แอชลี่ย์ โคล แบ็กซ้ายจอมเก๋าของ เชลซี เตรียมโดนสอบปากคำจากการที่โดนกล่าวหาว่า ไปทำร้ายร่างกาย โดนาเทลล่า ปานายิโอตู พิธีกรทีวีสาว ระหว่างอยู่ที่ไนต์คลับของนครลอสแองเจลิส โดยหากโดนตัดสินว่าผิดจริง แข้งวัย 33 ปี ก็ต้องเจอบทลงโทษหนักพอตัว

แอชลี่ย์ โคล แบ็กซ้ายมากประสบการณ์ของ เชลซี สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งวงการ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ จะโดนเจ้าหน้าที่ตำรวจของนครลอสแองเจลิส ประเทศสหรัฐอเมริกา สอบปากคำ จากข้อกล่าวหาที่ระบุว่า เขาทำร้ายร่างกาย โดนาเทลล่า ปานายิโอตู พิธีกรทีวีสาวรายหนึ่ง

อดีตดาวเตะทีมชาติอังกฤษกำลังอยู่ระหว่างการพักร้อนที่ แอลเอ หลังจากที่ไม่มีชื่อติดทัพ "สิงโตคำราม" ชุดลุยศึกฟุตบอลโลก 2014 รอบสุดท้าย ที่ประเทศบราซิลเป็นเจ้าภาพ ระหว่างวันที่ 12 มิถุนายน ถึงวันที่ 13 กรกฎาคมนี้ แต่ไม่นานมานี้เขาโดนกล่าวหาว่า ไปราดแชมเปญใส่พิธีกรของช่อง เอ็มทีวี ระหว่างไปเที่ยวที่ ลัวร์ ไนต์คลับแห่งหนึ่ง พร้อมตะโกนว่า "เธอรู้ดีว่าทำไมถึงโดนอย่างนี้!"

"การทะเลาะกันเกิดขึ้นแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย กลุ่มของ แอชลี่ย์ ซื้อเครื่องดื่มมาดื่มกันอย่างเต็มที่ แล้วช่วงหนึ่ง แอชลี่ย์ กับ โดนาเทลล่า ก็มาอยู่ที่โต๊ะตัวเดียวกัน แล้วดื่มกันอย่างมีคตวามสุข แต่แล้วก็เกิดการทะเลาะกันขึ้น โดนาเทลล่า อึ้งสุดๆ กับการระเบิดอารมณ์ของเขา พวกเขาตวาดใส่กันและกัน จนสุดท้ายต้องโดนจับแยกออกจากกัน" พยานที่เห็นเหตุการณ์เปิดปากกับ ซันเดย์ มิร์เรอร์ สื่อของเมืองผู้ดี

เป็นที่เชื่อว่า ฝ่ายสาวถึงขั้นตบหน้า โคล ด้วย พร้อมตะโกนใส่กลับไปอีกว่า "ฉันไม่เคยทำอะไรให้นายเลยนะ นายคิดว่าตัวเองเป็นใครกันห๊ะ ?" ซึ่งตอนนี้เธอติดต่อไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว โดยบอกว่า เธอโดนผลักระหว่างการมีปากเสียงกันด้วย ซึ่งถึงแม้เธอจะไม่ขอให้ความเห็นถึงเหตุการณ์ดังกล่าว แต่ก็ยอมรับว่ามันมีเรื่องแบบนั้นเกิดขึ้นจริง

 "มันมีเรื่องอย่างนั้นจริง และตอนนี้มันก็เป็นหน้าที่ของตำรวจแล้ว ภายหลังจากที่มีการยื่นเรื่องร้องเรียนเรื่องการทำร้ายร่างกายอย่างเป็นทางการกับ แอชลี่ย์ โคล แล้ว" พิธีกรสาว ระบุ โดย โคล ไปที่บาร์ดังกล่าวพร้อมกับ ฌอน ไรท์-ฟิลลิปส์ ปีก ควีนส์ปาร์ค เรนเจอร์ส เพื่อฉลองวันเกิดให้ นิค ยัง นักบาสเกตบอลของ ลอสแองเจลิส เลเกอร์ส

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจของลอสแองเจลิสกำลังสอบสวนเหตุการณ์นี้อยู่ โดยระบุว่าเป็นเพียงคดีทำร้ายร่างกายธรรมดา แต่โทษของคดีมันก็มีหลายอย่าง อาทิเช่น ติดคุกนานสุด 6 เดือน, โดนปรับสูงสุดเป็นเงินจำนวน 2,000 เหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 70,000 บาท), และทำงานบำเพ็ญประโยชน์ หรือถูกคุมความประพฤตินาน 3 ปี เป็นต้น