ทัพ "ซอคเก้อรูส์" ออสเตรเลีย ใช้ ทิม เคฮิลล์ เป็นหน้าเป้า โดยมี มาร์ค เบรสชาโน่ คอยปั้นเกมในแดนกลาง ขณะที่ พลพรรค "อัศวินสีส้ม" ฮอลแลนด์ วาง เวสลี่ย์ สไนเดอร์, อาร์เยน ร็อบเบน, โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ ลงประสานงานในแนวรุก 
 เริ่มเกมการแข่งขัน แค่ 3 นาที บรูโน่ มาร์ตินส์ อินดี้ กองหลังของฮอลแลนด์ก็ต้องลงไปนอนกองกับพื้นหลังโดน ทิม เคฮิลล์ เข้าอัดหนักใส่ แต่ยังดีที่ลุกขึ้นมาเล่นต่อได้

   นาทีที่ 20 ดาลี่ย์ บลินด์ จ่ายบอลให้ อาร์เยน ร็อบเบน ลากบอลจากกลางสนามหลุดเข้าไปยิงด้วยซ้ายในเขตโทษผ่านตัว แม็ทธิว ไรอัน ตุงตาข่าย ให้ฮอลแลนด์ ขึ้นนำ 1-0

   นาทีที่ 21 หลังเขี่ยบอล ไรอัน แม็คโกแวน วางบอลยาวจากครึ่งสนามให้ ทิม เคฮิลล์ ยิงด้วยซ้ายแบบไม่ต้องจับในเขตโทษ บอลพุ่งผ่านมือ แจสเปอร์ ซิลเลสเซ่น ชนคานเข้าไปกองในก้นตาข่ายสุดสวย ออสเตรเลีย ตีเสมอทันควัน 1-1

  นาทีที่ 31 ทีมจิงโจ้เกือบได้ประตูขึ้นนำ แมธิว เล็คกี้ พาบอลขึ้นมาทางฝั่งขวาก่อนผ่านเรียดเข้าไปในเขตโทษ บอลเลยไปที่เสาสองให้ มาร์ค เบรสชาโน่ วิ่งเติมขึ้นมายิงแต่เหินข้ามคานออกไปไกล

 นาทีที่ 44 ทิม เคฮิลล์ โดนใบเหลืองคนแรกของเกม หลังไปเข้าหนักใส่ บรูโน่ มาร์ตินส์ อินดี้

   นาทีสุดท้ายของเกม หลุยส์ ฟาน กัล ตัดสินใจส่ง เมมฟิส เดปาย ลงไปแทน บรูโน่ มาร์ตินส์ อินดี้ ที่เจ็บหนักจนเล่นต่อไม่ไหว

  จบครึ่งเวลาแรก ฮอลแลนด์ ยังเสมอกับ ออสเตรเลีย 1-1

   กลับมาเล่นกันต่อครึ่งหลังแค่สองนาที โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ รับใบเหลืองหลังมือไปโดนหน้าของ แม็ทธิว สปิราโนวิช ในจังหวะแย่งบอล ซึ่งจะทำให้ โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ จะโดนโทษแบนในเกมหน้า

 นาทีที่ 50 อัศวินสีส้ม เกือบได้ประตูขึ้นนำจากลูกยิงระยะ 20 หลาของ เวสลี่ย์ สไนเดอร์ บอลพุ่งจะเสียเสาอยู่แล้ว แต่ แม็ทธิว ไรอัน โชว์ซูเปอร์เซฟพุ่งปัดออกหลังไว้ได้ปลายมือ

   นาทีที่ 53 ทัพซอคเก้อรูส์ เปลี่ยนตัวเอา มาร์ค เบรสชาโน่ ออก และส่ง โอลิเวอร์ โบซานิช 

  และเพียงแค่นาทีเดียว โอลิเวอร์ โบซานิช ที่เพิ่งลงสนามมาก็พาบอลเข้าเขตโทษ ก่อนเปิดบอลไปโดนแขน ดารีล ยันมาท ผู้ตัดสิน ชาเมล ไฮมูดี้ จากแอลจีเรีย ชี้เป็นจุดโทษทันที

   นาทีที่ 54 จากลูกจุดโทษ มิเล่ เยดินัค กัปตันทีมรับหน้าที่สังหารไม่พลาด ส่ง ออสเตรเลีย พลิกขึ้นนำ 2-1

