(รอบแรก กลุ่ม ดี.)
วันอังคารที่ 24 มิถุนายน 2557
อิตาลี   -  อุรุกวัย

สนาม : เอสตาดิอู ดาส ดูนาส, นาตาล
ถ่ายทอดสด : ททบ.5, ทรู เอเอสเอ็น 2 (678), TV One Indo, Astro SuperSports (เวลา 23.00 น.)

 เชซาเร่ ปรันเดลลี่ เทรนเนอร์ "อัซซูร์รี่" คว้าชัยเหนือ อังกฤษ 2-1 ในเกมแรก แต่นัดถัดมาพลิกล็อกพ่ายให้กับ คอสตาริกา 0-1 ทำให้ต้องมาตัดสินเข้ารอบนัดสุดท้ายนี้

 อิตาลี ต้องการเพียงผลเสมอเป็นอย่างน้อยก็จะผ่านเข้าสู่รอบต่อไป ทว่าหากแพ้จะเก็บกระเป๋ากลับบ้านทันที ส่วนโอกาสเป็นแชมป์กลุ่มนั้นจะต้องชนะนัดนี้ให้ได้ และลุ้นให้ คอสตาริกา แพ้ อังกฤษ เยอะๆ

 สภาพทีมเจอข่าวร้ายที่ ดานิเอเล่ เด รอสซี่ เกิดเจ็บน่องหลังเกมแพ้ คอสตาริกา ทำให้มีความเป็นไปได้สูงที่จะชวด แต่ข่าวดีคือ มัตเตีย เด ชิโญ่ ฟิตกลับมาพร้อมลงสนามเป็นที่เรียบร้อย

 เกมนี้ อิล ชิ.ที. จะปรับมาใช้แผนการเล่น 3-5-2 โดยแนวรับยกบล็อกมาจากสโมสร ยูเวนตุส ขณะที่แนวรุกก็ส่ง ชิโร่ อิมโมบิเล่ ดาวซัลโวของเซเรีย อา เมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา ลงช่วย มาริโอ บาโลเตลลี่

 ผู้รักษาประตูเป็น จานลุยจิ บุฟฟ่อน กองหลังประกอบด้วย อันเดรีย บาร์ซาญี่, เลโอนาร์โด้ โบนุชชี่ และ จอร์โจ้ คิเอลลินี่

 อันเดรีย ปีร์โล่ ประสานงานแดนกลางกับ มาร์โก แวร์รัตติ และ เคลาดิโอ มาร์คิซิโอ วิงแบ็กเป็น มัตเตโอ ดาร์เมียน กับ มัตเตีย เด ชิโญ่ กองหน้า มาริโอ บาโลเตลลี่ จับคู่ล่าตาข่ายกับ ชิโร่ อิมโมบิเล่

 ด้าน ออสการ์ ตาบาเรซ กุนซือ "จอมโหด" ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องเก็บชัยให้ได้สถานเดียวหากหวังที่จะผ่านเข้ารอบ หลังประเดิมพ่าย คอสตาริกา 1-3 และเฉือนชนะ อังกฤษ 2-1

 ข่าวดีคือ ดีเอโก้ ลูกาโน่ กองหลังกัปตันทีม หายเจ็บกลับมาเรียบร้อย และน่าจะได้ลงคุมเกมรับทันที นอกจากนี้ มักซี่ เปเรยร่า แบ็กขวา ก็พ้นโทษแบนด้วย แต่อาจเป็นสำรองก่อน เนื่องจากทั้ง มาร์ติน กาเซเรส และ อัลวาโร่ เปเรยร่า ต่างทำผลงานกันได้ดีในนัดล่าสุด

 เฟร์นานโด มุสเลร่า รับหน้าที่เฝ้าเสา แนวรับที่เหลือ ดีเอโก้ ลูกาโน่ จับคู่เซนเตอร์ฮาฟกับ ดีเอโก้ โกดิน ขนาบข้างด้วย มาร์ติน กาเซเรส และ อัลวาโร่ เปเรยร่า

