"เรือใบสีฟ้า" แมนฯซิตี้ สุดเจ๋งเปิดบ้านถล่ม "นักบุญแดนใต้" เซาธ์แฮมป์ตัน 4-1 เก็บสามคะแนน พร้อมแซง เชลซี ขึ้นไปอยู่ที่2ชั่วคราว และจี้หลัง ลิเวอร์พูล คะแนนเดียว แต่แข่งน้อยกว่าหนึ่งนัด ในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อ วันเสาร์ที่ 5 เมษายน ที่ผ่านมา

ฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ

วันเสาร์ที่ 5 เมษายน 2557

แมนฯ ซิตี้ 4-1 เซาธ์แฮมป์ตัน

สนาม:เอติฮัด สเตเดี้ยม


         "เรือใบสีฟ้า" แมนฯซิตี้ ที่ยังไร้ชื่อ เซร์คิโอ อเกวโร่ อีกเกม เปิดบ้านรับ "นักบุญแดนใต้" เซาธ์แฮมป์ตัน โดยเกมนี้ เจ้าถิ่นส่ง เฆซุส นาบาส,ดาวิด ซิลบา และ ซามีร์ นาสรี่ เป็นสามแนวรุก และใช้ เอดิน เซโก้ เป็นหัวหอกเป้า ขณะที่ทีมเยือน ส่ง เจย์ โรดริเกซ และ ริกกี้ แลมเบิร์ต มาป่วน

 
        เริ่มเกมมา3นาที เจ้าบ้าน แมนฯซิตี้ ขึ้นนำอย่างรวดเร็ว เมื่อ โชเซ่ ฟอนเต้ ไปทำฟาวส์ เอดิน เซโก้ ล้มในกรอบเขตโทษ ผู้ตัดสินชี้เป็นลูกจุดโทษทันที ก่อน ยาย่า ตูเร่ สังหารไม่พลาด เรือใบ นำ 1-0


        2นาทีต่อมา เจ้าถิ่นโหมบุกอีก แล้วก็มีลุ้น เมื่อ ปาโบล ซาบาเลต้า เติมขึ้นมาเปิดให้ ซามีร์ นาสรี่ ตวัดยิงเสาแรก แต่บอลหลุดเสานิดเดียว


        นาทีที่17 แมนฯซิตี้ ได้ฟรีคิกริมสนามฝั่งซ้าย เปิดโดย ดาวิด ซิลบา มาที่กลางประตู อเล็กซานเดอร์ โคลารอฟ ได้โหม่งเต็มๆ แต่บอลโด่งข้ามคานไปเยอะ


        นาทีที่26 สถานการณ์ทีมเยือน ไม่สู้ดีอีก เมื่อ กองหน้าตัวเก่งอย่าง เจย์ โรดริเกซ บาดเจ็บเล่นต่อไม่ไหว ต้องส่ง เจมส์ วาร์ด-พราวน์ ลงมาแทน


        นาทีที่35 แฟนซิตี้ เกือบได้เฮ เมื่อได้ฟรีคิก เปิดโดย ซามีร์ นาสรี่ มาที่เสาสอง ให้ เอดิน เซโก้ ลอยโขกคนเดียว แต่บอลไปเช็ดคาน ออกหลังอย่างน่าเสียดาย


        2นาทีต่อมา แฟนทีมเยือนได้เฮคืนบ้าง เมื่อ แจ๊ค คอร์ก พาบอลลุยเข้าไปในกรอบเขตโทษ ก่อนถูก ปาโบล ซาบาเลต้า ทำฟาวส์ล้ม ผู้ตัดสินชี้เป็นลูกจุดโทษบ้าง ก่อน ริกกี้ แลมเบิร์ต สังหารไม่เหลือ ทีมนักบุญ ตามเสมอ 1-1


        นาทีที่44 ทีมเจ้าบ้านรับใบเหลืองก่อน เมื่อ แฟร์นันดินโญ่ ไปเข้าบอลเปิดปุ่มใส่ มอร์แกน ชไนเดอแลง เลยไม่รอดรับใบเหลืองคนแรกของเกม


        อย่างไรก็ตาม ช่วงทดเวลาครึ่งแรก แฟนเรือใบได้เฮอีกครั้ง เมื่อ ยาย่า จ่ายบอลให้ เอดิน เซโก้ แตะบอลให้ ดาวิด ซิลบา แม้จะเหลื่อมล้ำหน้าไปหน่อย แต่เมื่อผู้ช่วยผู้ตัดสินไม่ยก ซิลบา จึงหลุดไปเปิดให้ ซามีร์ นาสรี่ แปโล่งๆไม่เหลือ แมนฯซิตี้ นำ 2-1


        ช่วงทดเจ็บ เหมือนทีมนักบุญเมาหมัด เมื่อ แมนฯซิตี้ บุกขึ้นมาใหม่ ซามีร์ นาสรี่ จ่ายบอลให้ อเล็กซานเดอร์ โคลารอฟ เปิดเข้ากลางให้ เอดิน เซโก้ วิ่งมาโขกเข้าประตูไปอีก แมนฯซิตี้ นำห่าง 3-1 พร้อมหมดครึ่งแรกด้วยสกอร์นี้