   อัศวินสีส้มยังไม่ท้อ นาทีที่ 58 เมมฟิส เดปาย จ่ายบอลให้ โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ หลุดกับดักล้ำหน้าเข้าไปซัดด้วยซ้ายบอลพุ่งเสียบเสาแรกชนิด แม็ทธิว ไรอัน ได้แต่ยืนมอง ฮอลแลนด์ ตีเสมอเป็น 2-2

  นาทีที่ 67 ทีมจิงโจ้พลาดได้ประตูอย่างน่าเสียดาย ทอมมี่ ออร์ ได้หลุดเข้าเขตโทษจากความผิดพลาดของแนวรับฮอลแลนด์ ก่อนตัดสินใจเปิดบอลไปให้ แมธิว เล็คกี้ แต่ดาวเตะจากเอฟเอสเฟา แฟร้งค์เฟิร์ต พักอกไปตรงตัว แจสเปอร์ ซิลเลสเซ่น

   และจากจังหวะโต้กลับ นาทีที่ 68 โจนาธาน เด กุซมัน ผ่านบอลให้ เมมฟิส เดปาย ซัดด้วยขวาระยะ 30 หลา บอลพุ่งไซด์โค้งหนีมือ แม็ทธิว ไรอัน ก่อนตกพื้นเสียบเสาเข้าประตูไปอย่างสุดสวย ฮอลแลนด์ ขึ้นนำอีกครั้งเป็น 3-2

 หลังเสียประตู นาทีที่ 70 ออสเตรเลีย เปลี่ยนตัวส่ง เบ็น ฮัลโลแรน ลงสนามไปแทน ทิม เคฮิลล์

   นาทีที่ 77 ทีมจิงโจ้เติมแนวรุกส่ง อดัม แท็กการ์ท ลงไปแทน ทอมมี่ ออร์

  นาทีที่ 75 ทีมอัศวินสีส้ม ยังเดินหน้าบุกต่อ โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ ได้บอลหลุดเข้าเขตโทษก่อนไหลย้อนออกมาให้ ไนเจล เด ยองก์ ได้ยิงด้วยขวาบนเส้นเขตโทษ แต่ แม็ทธิว ไรอัน ยังพุ่งปัดไว้ได้

   นาทีที่ 78 ฮอลแลนด์ เปลี่ยนตัวบ้างโดยถอด โจนาธาน เด กุซมัน ออกและส่ง จอร์จินิโอ ไวจ์นัลดุม

   นาทีที่ 88 ฮอลแลนด์ เปลี่ยนตัวคนสุดท้ายโดยถอดเอา โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ ออกและส่ง เยเรเมน เลนส์ ลงไปเล่นแทน

  ช่วงเวลาที่เหลือทั้งสองทีมทำอะไรเพิ่มกันไม่ได้ จบเกม ฮอลแลนด์ เป็นฝ่ายเบียดเอาชนะ ออสเตรเลีย 3-2 เก็บ 6 แต้มเต็ม โอกาสเข้ารอบสดใส ส่วน ออสเตรเลีย ตกรอบเป็นทีมแรกของทัวร์นาเมนต์


 รายชื่อผู้เล่นที่ลงสนาม

 ออสเตรเลีย (4-2-3-1) : แม็ทธิว ไรอัน, เจสัน เดวิดสัน, แม็ทธิว สปิราโนวิช, ไรอัน แม็คโกแวน, อเล็กซ์ วิลกินสัน, มิเล่ เยดินัค, แม็ตต์ แม็คคาย, ทอมมี่ ออร์, มาร์ค เบรสชาโน่, แม็ทธิว เล็คกี้, ทิม เคฮิลล์

 เทรนเนอร์ : อันเก ปอสเตโคกลู

 ฮอลแลนด์ (5-3-2) : ยาสเปอร์ ซิลเลสเซ่น, รอน ฟลาร์, สเตฟาน เดอ ฟราย, บรูโน่ มาร์ตินส์ อินดี้, ดาลี่ย์ บลินด์, ไนเจล เด ยองก์, ดารีล ยันมาต, โจนาธาน เด กุซมัน, เวสลี่ย์ สไนเดอร์, อาร์เยน ร็อบเบน, โรบิน ฟาน เพอร์ซี่

 เทรนเนอร์ : หลุยส์ ฟาน กัล

 ผู้ตัดสิน : ชาเมล ไฮมูดี้ (แอลจีเรีย)