ถ่ายทอดสด: ททบ.5, ทรู เอเอสเอ็น 2 (678), TV One Indo, Astro SuperSports, (เวลา: 23.00 น.)

สนาม: อาเรน่า ฟอนเต้ โนว่า, (ซัลวาดอร์, บราซิล)

 คู่นี้เคยปะทะกันมา 5 นัด ปรากฏว่า อิหร่าน ไม่เคยแพ้เลย ชนะไป 4 นัด และ เสมอ 1 อย่างไรก็ตามชัยชนะ 3-1 ของอิหร่าน ที่เตหะราน เมื่อปี 1993 นั้น ไม่เป็นทางการ เนื่องจากเวลานั้น สหพันธ์ฟุตบอลบอสเนียฯ ยังไม่ได้เป็นสมาชิกของฟีฟ่า ทำให้เหลือการรับรองเพียงแค่ 5 นัด ซึ่งเป็นการเจอกันในเกมกระชับมิตรทั้งสิ้น ไล่ตั้งแต่ครั้งแรก เมื่อเดือนกรกฏาคม ปี 2001 เสมอกันไป 2-2

 จากนั้นเจอกันอีกครั้งในเดือนสิงหาคม ปี 2001 อิหร่าน ถล่มไป 4-0 เว้นวรรคไปสี่ปีมาเจอกันเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2005 อิหร่าน เชือดบอสเนียฯไป 2-1 ต่อด้วยการถล่มอีก 5-2 ในปีต่อมา

 สำหรับการเจอกันหนล่าสุดนั้น อิหร่าน บุกไปเฉือนชนะ บอสเนียฯ สุดมัน 3-2 เมื่อเดือนสิงหาคม ปี 2009 ที่สนามโอลิมปิสกี้ สตาดิโอน กรุงซาราเยโว โดยได้ประตูจาก มาซูด โชจาอี, อราช บอร์ฮานี่ และ อันดรานิค เตย์มูเรียน ส่วน บอสเนียฯแก้คืนได้จาก เอดิน เชโก้ คนเดียวสองลูก

 ซาเฟ็ต ซูซิช กุนซือของทีมชาติบอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา พาทีมปราชัยให้กับ อาร์เจนติน่า ทีมเต็งสองไปแค่ 1-2 ที่สนามมาราคาน่า เมื่อวันอาทิตย์ที่ 15 มิถุนายน ที่ผ่านมา ก่อนมาพลาดท่าแพ้ให้กับ ไนจีเรีย อย่างโชคร้าย 0-1 เมื่อวันเสาร์ที่ 21 มิถุนายน ที่ผ่านมา ทำให้แพ้รวดสองนัด กระเด็นตกรอบไปแล้ว

 ในแนวรับได้ เอเมียร์ สปาฮิช กัปตันทีมหายเจ็บหัวเข่าซ้ายกลับมาคุมเกมรับได้แล้วในนัดพ่าย อินทรีมรกต ส่วนรายของ เซยัด ซาลิโฮวิช กองกลางจากสโมสรฮอฟเฟ่นไฮม์ กลับมาฟิตแล้ว แต่คาดว่าน่าจะเป็นแค่ตัวสำรองเหมือนเดิม

 รูปแบบการเล่นนั้นคาดกันว่า ซูซิช จะปรับระบบจาก 4-5-1 มาเป็น 4-4-2 เพื่อพยายามเก็บชัยชนะในฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย เป็นครั้งแรกให้ได้ ทำให้ เวดัด อิบิเซวิช ดาวยิงจากสโมสรฟาวเอฟเบ สตุ๊ตการ์ท น่าจะได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงในแดนหน้าเคียงข้างกับ เอดิน เชโก้ หัวหอกตัวหลัก สำหรับแดนกลางนั้นได้ มิราเล็ม ปานิช คุมเกมร่วมกับ มูฮาเหม็ด เบซิซ เหมือนเดิม

 ทางด้าน อิหร่าน ตัวแทนจากเอเชียสู้กับ อาร์เจนติน่า ทีมเต็งสองได้อย่างน่าประทับใจมาก แต่มาโดนทีเด็ดของ ลีโอเนล เมสซี่ ยิงประตูชัยสุดสวยในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ ทำให้พวกเขามีแค่คะแนนเดียว จากการเสมอกับ ไนจีเรีย 0-0 ในนัดแรก เมื่อผ่านมาสองนัด รั้งอันดับสองของกลุ่ม เอฟ.

