ฟุตบอลโลก 2014 รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่มซี

วันอังคารที่ 24 มิถุนายน 2557

ญี่ปุ่น 1-4 โคลอมเบีย

สนาม : อาเรน่า ปานตานาล, กุยาบา

  เริ่มเกมการแข่งขัน โคลอมเบีย เปิดเกมบุกเข้ากดดันทันที แต่แนวรับของญี่ปุ่นยังไม่พลาด

  นาทีที่ 10 ทีมซามูไรได้ลุ้นก่อนเลย มาโคโตะ ฮาเซเบะ วางยาวให้  โยชิโตะ โอคุโบะ ได้หลุดเข้าเขตโทษก่อนล็อกหลบผู้เล่นโคลอมเบีย แล้วยิงด้วยซ้ายแต่ยิงไม่ดีบอลปลิ้นออกไป

  นาทีที่ 14 มาโคโตะ ฮาเซเบะ ลองสับไกจากระยะ 25 หลา  แต่บอลไปตรงตัว ดาวิด ออสปิน่า รับเข้าซองได้สบาย

   นาทีที่ 16  ยาซึยูกิ คอนโนะ โดนใบเหลืองหลังไปเสียบ อาเดรียน รามอส ล้มลงในเขตโทษ เปโดร โปรเอนช่า ผู้ตัดสินจากโปรตุเกส ชี้เป็นจุดโทษทันที

   นาทีที่ 17 ฮวน กวาดราโด้ รับหน้าที่สังหารจุดโทษเข้าไปไม่เหลือ โคลอมเบีย ออกนำ 1-0

  นาทีที่ 26 ญี่ปุ่นน่าจะได้ประตูตีเสมอจากจังหวะที่ ชินจิ คางาวะ ลากบอลหลบ เอเดร์ บาลันต้า ก่อนตัดสินใจยิงด้วยขวาบนเส้นเขตโทษแต่ ดาวิด ออสปิน่า พุ่งปัดเอาไว้ได้

  นาทีที่ 32 ทัพซามูไรได้ลุ้นอีกครั้งจากลูกฟรีคิกระยะ 25 หลา เคซึเกะ ฮอนดะ ซัดด้วยซ้ายบอลพุ่งหนีกำแพงไปแล้วแต่หลุดเสาออกไปนิดเดียว

  นาทีที่ 42 โคลอมเบีย พลาดได้ประตูหนีห่าง จากจังหวะที่ อาเดรียน รามอส ตัดบอลได้กลางสนามก่อนลากไปไหลบอลเข้ากลางให้ แจ็คสัน มาร์ติเนซ ได้ยิงออกไปอย่างน่าผิดหวัง

   นาทีที่ 45 เคซึเกะ ฮอนดะ เปิดบอลเข้าไปที่เสาแรก ชินจิ โอคาซากิ ทิ้งตัวโขกเสียบเสาแรก ญี่ปุ่นตามตีเสมอเป็น 1-1 ได้สำเร็จ

  หมดครึ่งเวลาแรก โคลอมเบีย เสมอกับ ญี่ปุ่น 1-1

   กลับมาเล่นในครึ่งหลัง ทีมโคเคนเปลี่ยนเอา เจมส์ โรดริเกซ และ การ์ลอส การ์โบเนโร่ ลงสนามไปแทน ฮวน กวาดราโด้ และ ฮวน กินเตโร

   นาทีที่ 55 หลังพับสนามบุกอยู่นาน โคลอมเบียก็มาได้ประตูออกนำอีกครั้ง เจมส์ โรดริเกซ ไหลบอลให้ แจ็คสัน มาร์ติเนซ ได้ซัดด้วยซ้ายในเขตโทษบอลพุ่งเสียบมุมเข้าไป โคลอมเบีย นำ 2-1

   นาทีที่ 60 ญี่ปุ่นเปลี่ยนตัวคนแรกโดยถอดเอา โทชิฮิโระ อาโอยามะ ออกและส่ง โฮตารุ ยามางุจิ ลงเล่นแทน

