(รอบ 16 ทีมสุดท้าย)
วันอาทิตย์ที่ 29 มิถุนายน 2557
ฮอลแลนด์ 2-1 เม็กซิโก
ทัพ "อัศวินสีส้ม" ฮอลแลนด์ วาง อาร์เยน ร็อบเบน และ โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ ลงประสานงานในแดนหน้า ขณะที่ ฝั่ง "จังโก้" เม็กซิโก ใช้ โจวานี่ โดส ซานโต๊ส และ โอริเบ เปรัลต้า เดินเกมในแนวรุก
เริ่มเกมมา 5 นาที เป็นฝ่ายเม็กซิโก ได้ยิงทักทายก่อน จากการเลี้ยงมากดยิงนอกกรอบของ มิเกล ลายุน แต่บอลถากเสาออกหลังไป
แต่ แค่นาทีที่8 ฮอลแลนด์ พบกับข่าวที่ไม่ดี เมื่อ ไนเจล เด ยองก์ มีอาการบาดเจ็บเล่นต่อไม่ไหว ต้องเปลี่ยนเอา บรูโน่ มาร์ตินส์ อินดี้ ลงมาแทน พร้อมดัน ดาลี่ย์ บลินด์ ขึ้นมายืนกองกลางตัวรับ
นาทีที่ 16 อาร์เยน ร็อบเบน ลากบอลจากครึ่งสนามหลบผู้เล่นเม็กซิโก หลุดเข้าไปในเขตโทษก่อนเปิดบอลไปโดนแขนนักเตะจังโก้ แต่ผู้ตัดสินไม่ได้ว่าอะไร
นาทีต่อมา เม็กซิโก เกือบได้ประตูขึ้นนำ โอริเบ เปรัลต้า ได้บอลหลุดเข้าไปในเขตโทษ ก่อนแตะคืนหลังให้ เอคตอร์ เอร์เรร่า ได้ยิงจากระยะ 10 หลา แต่บอลหลุดเสาแรกออกไปนิดเดียว
นาทีที่ 23 ทีมจังโก้ ได้ลุ้นจากลูกยิงของ การ์ลอส ซัลซิโด้ ระยะเกือบ 40 หลา บอลพุ่งเข้าหาประตูเต็มแรง แต่ ยาสเปอร์ ซิลเลสเซ่น ปัดเอาไว้ได้
นาทีที่ 27 โอกาสแรกของ อัศวินสีส้ม สเตฟาน เดอ ฟราย วางบอลยาวเข้าเขตโทษให้ โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ เกี่ยวบอลด้วยซ้ายก่อนซัดด้วยขวาทันที แต่บอลเข้าข้างตาข่าย
ผ่านไป 30 นาที เปโดร โปรเอนก้า ผู้ตัดสินจากโปรตุเกส ตัดสินใจเป่าให้นักเตะได้พักดื่มน้ำ หลังสภาพอากาศร้อนเหลือเกิน
นาทีที่ 42 เม็กซิโก ยังทำเกมบุกได้น่ากลัว อันเดรส กวาร์ดาโด้ ผ่านบอลให้ โจวานี่ โดส ซานโต๊ส หลุดเข้าไปซัดด้วยขวาที่เสาแรก แต่ ยาสเปอร์ ซิลเลสเซ่น ใช้ขาเซฟเอาไว้ได้
นาทีสุดท้ายของเกม แนวรับจังโก้ พลาดท่าจายบอลให้ โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ ได้บอลเลี้ยงจี้เข้าเขตโทษก่อนไหลบอลให้ อาร์เยน ร็อบเบน ในเขตโทษแต่ ราฟาเอล มาร์เกซ และ เอคตอร์ โมเรโน่ เข้ามารุมแย่งบอลได้ทัน
หมดครึ่งเวลาแรก ทั้งสองทีมยังทำอะไรกันไม่ได้ เสมอกัน 0-0
กลับ มาเล่นต่อในครึ่งหลัง เม็กซิโก เปลี่ยนเอา ดีเอโก้ เรเยส กองหลังจากปอร์โต้ ลงสนามมาแทน เอคตอร์ โมเรโน่ ที่มีอาการบาดเจ็บในช่วงท้ายครึ่งแรกจนเล่นต่อไม่ไหว
