ผลคะแนนและราคา 2 in 1 คะแนนในการแข่งสด ผลการแข่งขัน ตารางการแข่งขัน อัตราต่อรอง ข้อมูล คะแนนบาสเก็ตบอล
ฟุตบอล » ลีกคัพอื่นๆ » ซัวเรซแสบ!อุรุกวัยคืนฟอร์มคว่ำอังกฤษ2-1

ซัวเรซแสบ!อุรุกวัยคืนฟอร์มคว่ำอังกฤษ2-1

Posted 20/06/2014 by siamsport

หลุยส์ ซัวเรซ ที่เพิ่งหายจากอาการบาดเจ็บ ซัลโวคนเดียวสองประตู ช่วยให้ "จอมโหด" อุรุกวัย ทุบ อังกฤษ แบบสุดมันส์ 2-1 เก็บสามคะแนน มีลุ้นเข้ารอบ ส่วน "สิงโตคำราม" ส่อร่วง หลังแพ้รวดสองนัด ในการแข่งขันฟุตบอลโลก 2014 รอบแรก กลุ่ม ดี นัด 2 เมื่อคืนวันพฤหัสบดีที่ 19 มิถุนายน ที่ผ่านมา


ฟุตบอลโลก 2014
(รอบแรก กลุ่ม ดี. นัดสอง)
วันพฤหัสบดีที่ 19 มิถุนายน 2557

อุรุกวัย 2-1 อังกฤษ


 นัดชี้ชะตาเข้ารอบ ทั้งสองทีมต่างจัดแนวรุกเต็มอัตราศึก หวังทะลวงประตูชัย "สิงโตคำราม" อังกฤษ นำมาโดย สตีเว่น เจอร์ราร์ด, เวย์น รูนี่ย์ และ แดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ ลงโป้ง ขณะที่ "จอมโหด" อุรุกวัย ใช้ เอดินสัน คาวานี่ กับ หลุยส์ ซัวเรซ กองหน้าตัวเก่ง ลิเวอร์พูล ที่เพิ่งผ่านความฟิตลงปิดบัญชี



 เริ่มเกมในครึ่งแรกได้ 3 นาที อังกฤษ ได้เสียวก่อน จากจังหวะ เลห์ตัน เบนส์ ไหลบอลให้ แดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ ทะลุเข้าไปในเขตโทษ แต่แรงไปหน่อย เฟร์นานโด มุสเลร่า โกล "จอมโหด" ซึ่งอ่านเกมไว้อยู่แล้ว วิ่งออกมาล้มตัวรับ แต่ดันทำบอลหลุดซอง ดีที่กองหน้า จากสโมสร ลิเวอร์พูล ปรี่เข้าชาร์จไม่ทัน


 ถัดมาอีก 2 นาที อุรุกวัย ได้ลุ้นบ้าง จากลูกเตะมุม หลุยส์ ซัวเรซ แข้ง จอมโหด เปิดไปที่เสาแรก โจ ฮาร์ท นายทวาร เมืองผู้ดี ทุบบอลไปโดนขา จอร์แดน เฮนเดอร์สัน เกือบเปลี่ยนทางเข้าประตูตัวเอง


 นาทีที่ 9 ดีเอโก้ โกดิน ผู้เล่น ตัวแทนจากอเมริกาใต้ โดน ผู้ตัดสิน การ์ลอส เบลาสโก้ การ์บาโย่ ควักใบเหลืองแจก เป็นคนแรกของเกม เมื่อจงใจใช้มือเล่นบอล ในจังหวะ แดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ จะสะกิดบอลเข้าเขตโทษ


 หนึ่งนาทีต่อมา ขุนพล "สิงโตคำราม" เกือบได้ เมื่อ เวย์น รูนี่ย์ บรรจงปั่นด้วยขวา ระยะ 25 หลา จากจังหวะก่อนหน้า บอลโค้งเฉียดสามเหลี่ยมเสาแรก แบบได้เสียวสุดๆ ชนิดที่ เฟร์นานโด มุสเลร่า นายด่าน อุรุกวัย ได้แต่ใช้สายตาป้องกัน


 จากนั้นอีก 5 นาที เกมเปิดแลกสนุก ก่อนเป็น "จอมโหด" ที่ได้เกือบได้ประตู เมื่อ แข้ง อุรุกวัย แทงบอลเร็ว เข้าเขตโทษ เกล็น จอห์นสัน สกัดมาเข้าทาง คริสเตียน โรดริเกซ ก่อนเจ้าตัวซัดเต็มข้อด้วยซ้าย บอลพุ่งแรงเหินข้ามคานออกไปนิดเดียว


 นาทีที่ 27 ตัวแทนอเมริกาใต้ ได้เสียวอีก จากลูกเตะมุม หลุยส์ ซัวเรซ หัวหอก ลิเวอร์พูล เล่นลูกสูตร จ่ายเรียดไปจุดนัดภพ ก่อน เอดินสัน คาวานี่ วิ่งมาสับด้วยขวา บอลหลุดกรอบ แบบกองเชียร์ อังกฤษ หายใจไม่ทั่วท้อง


