ดาวดังพาเหรดกลับบ้านหลังจบรอบแรก
Posted 27/06/2014 by siamsport
คริสเตียโน่ โรนัลโด้ (โปรตุเกส)
ถึง แม้จะได้รางวัลบัลลงดอร์ปี 2013 เป็นดาวซัลโวลา ลีกา ฤดูกาล 2013-14 และคว้าแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ร่วมกับ เรอัล มาดริด ได้สำเร็จ แต่สำหรับฟุตบอลโลกคราวนี้ โรนัลโด้ มาแข่งขันทั้งๆไม่ฟิต เพราะเจ็บเข่าซ้ายมาเป็นเดือน แต่กลับได้ลงสนามครบ 270 นาทีในรอบแรก ทำให้ฟอร์มของเขาไม่ดีเหมือนที่หลายคนคาดหวัง แม้ยิงได้ 1 ประตู แต่เป็นช่วง 10 นาทีสุดท้ายของแมตช์สุดท้าย ซึ่งไม่มีประโยชน์เท่าไหร่ เพราะจบ 3 นัดผลต่างประตู โปรตุเกส แย่กว่า สหรัฐอเมริกา 3 ลูก ตกรอบแรกอยู่ดี รวมแล้ว โรนัลโด้ มาเตะฟุตบอลโลก 3 สมัย (13 เกม) ทำได้คราวละ 1 ประตู โดยยิงได้เมื่อเจอทีมอย่าง อิหร่าน, เกาหลีเหนือ และ กานา
เวย์น รูนี่ย์ (อังกฤษ)
หนึ่ง ในนักเตะค่าเหนื่อยสูงสุดของยุโรป ประสบความสำเร็จอย่างเดียวสำหรับการมาบราซิลคราวนี้ คือทำประตูแรกในการเตะฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย ตอนพ่าย อุรุกวัย 1-2 แต่รวมแล้วเขาก็ยิงแค่ 1 ลูกจากการลงสนาม 10 เกม รวม 3 สมัย และไม่สามารถช่วยให้ อังกฤษ ซึ่งถูกคาดหวังระดับหนึ่งจากแฟนบอล รอดพ้นจากการเป็นอันดับบ๊วยของกลุ่ม ดี ตกรอบแรกครั้งที่ 3 และมีแค่ 1 แต้ม น้อยสุดในประวัติศาสตร์ แถมไม่ชนะใครเลยหนที่ 2 นับจากปี 1958 โดยเกมแรก รูนี่ย์ ออกสตาร์ทด้วยตำแหน่งปีกซ้าย ก่อนขยับมายืนอยู่หลังกองหน้าตัวเป้าในเกมที่ 2 และหลุดไปเป็นสำรองในแมตช์สุดท้าย ที่ทีมเปิดโอกาสให้คนอื่นได้ลงเล่นบ้าง
อิเกร์ กาซียาส (สเปน)
หลัง เกือบทำให้ เรอัล มาดริด พ่ายนัดชิงชนะเลิศ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เพราะออกมาตัดบอลพลาด กัปตันทีมชาติสเปนชุดแชมป์โลก 2010 รายนี้ ก็มาโดนด่ายับตั้งแต่แมตช์แรกที่ลงสนามในศึกฟุตบอลโลก 2014 เพราะออกลูกเฟอะฟะหลายครั้ง จนพ่าย ฮอลแลนด์ รองแชมป์เก่า แบบยับเยิน 1-5 หลังจากนั้นก็แพ้ ชิลี 0-2 จนทำให้ "กระทิงดุ" ตกรอบแรกหนแรกในรอบ 16 ปี แถมเสียประตูมากสุดอันดับ 2 ตลอดกาล รองจากปี 1950 ซึ่งคราวนั้นพวกเขาลงเตะถึง 6 เกม และได้อันดับ 4 โดยแมตช์สุดท้าย เปเป้ เรน่า ลงเฝ้าเสาแทน และปลอกแขนกัปตันกระเด็นไปอยู่กับ เซร์คิโอ รามอส ซึ่งยังไม่แน่ว่า กาซียาส จะได้นำทัพ สเปน อีกครั้งหรือไม่
มาริโอ บาโลเตลลี่ (อิตาลี)