 เอคิดิโอ อาเรวาโล่ รีออส ทำเกมกลางสนามกับ อัลวาโร่ กอนซาเลซ และ คริสเตียน โรดริเกซ วาง นิโกลัส โลเดยโร่ เป็นเพลย์เมกเกอร์อยู่ข้างหลังคู่หัวหอกสุดอันตราย เอดินสัน คาวานี่ กับ หลุยส์ ซัวเรซ ฮีโร่ผู้ทำคนเดียว 2 ประตูในแมตช์ที่แล้ว

รายชื่อนักเตะที่คาดว่าจะลงสนาม

  อิตาลี : จานลุยจิ บุฟฟ่อน - อันเดรีย บาร์ซาญี่, เลโอนาร์โด้ โบนุชชี่, จอร์โจ้ คิเอลลินี่ - มัตเตโอ ดาร์เมียน, มาร์โก แวร์รัตติ, อันเดรีย ปีร์โล่, เคลาดิโอ มาร์คิซิโอ, มัตเตีย เด ชิโญ่ - มาริโอ บาโลเตลลี่, ชิโร่ อิมโมบิเล่

  อุรุกวัย : เฟร์นานโด มุสเลร่า - มาร์ติน กาเซเรส, ดีเอโก้ ลูกาโน่, ดีเอโก้ โกดิน, อัลวาโร่ เปเรยร่า - อัลวาโร่ กอนซาเลซ, เอคิดิโอ อาเรวาโล่ รีออส, คริสเตียน โรดริเกซ - นิโกลัส โลเดยโร่ - หลุยส์ ซัวเรซ, เอดินสัน คาวานี่

 ผู้ตัดสิน : มาร์โก โรดริเกซ (เม็กซิโก)

- อิตาลีขอแค่ผลเสมอก็เพียงพอแก่การเข้ารอบด้วยผลต่างประตูได้เสียดีกว่า อุรุกวัย ที่ต้องชนะสถานเดียว
- อย่างไรก็ดี อิตาลีชนะแค่ 2 จาก 9 เกมก่อนที่พบอุรุกวัย (เสมอ 4 แพ้ 3)
- คู่นี้เพิ่งเจอกันมาในคอนเฟดเดอเรชั่นส์ คัพ 2013 โดยอิตาลีเป็นฝ่ายชนะจุดโทษในนัดชิงอันดับ 3
- อิตาลีปราชัยแค่ 3 จากเกมฟุตบอลโลก 19 นัดที่พบคู่แข่งอเมริกาใต้ (แพ้ชิลีในรอบแรก 1962, บราซิล นัดชิงชนะเลิศ 1970 และนัดชิงอันดับ 3 ปี 1978)
- อุรุกวัยเคยเจออิตาลี 2 หนในฟุตบอลโลก โดยยิงประตูไม่ได้เลย (เสมอ 1 แพ้ 1)
- เกมกับอิตาลีคือการลงสนามฟุตบอลโลกนัดที่ 50 ของอุรุกวัย
- อิตาลีถูกจับล้ำหน้าถึง 18 ครั้งจากเกมฟุตบอลโลก 2 นัด มากกว่าอุรุกวัย 2 เท่า (9)
- อุรุกวัยยิงได้ 3 ประตูจากโอกาสยิงรวมแค่ 5 ครั้งเท่านั้น
- หลุยส์ ซัวเรซ ดาวยิงจอมโหดกดไป 5 จากเกมฟุตบอลโลก 7 นัดหลัง
- เอดินสัน คาวานี่ กองหน้าอีกรายของอุรุกวัย มีส่วนร่วมถึง 3 จาก 5 ประตูหลังสุดในฟุตบอลโลก (ยิง 2 จ่าย 1)
- มาริโอ บาโลเตลลี่ (6) กับ อันโตนิโอ คันเดรว่า (4) ยิงตรงกรอบถึง 50 เปอร์เซ็นต์จากโอกาสทั้งหมดของอิตาลี (20, ไม่รวมติดบล็อก)
- ดานิเอเล่ เด รอสซี่ มิดฟิลด์อัซซูรี่ ผ่านบอลรวมทั้งสิ้น 212 ครั้งเข้าให้แล้วจาก 2 เกมฟุตบอลโลก