   นาทีที่ 63 เฟรดี้ กวาริน โดนใบเหลืองหลังไปทำฟาวล์ใส่ ชินจิ คางาวะ

  นาทีที่ 65 ทีมซามูไรพลาดโอกาสตีเสมอ เมื่อ อัตซึโตะ อูจิดะ เปิดบอลเรียดจากริมเส้นฝั่งขวาเข้าไปในเขตโทษ โยชิโตะ โอคุโบะ วิ่งเข้ายิงด้วยขวาแต่บอลก็ข้ามคานออกไปนิดเดียว

   นาทีที่ 68 อัลแบร์โต้ ซัคเคโรนี่ กุนซือทีมชาติญี่ปุ่นตัดสินใจเปลี่ยนเอา โยอิจิโระ คาคิตานิ ลงสนามไปแทน ชินจิ โอคาซากิ

   นาทีที่ 82 จากจังหวะโต้กลับ เจมส์ โรดริเกซ จ่ายบอลให้ แจ็คสัน มาร์ติเนซ หลุดเข้าไปล็อกหลบ อัตซึโตะ อูจิดะ ก่อนปั่นด้วยซ้าย บอลพุ่งหนีมือ เออิจิ คาวาชิมะ เสียบเสาเข้าไป โคลอมเบีย หนีห่างเป็น 3-1

  หลังจากเขี่ยบอลนาทีเดียว ญี่ปุ่นเกือบได้ประตูไล่มาจากจังหวะที่ ชินจิ คางาวะ หลุดเข้าไปยิงที่เสาแรกแต่บอลผ่านหน้าประตูออกไป

   นาทีที่ 84 โคลอมเบีย เปลี่ยนเอา ฟาริด มอนดรากอน ผู้รักษาประตูวัย 43 ปี ลงไปเฝ้าเสาแทน ดาวิด ออสปิน่า

   นาทีที่ 85 ญี่ปุ่นเปลี่ยนผู้เล่นคนสุดท้าย โดยส่ง ฮิโรชิ คิโยตาเกะ ลงสนามไปแทน ชินจิ คางาวะ

   นาทีที่ 90 โคลอมเบีย มาได้ประตูเพิ่มจากจังหวะโต้กลับ เจมส์ โรดริเกซ ลากบอลเข้าเขตโทษ ก่อนหลอก มายะ โยชิดะ แล้วชิพบอลผ่านตัว  เออิจิ คาวาชิมะ เข้าไปอย่างเหนือชั้น โคลอมเบีย นำห่างเป็น 4-1

  จบเกม  โคลอมเบีย เป็นฝ่ายเอาชนะ ญี่ปุ่น 4-1 เก็บชัยสามนัดรวด ผ่านเข้ารอบเป็นที่หนึ่งของกลุ่มไปพบกับ อุรุกวัยในรอบ 16 ทีมสุดท้าย ส่วน ญี่ปุ่นต้องกระเด็นตกรอบหลังเก็บได้เพียงแต้มเดียว

  รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม
  ญี่ปุ่น (4-2-3-1) : เออิจิ คาวาชิมะ ; ยูโตะ นางาโตโมะ, มายะ โยชิดะ, ยาซึยูกิ คอนโนะ, อัตซึโตะ อูจิดะ ; โทชิฮิโระ อาโอยามะ, มาโคโตะ ฮาเซเบะ ; ชินจิ โอคาซากิ, ชินจิ คางาวะ, เคซึเกะ ฮอนดะ - โยชิโตะ โอคุโบะ 
 
  โคลอมเบีย (4-4-2) : ดาวิด ออสปิน่า ; ปาโบล อาร์เมโร่, ซานติอาโก้ อาเรียส, เอเดร์ บาลันต้า, การ์ลอส วัลเดส ; เฟรดี้ กวาริน, ฮวน กวาดราโด้, อเล็กซานเดร์ เมเฮีย, ฮวน กินเตโร ; อาเดรียน รามอส, แจ็คสัน มาร์ติเนซ
 
  ผู้ตัดสิน : เปโดร โปรเอนช่า (โปรตุเกส)