หัว หอกจอมห้าวอาจได้ฉายา "ดีแต่ปาก" เพิ่มเข้าไปอีก เพราะหลังเป็นฮีโร่ทำประตูชัยเกมชนะ อังกฤษ 2-1 ในนัดเปิดสนาม ก็โชว์เกรียนเขียนผ่านทวีตเตอร์ ขอให้ สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 แห่งสหราชอาณาจักร ทรงจุมพิศที่แก้มเป็นรางวัล ถ้าสามารถนำทัพชนะ คอสตาริกา จนช่วยให้ อังกฤษ เข้ารอบ แต่สุดท้าย บาโลเตลลี่ ไม่ยิงใครอีกเลย มีโอกาสซัดรวมกันแค่ 4 หน แต่เล่นเกเรจนได้ 2 ใบเหลือง ผลคือแพ้ คอสตาริกา กับ อุรุกวัย ด้วยสกอร์ 0-1 และ อิตาลี เป็นฝ่ายตกรอบตามทีม "สิงโตคำราม" โดย เชซาเร่ ปรันเดลลี่ ยอมรับหลังลาออกจากตำแหน่งกุนซือ "อัซซูรี่" ว่าการเลือก บาโลเตลลี่ เป็นส่วนหนึ่งในความผิดพลาดของเขา
ลูก้า โมดริช (โครเอเชีย)
เขา อาจประสบความสำเร็จกับ เรอัล มาดริด แต่ความสามารถของจอมทัพรายนี้ กลับไม่สามารถช่วยให้ โครเอเชีย ทำเกมอย่างไหลลื่นในศึกฟุตบอลโลก 2014 แถมเขาเองก็แทบไม่มีบทบาทในแต่ละเกมเลยด้วยซ้ำ ขณะที่ อิวาน ราคิติช หรือ อิวาน เพริซิช ซึ่งเป็นมิดฟิลด์อีก 2 คน ต่างทำผลงานได้น่าพอใจมากกว่า แมตช์แรกที่แพ้ บราซิล 1-3 โมดริช ยังมีโอกาสซัด 1 ครั้ง จ่ายบอลสำเร็จ 54 หน แต่พอเกมถล่ม แคเมอรูน 4-0 เขามีโอกาสยิง 1 หนเท่าเดิม แต่จ่ายบอลสำเร็จ 39 ครั้ง ในเกมที่ต้องการชนะ เม็กซิโก โมดริช กลับหาจังหวะยิงไม่ได้ แม้จ่ายบอลเข้าเป้า 42 ครั้ง ก็ไม่มีประโยชน์ เพราะ โครเอเชีย พ่าย 1-3 ตกรอบแรกตามระเบียบ
ดิดีเย่ร์ ดร็อกบา (ไอวอรี่โคสต์)
เขา คือกัปตันทีม ดาวซัลโวสูงสุดตลอดกาลของ ไอวอรี่โคสต์ ผู้มีประสบการณ์มากมายทั้งในนามทีมชาติ และสโมสร แต่ฟุตบอลโลก 2014 เขากลับเป็นเหมือนส่วนเกิน แม้การลงมาในครึ่งหลังของแมตช์เปิดสนาม จะมีส่วนทำให้ "ช้างดำ" กลับมาชนะ ญี่ปุ่น 2-1แต่เกมต่อมาที่แพ้ โคลอมเบีย 1-2 ก็เห็นชัดว่า ดร็อกบา ยังไม่ฟิตเต็มร้อย หลังผ่าตัดโคนขาหนีบเมื่อปลายเดือนเมษายนที่ผ่านมา อาจเป็นเพราะสังขารในวัย 36 ปี สุดท้ายพอเป็นตัวจริงในเกมที่แค่เสมอ เพื่อเข้ารอบ ดร็อกบา ทำอะไรแนวรับ กรีซ ไม่ได้ จนโดนเปลี่ยนตัวออก และ ไอวอรี่ โคสต์ ตกรอบเพราะแพ้นัดนั้น 1-2 โดย ดร็อกบา มีโอกาสยิงทั้ง 3 เกมรวม 3 ครั้ง ไม่มีประตู
ชินจิ คางาวะ (ญี่ปุ่น)
ถูก มองว่าเป็นหนึ่งในจอมทัพคนสำคัญที่จะขับเคลื่อน ญี่ปุ่น ซึ่งเต็มไปด้วยนักเตะจากสโมสรใหญ่ในยุโรปหลายแห่ง ให้เข้ารอบลึกในศึกฟุตบอลโลกคราวนี้ แต่ดูเหมือน คางาวะ ไม่สามารถสลัดฝันร้ายเมื่อฤดูกาลก่อน ที่โดน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ดร็อปไปนั่งข้างสนามบ่อยครั้ง ออกไปได้ เพราะเล่นขาดๆเกินๆ เหมือนไร้ความมั่นใจ จนไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน โดย 2 เกมแรกหาจังหวะยิงไม่ได้เลยสักครั้ง หน้าที่หลักจึงตกอยู่กับ เคซึเกะ ฮอนดะ ซึ่งมีชะตากรรมไม่ต่างกันเท่าไหร่ในทีม เอซี มิลาน ผลคือเกมรุก ญี่ปุ่น ไม่มีประสิทธิภาพ และไร้สีสัน ทำได้เพียง 2 ประตู จาก 3 นัด ตกรอบไปแบบไม่มีลุ้น เพราะเก็บได้เพียงแค่คะแนนเดียวเท่านั้น
