาทที่ทุ่มเทและหาพื้นที่เล่นได้ดีจากการใช้พรสวรรค์มาเป็นตัวช่วย จนทำให้ยุคนั้นทัพหงส์แดงได้แชมป์ลีกสองสมัย และแชมป์เอฟเอ คัพ อีกสองสมัยเช่นกัน

 สตีฟ แม็คมาฮอน vs ราฮีม สเตอร์ลิง

 

  ราฮีม สเตอร์ลิง เป็นอีกหนึ่งผู้เล่นดาวรุ่งขอ งลิเวอร์พูล ชุดนี้ เพราะอายุเพิ่ง 19 ปีเท่านั้น แต่ระเบิดฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยม ซึ่งตอนนี้ลงเล่นให้ต้นสังกัดไปแล้ว  50 เกมจนกลายเป็นตัวหลักของทีมไปแล้ว หนึ่งในฟอร์มที่ดีที่สุดในฤดูกาลนี้ก็น่าจะเป็นเกมที่ยำใหญ่ อาร์เซน่อล 5-1 เดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
 
        เนื่องจากเหมาคนเดียว 2 ประตู และเพิ่งต่อสัญญายาวกับทีมออกไปอีก 5 ปี เมื่อเดือนธันวาคมปี 2012 ที่ผ่านมา ถือว่าน่าจะเป็นผู้เล่นอยู่โยงยาวกับทีมเช่นเดียวกับ สตีฟ แม็คมาฮอน ที่เคยนำหงส์แดงคว้าแชมป์มาถึง 9 ถ้วย จากผลงานยิง 29 ประตู จากการลงเล่น 200 เกม ซึ่งแฟนหงส์เคยโหวตให้แม็คมาฮอน เป็นนักเตะคนที่ 52 ใน 100 คนผู้เล่น ลิเวอร์พูล ที่ดีที่สุดตลอดกาล

 รอนนี่ วีแลน vs โจ อัลเลน

  อัลเลนดาวเตะวัย 22 ปี ย้ายมา ลิเวอร์พูล เมื่อปี 2012 เคยเล่นให้กับสวอนซี ต้นสังกัดเก่าถึง 100 นัด (ปี 2007-2012) ดังนั้นการออกจากทีมที่ผูกพันมานานก็ทำให้ได้รับความไว้วางใจลงสนามเป็นตัวหลัก อย่างเช่นในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา อัลเลนก็ลงเป็นตัวจริงทุกเกม ทั้งประสบการณ์และความสามารถที่กำลังลงตัวพอเหมาะพอดี ทำให้ อัลเลนถูกเปรียบกับวีแลนตำนานมิดฟิลด์ที่เคยนำ ลิเวอร์พูล คว้าถึง 19 แชมป์ในการค้าแข้งนานถึง 15 ปีเต็ม

               ปีเตอร์ เบียร์ดสลี่ย์ vs แดเนียล สเตอร์ริดจ์

 

เตอร์ริดจ์กลายเป็นหนึ่งในนักเตะที่ ลิเวอร์พูล เซ็นสัญญามาแล้วคุ้มค่าอย่างยิ่ง นับตั้งแต่ย้ายออกจาก เชลซี เมื่อปีที่แล้ว กองหน้ารายนี้ก็เค้นฟอร์มยอดเยี่ยมโดดเด่นจริงๆ จากผลงานลงเล่น 43 เกม ดาวเตะรายนี้ซัดไปแล้ว 34 ประตูในซีซั่นนี้ โดยแบ่งเป็นเกมลีก 20 ประตู ลงเล่น 24 เกม
 
        ซึ่งทำให้คว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมประจำเดือนไปครองถึง 2 ครั้งแล้วตั้งแต่เริ่มฤดูกาลมา ดังนั้นจึงถือว่า เป็นช่วงฟอร์มร้อนแรงที่สุดในอาชีพค้าแข้งก็ว่าได้ แถมยังได้มาจับคู่กองหน้าร่วมกับ หลุยส์ ซัวเรซ ดาวยิงชาวอุรุกวัย เพื่อนร่วมทีมที่ฮอตเกินบรรยายกดไปแล้ว 48 ประตู
 
