เนย์มาร์ โชว์ฟอร์มจี๊ดจ๊าด เหมาคนเดียวสองตุง พา "เซเลเซา" บราซิล ไล่ต้อนชนะ "หมอผี" แคเมอรูน 4-1 เข้ารอบเป็นที่ 1 ของกลุ่มเอ ไปพบกับ ชิลี ที่สองของกลุ่มบี ในรอบ 16 ทีมสุดท้ายต่อไป ในศึกฟุตบอลโลก 2014 รอบแบ่งกลุ่ม นัดสุดท้าย กลุ่ม เอ วันจันทร์ที่ 23 มิถุนายน 2557

 ฟุตบอลโลก 2014 รอบแบ่งกลุ่ม นัดสุดท้าย กลุ่ม เอ
    วันจันทร์ที่ 23 มิถุนายน 2557
    แคเมอรูน 1-4 บราซิล

สนาม : เอสตาดิอู นาซิออนนาล, (บราซิเลีย, บราซิล)

 
        "หมอผี" แคเมอรูน ปราชัยรวดสองนัดแรก ต่อเม็กซิโก 0-1 และโครเอเชีย 0-4 กระเด็นตกรอบแน่นอนแล้ว และยังมีปัญหาภายในทีมอีก เกมนี้ไม่มีอเล็กซ์ ซง กองกลางคนสำคัญ ที่เอามือไปทุบใส่หลังของ มานด์ซูคิช จนโดนใบแดงไล่ออกจากสนาม และดร็อป เบอนัวต์ อัสซู-เอก็อตโต้ แบ็คซ้ายหัวฟูที่มีปากเสียงกับ เบนฌาแม็ง มูก็องด์โช่ กองหน้าเพื่อนร่วมทีม แต่มูก็องด์โช่ นัดนี้ได้ลงตัวจริง โดยมีแว็งซ็องต์ อาบูบาการ์ ยืนเป็นหน้าเป้า
 
        ทางด้าน "เซเลเซา" บราซิล เจ้าภาพนัดเปิดสนาม ชนะ โครเอเชีย 3-1 แต่นัดสองทำได้แค่เสมอกับ เม็กซิโก 0-0 มี 4 แต้ม เท่ากับ เม็กซิโก แต่ บราซิล มีประตูได้เสียดีกว่าเลยนำเป็นจ่าฝูง นัดนี้กลับมาใช้ผู้เล่นชุดนัดแรกที่เอาชนะทีมตราหมากรุกมาได้ มีลุยซ์ กุสตาโว่ กับ เปาลินโญ่ เป็นตัวคอยตัดเกมในแดนกลาง ส่วนแนวรุกมากันครบทั้ง ออสการ์, ฮัลค์, เนย์มาร์ และ เฟร็ด

     เริ่มครึ่งแรกบราซิลเป็นฝ่ายเขี่ยลูก และก็ไม่รอช้าดาหน้าลุยเข้าใส่ทันที นาทีที่ 3 ลุยซ์ กุสตาโว่ มีโอกาสเหน่งๆ แต่ยิงไม่ดีไปติดแผงหลังแคเมอรูนเคลียร์ออกไปได้


     ทางด้านแคเมอรูน ก็ไม่ได้เกรงกลัวแต่อย่างใด นาทีที่ 9 เอย็อง เอโนห์ ได้ส่องตรงเส้นเขตโทษ วิถีบอลพุ่งเข้ากรอบ แต่เป็นมาร์เชโล่ ที่มาบล็อกไว้ได้


     จากนั้น 2 ทัพหมอผี มาโดนใบเหลืองแรก เมื่อ เอย็อง เอโนห์ ไปเสียบหนักใส่ มาร์เชโล่


     และถึงนาทีที่ 17 ขุนพลเซเลเซา ก็ออกนำจนได้ เมื่อ ลุยซ์ กุสตาโว่ ตัดบอลได้ทางริมเส้นฝั่งซ้าย ก่อนจะลากขึ้นไปเปิดเข้าเขตโทษ ถึง เนย์มาร์ แปกระแทกด้วยขวาบริเวณจุดโทษไปที่เสาสองตุงตาข่าย