 แท็คติกของคาร์ลอส เคยรอซ กุนซือทีมชาติอิหร่านอาจต้องปรับเปลี่ยนไปจากที่เน้นรับแน่นหนาในเกมกับอา ร์เจนติน่า จะต้องปรับมารุกเข้าใส่บ้าง เพื่อคว้าชัยเหนือ บอสเนียฯให้ได้ ถ้าอยากจะมีลุ้นเข้ารอบ 16 ทีม

 ตัวผู้เล่นหลักๆที่ลงสนามยังเป็น ยาวัด เนคูนาม กัปตันทีมคุมเกมแดนกลางร่วมกับ อันดรานิค เตย์มูเรียน ปล่อยให้ มาซูด โชจาอี, เอห์ซาน ฮาจิ ซาฟี่ และ อัชคาน เดยากาห์ ช่วยกันทำเกมรุกสนับสนุน เรซ่า กูชานเนจ์ฮัด กองหน้าวัย 26 ปี จากสโมสรชาร์ลตัน ที่ซัดไป 10 ประตูในการลงเล่นให้อิหร่าน 16 นัด เป็นทีเด็ดในการสังหารตาข่าย

รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะได้ลงสนาม

 บอสเนียฯ: อัสเมียร์ เบโกวิช - เมนซูร์ มุจ์ดซ่า, โทนี่ ซูนยิช, เอมีร์ สปาฮิช (กัปตันทีม), เซอัด โคลาซินัค - อิเซ็ต ฮายโรวิช, มิราเล็ม ปานิช, มูฮัมเหม็ด เบซิช, เซน้าด ลูลิช - เอดิน เชโก้, เวดัด อิบิเซวิช

 อิหร่าน: อาลีเรซ่า ฮากิกี - เปจ์มาน มอนตาเซรี่, จาลาล ฮอสเซนี่, อามีร์ ซาเดกี, เมห์รดัด ปูลาดี้ - จาวัด เนคูนาม (กัปตันทีม), อันดรานิค เตย์มูเรียน - มาซูด โชจาอี, เอห์ซาน ฮาจิ ซาฟี่, อัชคาน เดยากาห์ - เรซ่า กูชานเนจฮัด

 ผู้ตัดสิน: การ์ลอส เบลาสโก้ การ์บาโญ่ (สเปน)

- ทั้งสองทีมเคยเจอกันมาแล้ว 6 ครั้ง โดยบอสเนียฯ ยังไม่เคยชนะอิหร่าน (เสมอ 1 แพ้ 4)
- อิหร่านยิงไปทั้งสิ้น 16 ประตูจาก 5 เกมก่อนที่เจอบอสเนียฯ เฉลี่ยนัดละ 3.2 ลูกเลยทีเดียว
- อย่างไรก็ดี นี่คือครั้งแรกที่ทั้งคู่เจอกันในฟุตบอลโลก
- หนล่าสุดที่เจอกัน อิหร่านเป็นฝ่ายชนะไป 3-2 ในเกมกระชับมิตรเมื่อสิงหาคม 2009
- อิหร่านไม่เคยชนะทีมยุโรปในฟุตบอลโลก (เสมอ 1 แพ้ 4)
- นอกจากนั้น อิหร่านยังเก็บชัยได้เพียง 1 จาก 11 เกมฟุตบอลโลก (เสมอ 3 แพ้ 7) โดยไม่ชนะ 6 เกมติด (เสมอ 2 แพ้ 4)
- 11 จาก 12 ประตูหลังสุดที่อิหร่านเสียไปในฟุตบอลโลก เกิดขึ้นในครึ่งเวลาหลัง
- บอสเนียฯ ไม่เสียประตูแค่หนเดียวเท่านั้นจาก 6 เกมหลังสุด
- เอดิน เชโก้ หัวหอกบอสเนียฯ มีโอกาสยิงทั้งสิ้น 9 ครั้งในฟุตบอลโลกหนนี้ โดย 8 ในจำนวนนั้นเกิดขึ้นในเกมแพ้ไนจีเรีย 0-1
- บอสเนียฯ ตกรอบแล้วหลังแพ้ทั้ง 2 นัดแรก ขณะที่ อิหร่านต้องชนะมากกว่า 1 ลูก พร้อมลุ้นให้ไนจีเรียแพ้ หรือชนะลูกเดียวก็ได้ แต่ไนจีเรียต้องแพ้ 2 ลูกขึ้นไปเช่นกัน