 เขยิบมาอีก 5 นาที ขุนพล "ทรี ไลอ้อนส์" น่าได้อย่างที่สุด จากฟรีคิก ริมเส้น กราบซ้าย สตีเว่น เจอร์ราร์ด กัปตันทีม โยนด้วยขวา เข้าหาประตู บอลเลยไปถึงเสาสอง เวย์น รูนี่ย์ ที่รออยู่แถวนั้น โฉบมาโขกหลาเดียว ชนคานเต็มๆ


 นาทีที่ 39 ในที่สุด ก็มีสกอร์เกิดขึ้น เมื่อ แข้ง "สิงโตคำราม" โดนตัดบอลจากกลางสนาม บอลมาถึง เอดินสัน คาวานี่ ตรงเส้น 18 หลา ทางกราบซ้าย ก่อนผ่านบอลอย่างแม่นยำ ให้ หลุยส์ ซัวเรซ คู่ขาทีมชาติ วิ่งมาขวิด ระยะ 6 หลา ผ่าน โจ ฮาร์ท เข้าไป อุรุกวัย ขึ้นนำ 1-0


 ท้ายครึ่งแรก ตัวแทน ยุโรป พยายามเร่งเกมบุก หวังทวงประตูตีเสมอ ให้เร็วที่สุด แต่ก็ยังยิงไม่ได้ หมดครึ่งแรก "จอมโหด" นำ 1-0


 เขี่ยลูกเริ่มครึ่งหลังได้ 8 นาที "ทรี ไลอ้อนส์" พลาดตีเสมอ เมื่อ เวย์น รูนี่ย์ รับบอล จาก เพื่อนร่วมทีม ก่อนแตะหลบ แนวรับแข้ง "จอมโหด" แล้วหวดด้วยซ้าย ระยะ 8 หลา โล่งๆ ไปตรงตัว เฟร์นานโด มุสเลร่า ซะงั้น


 นาทีที่ 61 เกมหยุดชั่วคราว เมื่อ อัลวาโร่ เปเรยร่า โดนเข่าซ้ายของ ราฮีม สเตอร์ลิง จากจังหวะล้มตัวสกัด กระแทกไปที่ขมับเต็มแรง ถึงกับนอนแน่นิ่งไปชั่วขณะ ก่อนลุกออกมาดูอาการข้างสนาม แพทย์ ใช้สัญญาณมือ สื่อสารไปยัง ออสการ์ ตาบาเรซ โค้ช "จอมโหด" ว่าเล่นต่อไม่ไหว แต่เจ้าตัวโวยวายว่ายังไหวขอเล่นต่อ


 65 รอย ฮอดจ์สัน นายใหญ่ อังกฤษ แก้เกม เอา ราฮีม สเตอร์ลิง ออก แล้วส่ง รอสส์ บาร์คลี่ย์ จาก สโมสร เอฟเวอร์ตัน เข้ามาลากเลื้อย


 อีกหนึ่งนาทีต่อมา อุรุกวัย เปลี่ยนบ้าง เอา คริสเตียน สตูอานี่ ลงมาเล่นแทน นิโกลัส โลเดยโร่


 68 สตีเว่น เจอร์ราร์ด แข้ง อังกฤษ โดน การ์ลอส เบลาสโก้ การ์บาโย่ ควักใบเหลือง เป็นของชำร่วย เมื่อไปเสียบหนัก คริสเตียน โรดริเกซ


 จากนั้นอีกสามนาที ตัวแทนยุโรป เปลี่ยนคนที่สอง เอา อดัม ลัลลาน่า จาก เซาธ์แฮมป์ตัน ลงมาแทน แดนนี่ เวลเบ็ค ที่เล่นไม่ออก


 หลังจากบุกอยู่นาน อังกฤษ ตามตีเสมอ ได้สำเร็จ เกล็น จอห์นสัน เลี้ยงหลบ สอง ผู้เล่น อุรุกวัย ก่อนไหล ถวายพาน ให้ เวย์น รูนี่ย์ ที่ยืนคนเดียวโล่งๆ แปเข้าไปง่ายๆ "สิงโตคำราม" ไล่มา 1-1 ในนาทีที่ 75 พร้อมกับเป็นประตูแรกในบอลโลก ของดาวยิง จาก แมนฯ ยูไนเต็ด 


 นาทีที่ 79 ออสการ์ ตาบาเรซ เทรนเนอร์ อุรุกวัย ปรับแท็กติกอีก อัลวาโร่ กอนซาเลซ ออก คริสเตียน สตูอานี่ จาก เอสปันญ่อล มาเล่นช่วง 11 นาทีสุดท้าย