     ให้หลัง 3 นาที เนย์มาร์ เกือบเบิกสกอร์ให้กับตัวเองอีกครั้ง เมื่อได้วอลเลย์ด้วยซ้ายแบบไม่จับ แต่ไม่ตรงตัวชาร์ลส์ อิต็องเช่ ปัดออกหลังไปได้ 


     ทัพแซมบ้ายังมาเป็นชุด นาทีที่ 22 เปาลินโญ่ เปิดจากซ้ายในเขตโทษ มาให้ เฟร็ด ได้ชาร์จจ่อๆ แต่ยังเป็น ชาร์ลส์ อิต็องเช่ ที่ล้มตัวขวางเอาไว้ได้หวุดหวิด


     แต่แคเมอรูน มาอาศัยลูกตั้งเตะ และเกือบตีเสมอได้เช่นกัน ในนาทีที่ 25 จากจังหวะเตะมุม เบนฌาแม็ง มูก็องโฌ่ เปิดมาหน้าประตู ติอาโก้ ซิลวา พยายามโหม่งสกัด แต่ผิดเหลี่ยมบอลชนคานเต็มๆ


     และชั่วอึดใจเดียวนาทีต่อมา กลับเป็นทัพหมอผี ที่ตามตีเสมอสำเร็จเป็น 1-1 เมื่อ อัลลัน นียอม ขึ้นบอลมาทางฝั่งซ้าย ก่อนหลบดาเนียล อัลเวสได้ แล้วเปิดสุดเส้นหลังให้ โฌแอล มาติป ที่ยืนอยู่โล่งๆ แปจ่อๆไม่เหลือ


     แต่บราซิล ใช้เวลาไม่นาน ในนาทีที่ 35 ก็ขึ้นนำอีกครั้งเป็น 2-1 จังหวะที่อัลลัน นียอม เปิดบอลจากแดนตัวเองไม่ดี มาเข้าทาง มาร์เชโล่ เบิ้ลเร็วให้ เนย์มาร์ ลากตัดจากซ้ายเข้าใน แล้วยิงด้วยขวาในกรอบเขตโทษ ลูกพุ่งเรียดซุกก้นตาข่าย


     นาทีต่อมาขุนพลเซเลเซา ได้เสียวอีกหน คราวนี้ ฮัลค์ ได้สับไกลด้วยซ้ายเต็มแรง ระยะประมาณ 30 หลา ลูกพุ่งเร็วไปที่เสาแรก แต่ชาร์ลส์ อิต็องเช่ยังไม่เผลอ ล้มตัวทุบออกหลังไปได้


     ท้ายเกม ฮัลค์ ได้ยิงอีกครั้งในเขตโทษ แต่ไปติดบล็อกแผงหลังแคเมอรูน จบครึ่งแรก บราซิล นำ 2-1


     เข้าสู่ครึ่งหลัง หลุยซ์ เฟลีเป้ สโคลารี่ นายใหญ่แซมบ้า จัดการเปลี่นตัวคนแรกทันที ถอดเปาลินโญ่ ออก แล้วส่งแฟร์นานดินโญ่ ลงมาแทน


     เริ่มมาเจ้าภาพก็ลุยใส่ตามสไตล์ นาที 47 ก็ได้ลุ้น เฟร็ด ยิงด้วยซ้ายเต็มๆ 20 หลา บอลจะเสียบเสาอยู่แล้ว แต่อิต็องเช่ พุ่งเซฟได้อย่างฉิวเฉียด


     จากนั้น 2 นาที มาได้ฟรีคิกทางฝั่งซ้าย เนย์มาร์ รับอาสาปั่นด้วยขวา แต่อิต็องเช่ ก็ปัดออกหลังได้อีก