นาทีที่ 48 โจ วานี่ โดส ซานโต๊ส พักบอลด้วยอกก่อนซัดด้วยซ้ายหน้าเขตโทษระยะ 25 หลา บอลพุ่งผ่านมือ ยาสเปอร์ ซิลเลสเซ่น ตุงตาข่าย ให้เม็กซิโก ออกนำ 1-0
นาทีที่ 57 หลุยส์ ฟาน กัล นายใหญ่อัศวินสีส้มแก้เกม ส่ง เมมฟิส เดปาย ลงสนามไปแทน พอล เฟอร์เฮก
นาทีที่ 58 ฮอลแลนด์พลาดได้ประตูตีเสมออย่างเหลือเชื่อ อาร์เยน ร็อบเบน เปิดบอลเข้าในเขตโทษ สเตฟาน เดอ ฟราย วิ่งหนีตัวประกบเข้ายิงจากระยะ 6 หลา แต่ กิเยร์โม โอชัว โชว์ซูเปอร์เซฟพุ่งปัดไปชนเสาไว้ได้อย่างเหลือเชื่อ
นาทีที่ 61 ฟลายอิ้งดัตช์แมน ได้ลุ้นอีกครั้งจากจังหวะที่ อาร์เยน ร็อบเบน ลากบอลจี้เข้าเขตโทษก่อนไหลให้ เวสลี่ย์ สไนเดอร์ ได้ยิงด้วยซ้ายแต่บอลไปแฉลบกองหลังเม็กซิโกข้ามคานออกไปนิดเดียว
นาทีที่ 64 ทีมจังโก้เปลี่ยนเอา ฮาเวียร์ อากีโน่ ลงสนามไปแทน โจวานี่ โดส ซานโต๊ส คนยิงประตูให้ทีมขึ้นนำ
นาทีที่ 69 ปอล อากีลาร์ รับใบเหลืองคนแรกของเกมหลังไปทำฟาวล์ เมมฟิส เดปาย
นาทีที่ 74 อาร์เยน ร็อบเบน โชว์สเต็ปลากเลื้อยหลบ ราฟาเอล มาร์เกซ เข้าเขตโทษก่อนกดด้วยซ้ายที่เสาแรก แต่ กิเยร์โม โอชัว ออกมาบล็อกได้ทัน
นาทีที่ 75 เม็กซิโก เปลี่ยนผู้เล่นคนสุดท้ายโดยส่งเอา ฮาเวียร์ ชิชาริโต้ ลงสนามไปแทน โอริเบ เปรัลต้า
นาทีที่ 76 ด้านอัศวินสีส้มก็เปลี่ยนเอา คลาส ยาน ฮุนเตลาร์ ลงไปเล่นแทน โรบิน ฟาน เพอร์ซี่
นาทีที่ 88 แฟน บอลอัศวินสีส้มได้เฮลั่น จากลูกเตะมุม อาร์เยน ร็อบเบน เปิดบอลเข้าไปหน้าประตู คลาส ยาน ฮุนเตลาร์ โหม่งตั้งย้อนกลับออกมาหน้าเขตโทษให้ เวสลี่ย์ สไนเดอร์ ได้กดด้วยขวาเต็มๆบนเส้นเขตโทษ บอลพุ่งเป็นจรวดเสียบเสาเข้าไปให้ ฮอลแลนด์ ตามตีเสมอเป็น 1-1
ช่วง ทดเวลานาทีที่ 92 อัศวินสีส้ม มาได้ลูกจุดโทษจากจังหวะที่ อาร์เยน ร็อบเบน ลากบอลหลุดเข้าเขตโทษก่อนโดน ราฟาเอล มาร์เกซ เตะล้ม ผู้ตัดสินไม่รีรอให้ใบเหลืองกับเจ้าตัวพร้อมเป่าเป็นจุดโทษทันที
นาทีต่อมา อันเดรส กวาร์ดาโด้ รับใบเหลืองไปอีกคนหลังไปต่อว่าผู้ตัดสิน
ช่วงทดเวลานาทีที่ 94 และจากลูกจุดโทษ คลาส ยาน ฮุนเตลาร์ ซัดเรียดเสียบเสาให้ ฮอลแลนด์ พลิกขึ้นนำ 2-1
หมดเวลาการแข่งขัน ฮอลแลนด์ เป็นฝ่ายพลิกเอาชนะ เม็กซิโก 2-1 ผ่านเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้าย
บอ.บู๋ แฉบอลโลก เห็นฟานกัลแก้เกมแบบนี้... อยากให้เปิดฤดูกาลเร็วๆจังเลย
คลาส ยาน ฮุนเตลาร์ ยิงจุดโทษเป็นประตูชัยให้ทีม
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม (คะแนนความสามารถ)