        เริ่มครึ่งหลังมา แม้จะนำอยู่ แต่เจ้าบ้านก็ชิงเปลี่ยนตัวก่อน โดยส่ง ฆาบี การ์เซีย มาแทน แฟร์นันดินโญ่ ที่โดนเหลืองไปแล้ว


        นาทีที่55 แฟนทีมเยือน เสียว เมื่อ ยาย่า ตูเร่ เลี้ยงบอลลุยเข้ากรอบเขตโทษ ก่อนไปเบียดกับ โชเซ่ ฟอนเต้ ล้มในกรอบ แต่คราวนี้ผู้ตัดสินเฉย สาวกนักบุญจึงได้เป่าปากโล่ง


        10นาทีต่อมา แมนฯซิตี้ เปลี่ยนตัวอีกครั้ง โดยส่ง อัลบาโร่ เนเกรโด ลงมาแทน เอดิน เซโก้


        นาทีที่68 แมนฯซิตี้ รับใบเหลืองไปอีก เมื่อ ฆาบี การ์เซีย ไปตัดฟาวส์ อดัม ลัลลาน่า ในจังหวะโต้กลับ เลยโดนใบเหลืองไปอีกคน


        นาทีที่75 ทีมนักบุญ พลาดได้ประตูไม่น่าเชื่อ เมือ อดัม ลัลลาน่า จ่ายบอลให้ ริกกี้ แลมเบิร์ต หลุดเข้าไปกดยิงมุมแคบ บอลผ่าน โจ ฮาร์ท ไปแล้ว แต่ลูกกลับหลุดเสาออกหลังนิดเดียว


        2นาทีต่อมา แมนฯซิตี้ เปลี่ยนตัวคนสุดท้าย โดยส่ง สเตฟาน โยเวติช ลงมาแทน ดาวิด ซิลบา


        นาทีที่78 แมนฯซิตี้ โดนใบเหลืองไปอีก เมื่อ ผู้ตัดสินมองว่า ยาย่า ตูเร่ แกล้งพุ่งล้มในกรอบเขตโทษ เลยโดนไปข้อหาตบตา


        นาทีต่อมา เซาธ์แฮมป์ตัน เปลี่ยนตัวบ้าง โดยส่ง วิคเตอร์ วันยาม่า ลงมาแทน แจ๊ค คอร์ก


        นาทีที่81 แมนฯซิตี้ ก็มาบวกประตูเพิ่มอย่างไม่ยาก เมื่อ เฆซุส นาบาส เปิดบอลเรียดจากริมสนามฝั่งขวามาที่หน้าประตู อัลบาโร่ เนเกรโด เข้าไม่ถึงบอล แต่บอลไหลมาถึง สเตฟาน โยเวติช ที่วิ่งมาคนเดียวแปโล่งๆไม่เหลือ เจ้าถิ่นนำห่าง 4-1


        ช่วงเวลาที่เหลือทั้งสองทีมทำอะไรกันเพิ่มไม่ได้ หมดเวลา แมนฯซิตี้ จึงเปิดบ้านเอาชนะ เซาธ์แฮมป์ตัน ไป 4-1 เก็บสามคะแนน พร้อมแซง เชลซี ขึ้นไปอยู่ที่2ชั่วคราว และจี้หลัง ลิเวอร์พูล คะแนนเดียว แต่แข่งน้อยกว่าหนึ่งนัด

11นักเตะของทั้งสองทีม

แมนฯซิตี้(4-2-3-1):โจ ฮาร์ท,ปาโบล ซาบาเลต้า,แวงซองต์ กอมปานี,มาร์ติน เดมิเคลิส,อเล็กซานเดอร์ โคลารอฟ,ยาย่า ตูเร่,แฟร์นันดินโญ่,เฆซุส นาบาส,ดาวิด ซิลบา,ซามีร์ นาสรี่,เอดิน เซโก้

สำรอง:ไมกาห์ ริชาร์ดส์,โจเลออน เลสคอตต์,เจมส์ มิลเนอร์,อัลบาโร่ เนเกรโด,ฆาบี การ์เซีย,คอสเทล ปันติลิมอน,สเตฟาน โยเวติช

เซาธ์แฮมป์ตัน(4-4-2):เปาโล กาซซานิก้า,คาลัม แชมเบอร์ส,เดยัน ลอฟเรน,โชเซ่ ฟอนเต้,ลุค ชอว์,มอร์แกน ชไนเดอแลง,แจ๊ค คอร์ก,อดัม ลัลลาน่า,สตีเว่น เดวิส,เจย์ โรดริเกซ,ริกกี้ แลมเบิร์ต

สำรอง:วิคเตอร์ วันยาม่า,เจมส์ วาร์ด-พราวน์,ชูลี่,จอส ฮูเวลด์,แซม กัลลาเกอร์,โคดี้ ครอบเปอร์,นาธาเนียล ไคลด์

ผู้ตัดสิน:คริส ฟอย