     และนาทีที่ 50 แผงหลังแคเมอรูน ก็เอาไม่อยู่ บราซิล หนีไปเป็น 3-1 แฟร์นานดินโญ่ แตะต่อให้ดาวิด ลุยซ์ ที่เติมมาทางฝั่งซ้าย เปิดเข้ามาหน้าปากประตู เฟร็ด โขกจ่อๆไม่เหลือ


     ถึงนาทีที่ 58 ทัพหมอผี แก้เกมคนแรกบ้าง ส่ง เอ็ดการ์ ซัลลี่ ลงมาแทน เบนฌาแม็ง มูก็องโฌ่


     นาทีที่ 63 บราซิล เปลี่ยนคนที่สองลงมา เอา ฮัลค์ ออก และแทนทีโดย รามิเรส


     นาทีที่ 71 ทัพเซเลเซา เปลี่ยนคนสุดท้าย ถอด เนย์มาร์ ไปพัก แล้วส่งวิลเลี่ยน ลงแทน


     ขณะที่นาทีต่อมา แคเมอรูน ก็เปลี่ยนตัวคนที่สอง ส่ง ปิแอร์ เวโบ้ ลงมาแทน แว็งซ็องต์ อาบูบาการ์


     ผ่านไป 75 นาที ฝั่งแคเมอรูน เริ่มเล่นกันหนักขึ้น เอ็ดการ์ ซัลลี่ ไปทำฟาวล์ ดาเนียล อัลเวส โดนเหลืองเป็นคนที่สองอีกราย


     และนาที 80 สเตฟาน เอมเบีย ก็ไปเข้าหนักใส่ ลุยซ์ กุสตาโว่ โดนเหลืองไปอีก


     นาทีต่อมา โฟลเกอร์ ฟิงเค่ เทรนเนอร์หมอผี แก้เกมคนสุดท้าย ส่ง ฌ็อง มากูน ลงมาแทน เอริก มักซิม ชูโป-โมติง


     ท้ายเกม นาทีที่ 84 ทัพแซมบ้า ก็นำไปไกลเป็น 4-1 เมื่อ ออสการ์ แตะสั้นๆให้ แฟร์นานดินโญ่ ที่ลงมาเป็นตัวสำรอง หลุดไปจิ้มด้วยขวา ผ่านมือ อิต็องเช่ เสียบมุม


     ช่วงทดเวลาเจ้าภาพก็เกือบได้ลูกห้า จากการยิงของวิลเลี่ยน แต่อิต็องเช่ยังเซฟไว้ได้ จากนั้นไม่มีประตูเพิ่ม จบ 90 นาที บราซิล ถล่ม แคเมอรูน 4-1 เข้ารอบเป็นที่ 1 ของกลุ่มเอ ไปพบกับ ชิลี ที่สองของกลุ่มบี ในรอบ 16 ทีมสุดท้ายต่อไป 

        รายชื่อผู้เล่นที่ลงสนาม
 
        แคเมอรูน (4-1-4-1) : ชาร์ลส์ อิต็องเช่ - อัลลัน นียอม, โฌแอล มาติป, นิโกล่าส์ เอ็นคูลู (กัปตันทีม), อองรี เบดิโม่ - เอย็อง เอโนห์ - ล็องดรี้ เอ็นกูเอโม่, สเตฟาน เอมเบีย, เอริก มักซิม ชูโป-โมติง, เบนฌาแม็ง มูก็องโฌ่ - แว็งซ็องต์ อาบูบาการ์
 
        บราซิล (4-2-3-1) : ชูลิโอ เซซ่าร์ - ดาเนียล อัลเวส, ดาวิด ลุยซ์, ติอาโก้ ซิลวา (กัปตันทีม), มาร์เชโล่ - ลุยซ์ กุสตาโว่, เปาลินโญ่ - ออสการ์, ฮัลค์, เนย์มาร์ - เฟร็ด
 
        ผู้ตัดสิน : โยนาส อีริคส์สัน (สวีเดน)