ฟุตบอล » ลีกคัพอื่นๆ » ย้อนรอยสงครามลูกหนัง อังกฤษ v อิตาลี
ย้อนรอยสงครามลูกหนัง อังกฤษ v อิตาลี
Posted 14/06/2014 by siamsport
ต่างฝ่ายต่างได้ชื่อว่าเป็นมหาอำนาจลูกหนังโลก แต่หากพลิกหน้าประวัติศาสตร์ดู จะพบว่า อังกฤษ กับ อิตาลี เพิ่งเคยปะทะกันบนเวทีฟุตบอลโลกเพียงแค่ครั้งเดียวก่อนหน้านี้ คือเมื่อ 24 ปีก่อน
มันคือเกมนัดชิงอันดับสามของศึก อิตาเลีย '90
หมุนเวลากลับไปเมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม 1990 เกมเพลย์ออฟชิงอันดับสามถูกจัดขึ้นที่สังเวียน ซาน นิโคล่า ของสโมสร บารี่ ซึ่งทั้งสองทีม ต่างเพิ่งบอบช้ำจากพ่ายศึกในรอบตัดเชือกด้วยการดวลเป้า
อิตาลี เจ้าภาพ แพ้ดวลเป้าต่อ อาร์เจนติน่า ของ ดีเอโก้ มาราโดน่า ที่สนาม ซาน เปาโล ใน เนเปิ้ลส์ ขณะที่ "ทรี ไลอ้อนส์" ถูกแชมป์โลกในเวลาต่อมาอย่าง เยอรมันตะวันตก ดับฝันที่สนาม เดลเล่ อัลปิ ใน ตูริน
อาเซโญ่ วิชินี่ กุนซืออิตาลี ส่งสองแข้งดังจาก ยูเวนตุส อย่าง ลุยจิ เด อกอสตินี่ กับ ซัลวาตอเร่ สกิลลาชี่ ออกสตาร์ทเป็นตัวจริง พร้อมกับนักเตะใหม่อย่าง โรแบร์โต้ บาจโจ้ ซึ่งเพิ่งย้ายจาก ฟิออเรนติน่า มาหมาดๆ เมื่อซัมเมอร์
ผลปรากฏว่า อิตาลี คว้าชัยไปนิ่ม 2-1 พร้อมกับที่ โตโต้ สกิลลาชี่ การันตีรองเท้าทองคำในฐานะดาวซัลโวประจำทัวร์นาเมนต์ไปครอง
ทั้งสามประตูของเกม เกิดขึ้นในช่วง 20 นาทีสุดท้าย โดย บาจโจ้ เบิกร่องให้เจ้าภาพ หลัง ปีเตอร์ ชิลตัน โกล "สิงโตคำราม" พลาดโดนฉกบอลไปได้จากมือ ก่อนที่ทีมผู้ดี จะแก้คืนจากผลงาน เดวิด แพล็ตต์ ในขณะที่เหลืออีกแปดนาที
เกมทำท่าว่าจะลงเอยด้วยผลเสมอ แต่แล้ว สกิลลาชี่ ก็ซัดนำชัยให้อิตาลีจากลูกจุดโทษ นับเป็นประตูที่หกในรอบเจ็ดเกมของเขา
หมุนเวลากลับไปเมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม 1990 เกมเพลย์ออฟชิงอันดับสามถูกจัดขึ้นที่สังเวียน ซาน นิโคล่า ของสโมสร บารี่ ซึ่งทั้งสองทีม ต่างเพิ่งบอบช้ำจากพ่ายศึกในรอบตัดเชือกด้วยการดวลเป้า
อิตาลี เจ้าภาพ แพ้ดวลเป้าต่อ อาร์เจนติน่า ของ ดีเอโก้ มาราโดน่า ที่สนาม ซาน เปาโล ใน เนเปิ้ลส์ ขณะที่ "ทรี ไลอ้อนส์" ถูกแชมป์โลกในเวลาต่อมาอย่าง เยอรมันตะวันตก ดับฝันที่สนาม เดลเล่ อัลปิ ใน ตูริน
อาเซโญ่ วิชินี่ กุนซืออิตาลี ส่งสองแข้งดังจาก ยูเวนตุส อย่าง ลุยจิ เด อกอสตินี่ กับ ซัลวาตอเร่ สกิลลาชี่ ออกสตาร์ทเป็นตัวจริง พร้อมกับนักเตะใหม่อย่าง โรแบร์โต้ บาจโจ้ ซึ่งเพิ่งย้ายจาก ฟิออเรนติน่า มาหมาดๆ เมื่อซัมเมอร์
ผลปรากฏว่า อิตาลี คว้าชัยไปนิ่ม 2-1 พร้อมกับที่ โตโต้ สกิลลาชี่ การันตีรองเท้าทองคำในฐานะดาวซัลโวประจำทัวร์นาเมนต์ไปครอง
ทั้งสามประตูของเกม เกิดขึ้นในช่วง 20 นาทีสุดท้าย โดย บาจโจ้ เบิกร่องให้เจ้าภาพ หลัง ปีเตอร์ ชิลตัน โกล "สิงโตคำราม" พลาดโดนฉกบอลไปได้จากมือ ก่อนที่ทีมผู้ดี จะแก้คืนจากผลงาน เดวิด แพล็ตต์ ในขณะที่เหลืออีกแปดนาที
เกมทำท่าว่าจะลงเอยด้วยผลเสมอ แต่แล้ว สกิลลาชี่ ก็ซัดนำชัยให้อิตาลีจากลูกจุดโทษ นับเป็นประตูที่หกในรอบเจ็ดเกมของเขา
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
แพงเกิน!หงส์พักเรื่องคว้าตัวโมเรโน่ไว้ก่อน
ลิเวอร์พูล ขอพักเรื่องการคว้าตัว อัลเบร์โต้ โมเรโน่ กองหลังดาวรุ่ง เซบีย่า เอาไว้ก่อน แม้บรรลุข้อตกลงเบื้องต้นได้แล้วก็ตาม เนื่องจาก "หงส์แดง" ต้องการขอความเห็นที่ 2 จากที่ปรึกษาที่น่าเชื่อถือ ก่อนตัดสินใจขั้นสุดท้ายว่าจะเดินหน้าต่อหรือไม่
TOP 5 ข่าวในรอบ 3 วัน
อัลบั้มภาพเด็ดๆ
มาย ฮาเร็ม ส่งภาพเขย่าโซเชียล นุ...
เจนนี่ ธมนภัค พริตตี้สุดฮอต นุ่ง...
ฮาน่า ฮาอึน ชอง ดาว TikTok สาวสว...
นาฟ ฉัฐนันท์ ปล่อยแซ่บท้าลมหนาว ...
เต็มที่แล้ว! ไทย พ่าย อุซเบกิสถา...
ตัดเกรด นักเตะไทย เกมเสมอ โอมาน ...
คลิปไฮไลท์