อิกอร์ อคินเฟเยฟ (รัสเซีย)
นี่ คือกัปตันทีม ซีเอสเคเอ มอสโก ที่ได้แชมป์พรีเมียร์ลีก รัสเซีย ฤดูกาลล่าสุด เป็นนายทวารยอดเยี่ยมแห่งปีแดน "หมีขาว" 6 สมัย และรับใช้ชาติมาแล้วกว่า 70 เกม แต่ฟุตบอลโลก 2014 คือหายนะสำหรับ อคินเฟเยฟ เพราะถูกจดจำว่ารับลูกยิงไกลของ อี คุน โฮ ปลิ้นเข้าประตู ทำให้ รัสเซีย ออกสตาร์ทด้วยการเสมอ เกาหลีใต้ 1-1 ซึ่งการเก็บได้แค่คะแนนเดียวจากทีม "โสมขาว" มีผลให้ท้ายที่สุดแล้วพวกเขาต้องตกรอบแรก เพราะหลังจากนั้นก็แพ้ เบลเยียม 0-1 ตามด้วยเสมอ แอลจีเรีย 1-1 รวมแล้ว อคินเฟเยฟ เสียประตูทุกเกม จนมีกระแสว่าควรให้โอกาส ยูรี่ โลดีกิ้น นายทวาร เซนิต เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ได้เล่นแทนเขามากขึ้นในอนาคต
หลุยส์ ซัวเรซ (อุรุกวัย)
กลาย เป็นนักเตะอื้อฉาวของฟุตบอลโลก 2 สมัยซ้อน และความดีที่เคยยิง 2 ประตูเกมเชือด อังกฤษ 2-1 ช่วยให้ อุรุกวัย กลับมาฟื้นคืนชีพ หลังพ่าย คอสตาริกา แบบพลิกล็อกในนัดแรก 1-3 แทบถูกลืมไปในทันที เมื่อสติแตกกัดไหล่ จอร์โจ้ คิเอลลินี่ กองหลัง อิตาลี ท้ายเกมที่ชนะ 1-0 ผลคือถึงแม้ "จอมโหด" ผ่านเข้ารอบ แต่จะไม่มี ซัวเรซ ในแนวรุกอีกต่อไป เพราะถูกสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ สั่งห้ามลงสนามแมตช์ระดับชาติ 9 นัด และห้ามร่วมกิจกรรมที่เกี่ยวกับลูกหนังนานถึง 4 เดือน ภาพพจน์ของทีมชาติเสียหาย โอกาสชนะ โคลอมเบีย หริบหรี่ลง และอนาคตผู้คนก็จะจำ ซัวเรซ ว่าเป็นจอมกัดผู้สร้างปัญหาในฟุตบอลโลก 2014 ต่อไปอีกหลายปี
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
คลินส์มันน์ปลื้มพาลุงแซมลิ่วรอบสองสยบเสียงวิจารณ์
บอสใหญ่ของสหรัฐ ยอมรับ ประทับใจผลงานของลูกทีมเป็นอย่างมากหลังผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายเรียบร้อย พร้อมยังตอกหน้านักวิจารณ์ที่บอกว่าทีมของเขาไม่มีทางเข้ารอบ
TOP 5 ข่าวในรอบ 3 วัน
อัลบั้มภาพเด็ดๆ
มาย ฮาเร็ม ส่งภาพเขย่าโซเชียล นุ...
เจนนี่ ธมนภัค พริตตี้สุดฮอต นุ่ง...
ฮาน่า ฮาอึน ชอง ดาว TikTok สาวสว...
นาฟ ฉัฐนันท์ ปล่อยแซ่บท้าลมหนาว ...
เต็มที่แล้ว! ไทย พ่าย อุซเบกิสถา...
ตัดเกรด นักเตะไทย เกมเสมอ โอมาน ...
คลิปไฮไลท์