        ด้าน เบียร์ดสลี่ย์ เป็นหนึ่งในนักเตะที่ชาญฉลาดและไม่เห็นแก่ตัวที่สุดของสโมสร เพราะการจับคู่หัวหอกร่วมกับ จอห์น อัลดริดจ์ ในอดีตนั้น ตำนานกองหน้าคนนี้จ่ายบอลให้เพื่อนอย่างสวยงามเสมอ ซึ่งช่วงที่เล่นให้ ลิเวอร์พูล เบียร์ดสลี่ย์ ทำไป 59 ประตูจากการลงเล่น 175 เกม ฉะนั้นจึงไม่แปลกที่อดีตกองหน้ารายนี้เคยเล่นมาแล้ว 13 สโมสรตลอดเวลาค้าแข้ง 20 ปี

        เอียน รัช vs หลุยส์ ซัวเรซ


  นับตั้งแต่ย้ายมาเมื่อปี 2011 ซีซั่นนี้ หลุยส์ ซัวเรซ กลายเป็นชื่อที่แค่ได้ยินก็ทำให้ตาข่ายคู่แข่งแทบจะขาดได้เลย เพราะฤดูกาลนี้ยิงเป็นเข้าตลอด หลังจากซัดไปแล้ว 29 ประตู ในการลงเล่นเกมพรีเมียร์ลีก 27 แมตช์ นอกจากนี้ ซัวเรซ รั้งตำแหน่งดาวซัลโวสูงสุดในฤดูกาลนี้อีกด้วย
 
        ขณะที่ เอียน รัช ตำนานศูนย์หน้าชาวเวลส์ สร้างสถิติยิงเอาไว้ 346  ประตู จาก 660 เกมที่ลงเล่นให้ ลิเวอร์พูล ทั้งสองครั้งที่ค้าแข้งด้วย ระหว่างปี 1980-1987 และ ระหว่างปี 1988-1996 ตลอดเวลา 16 ปีที่อยู่ในถิ่นแอนฟิลด์ รัชพาทีมคว้าแชมป์ลีกสูงสุดได้ถึงห้าสมัยถือว่าเป็นดาวยิงระดับตำนานจริงๆ ซึ่งต้องดูว่า ซัวเรซจะพาทีมคว้าแชมป์ลีกได้สำเร็จหรือไม่

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
  • แพ็คคู่! สื่อกระพือราชันทุ่ม125 ล. ล่า 2 สตาร์หงส์
    สื่อประโคมข่าว ราชันชุดขาววางแผนทุ่มข้อเสนอมหาศาล 125 ล้านปอนด์ หมายรวบสองแข้งเทพหงส์แดงร่วมทัพในช่วงซัมเมอร์นี้
  • อัลดริดจ์เผยหัวใจเต้นระรัวตอนซัวเรซซัดใส่ไก่
    จอห์น อัลดริดจ์ อดีตหัวหอก ลิเวอร์พูล ระบุ ตนตื่นเต้นสุดๆ กับตอนที่ หลุยส์ ซัวเรซ ทำประตูได้ในเกมที่ "หงส์แดง" คว้าชัยเหนือ สเปอร์ส 4-0 เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา จนถึงขนาดที่ชีพจรพุ่งสูงปรี๊ด พร้อมชมทีมของกุนซือ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส ที่ผ่านบททดสอบสุดหินอย่างการเจอกับ "ไก่เดือยทอง" มาได้แบบสบายๆ
  • บีร็อดชูเดอะค็อปพาหงส์บินสูง
    เบรนแดน ร็อดเจอร์ส กุนซือ ลิเวอร์พูล ยกเครดิตให้กับแฟนบอล ที่ช่วยทำให้ "หงส์แดง" มีผลงานอันยอดเยี่ยม พร้อมชี้ ทีมของตนยังเดินหน้าพัฒนาอย่างต่อเนื่อง
  • เชียร์สุดใจ!ปอมปีย์ฟัน1ล.ปอนด์หากหงส์ซิวแชมป์
    สกายสปอร์ตส์ สื่อกีฬาชื่อก้องของเกาะอังกฤษ ตีข่าว พอร์ทสมัธ จะซิวเงินราว 1 ล้านปอนด์ทันที หาก ลิเวอร์พูล ยังเป็นจ่าฝูงของลีกไปจนถึงจบฤดูกาล เพราะเคยทำเงื่อนไขกันเอาไว้ในตอนที่ "หงส์แดง" ดึง เกล็น จอห์นสัน แบ็กขวาชาวอังกฤษมาจาก "ปอมปีย์"

TOP 5 ข่าวในรอบ 3 วัน

อัลบั้มภาพเด็ดๆ

More »

คลิปไฮไลท์

More »