 ผ่านมาอีก 6 นาที บอลยาวจากแดน อุรุกวัย แนวรับ "ทรี ไลอ้อนส์" ปล่อยบอลตกพื้น หลุยส์ ซัวเรซ สปีดไปถึงบอล ก่อนแตะหนึ่งจังหวะ หลุดเข้าไปในเขตโทษ แล้วซัดด้วยขวายัดเสาแรกสุดสวย "จอมโหด" ขึ้นนำ 2-1 พร้อมกับเป็นประตูที่สองของเจ้าตัวในเกมนี้


 3 นาทีให้หลัง "จอมโหด" เปลี่ยนอีก เอา เซบาสเตียน โคอาเตส ลงมาแทน หลุยส์ ซัวเรซ ซึ่งยังไม่ฟิต แต่ทำคนเดียวสองประตู ออก


 ถัดมานาทีเดียว รอย ฮอดจ์สัน กุนซือ อังกฤษ ทิ้งไพ่ใบสุดท้าย เอา จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ออก ริคกี้ แลมเบิร์ต หัวหอกใหม่ถอดด้าม ของ ลิเวอร์พูล ลงมาล่าตาข่าย ในช่วงเวลาที่เหลือไม่กี่อึดใจ


 ห้วงเวลาที่เหลือ "สิงโตคำราม" โหมบุกหนัก หวังไล่เจ๊า อีกครั้ง แต่ไม่เฉียบคมพอ จบ 90 นาที อุรุกวัย ชนะ อังกฤษ 2-1 เก็บสามแต้มได้สำเร็จ รอวัดดวงกับ อิตาลี ในนัดสุดท้าย  ส่วน "ทรี ไลอ้อนส์" ส่อจอดเพียงแค่รอบแรก หลังแพ้รวดทั้งสองแมตช์
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม (คะแนนความสามารถ)
 

 อุรุกวัย (4-3-1-2) : เฟร์นานโด มุสเลร่า (7) - โฮเซ่ คิเมเนซ (7), ดีเอโก้ โกดิน (กัปตันทีม) (7), มาร์ติน คาเซเรส (7), อัลวาโร่ เปเรร่า (7) - อัลวาโร่ กอนซาเลซ (6), เอคิดิโอ อเรวาโล่ ริออส (6), คริสเตียน โรดริเกซ (6) - นิโคลัส โลเดยโร่ (6) -  เอดินสัน คาวานี่ (7), หลุยส์ ซัวเรซ (8)


 

 สำรองที่ลงสนาม : คริสเตียน สตูอานี่ (6), ฮอร์เก้ ฟูซิเล่ (6), เซบาสเตียน โกอาเตส (6) 
 
  ใบเหลือง : ดีเอโก้ โกดิน (น.9)


 

 
  อังกฤษ (4-2-3-1) : โจ ฮาร์ท (6) - เกล็น จอห์นสัน (5), ฟิล จากีลก้า (5), แกรี่ เคฮิลล์ (5), เลห์ตัน เบนส์ (5) - จอร์แดน เฮนเดอร์สัน (6), สตีเว่น เจอร์ราร์ด (กัปตันทีม) (5) - ราฮีม สเตอร์ลิ่ง (6),
เวย์น รูนี่ย์ (6), แดนนี่ เวลเบ็ค (6) - แดเนียล สเตอร์ริดจ์ (5)


 

 สำรองที่ลงสนาม : รอสส์ บาร์คลี่ย์ (7), อดัม ลัลลาน่า (7), ริคกี้ แลมเบิร์ต (6)
 
  ใบเหลือง : สตีเว่น เจอร์ราร์ด (น.68)


 

 ผู้ตัดสิน:  การ์ลอส เบลาสโก้ การ์บาโย่ (สเปน)
 
  ผู้ชม :
62,575


 

 แมน ออฟ เดอะ แมตช์ (FIFA.com) : หลุยส์ ซัวเรซ (อุรุกวัย)


 

 ดาวยิงวัย 27 ปี จากสโมสร ลิเวอร์พูล เกมนี้ทำหน้าที่ได้อย่างสมบูรณ์แบบ แม้จะลงสนามเล่นเป็นแมตช์แรกของ ฟุตบอลโลก 2014 แต่บอกได้คำเดียวว่าหัวหอกอุรุกวัยรายนี้สร้างความหวาดผวาให้แนวรับสิงโตคำรามได้ตลอดเวลา กับความสามารถเฉพาะที่หาจังหวะเข้าไปยิงชนิดเฉียบคม และใช้โอกาสไม่เปลืองทั้ง 2 ประตูของดาวยิงหงส์แดงไม่ว่าจะโขก หรือหลุดเข้าไปยิงผ่านมือ โจ ฮาร์ท นายทวารสิงโตคำรามนำมาซึ่งประตูชัยเหนือ อังกฤษ 2-1เหมาะสมแล้วกับผู้เล่นยอดเยี่ยมในเกมวันนี้

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

TOP 5 ข่าวในรอบ 3 วัน

อัลบั้มภาพเด็ดๆ

More »

คลิปไฮไลท์

More »