ฮอลแลนด์ (5-2-1-2) : เยสเปอร์ ซิลเลสเซ่น (5) - พอล แฟร์ฮาก (5.5), สเตฟาน เดอ ฟราย (7), รอน ฟลาร์ (7), ดาร์ลีย์ บลินด์ (6), เดิร์ค เค้าท์ (5) - จอร์จินิโอ วายนัลดุม (5), ไนเจล เดอ ยองก์ (5)- เวสลี่ย์ สไนเดอร์ (7.5) - อาร์เยน ร็อบเบน (7), โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ (5.5)
สำรองที่ลงสนาม : บรูโน่ มาร์ตินส์ อินดี้ (6) (น.9 ไนเจล เดอ ยองก์), เมมฟิส เดปาย (6.5) (น.57 พอล แฟร์ฮาก), คลาส ยาน ฮุนเตลาร์ (7) (น.76 โรบิน ฟาน เพอร์ซี่)
ใบเหลือง : -
เม็กซิโก (5-3-2) : กีเยร์โม่ โอชัว (7.5) - ปอล อากีล่าร์ (5.5), ฟรานซิสโก้ โรดริเกซ (6.5), ราฟาเอล มาร์เกซ (6), เอคตอร์ โมเรโน่ (6.5), มิเกล ลายุน (6.5) - เอคตอร์ เอร์เรร่า (7), การ์ลอส ซัลซิโด้ (6.5), อันเดรส กวาร์ดราโด้ (6) - โจวานี่ โดส ซานโตส (6), โอรีเบ เปรัลต้า (6)
สำรองที่ลงสนาม : ดีเอโก้ เรเยส (6) (น.46 เอคตอร์ โมเรโน่), ฮาเวียร์ อากีโน่ (6) (น.61 โจวานี่ โดส ซานโตส), ฮาเวียร์ เอร์นานเดซ "ชิชาริโต้" (5) (น.75 โอรีเบ เปรัลต้า)
ใบเหลือง : ปอล อากีล่าร์ น.69, ราฟาเอล มาร์เกซ น.90+2, อันเดรส กวาร์ดราโด้ น.90+3
ผู้ตัดสิน : เปโดร โปรเอนก้า (โปรตุเกส)
ผู้ชม: 58, 817 คน
แมน ออฟ เดอะ แมตช์ (FIFA.com) : กีเยร์โม่ โอชัว (เม็กซิโก)
ผู้รักษาประตูวัย 28 ปี เกมนี้ถูกเลือกให็เป็นผู้เล่นยอดเยี่ยมเป็นครั้งที่สองแล้ว หลังโชว์ฟอร์มเซฟสมกับที่ได้รับคำชื่นชม โดยเกมนี้เซฟช็อตสำคัญถึง 2 หน จังหวะแรกที่ สเตฟาน เดอ ฟราย ชาร์จลูกเตะมุมจ่อๆแต่นายทวารจังโก้ยืนตำแหน่งดีปัดบอลไปชนเสารอดหวุดหวิด อีกครั้งก็คือจังหวะที่ อาร์เยน ร็อบเบน พาบอลหลุดเข้าเขตโทษด้านขวาแล้วยิง แต่ โอชัว ออกมาปิดมุมดีบล็อคออกหลังไปได้เยี่ยม เสียดายที่เกมนี้ เม็กซิโก ต้องมาเจอทีเด็ดของแนวรุกดัตช์หลังเสียสองประตูในช่วง 5 นาทีท้ายเกมทำให้พวกเขาต้องอกหักจอดป้ายแค่รอบ 16 ทีมสุดท้ายอีกครั้ง
- ฮอลแลนด์ เก็บชัยชนะในการแข่ง ฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย ได้ถึง 10 จาก 11 เกมหลังสุด ความพ่ายแพ้ครั้งเดียวของพวกเขาคือนัดชิงชนะเลิศเมื่อ 4 ปีก่อนที่พ่าย สเปน ในช่วงต่อเวลาพิเศษ
- ใน 4 เกมหลังสุดของการแข่ง ฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย ที่ต้องตกเป็นฝ่ายตามหลัง ฮอลแลนด์ พลิกกลับมาชนะได้ทุกครั้ง (นับเฉพาะช่วงเวลาปกติเท่านั้น)
- ฮอลแลนด์ เป็นหนึ่งใน 2 ทีมที่สามารถพลิกกลับมาชนะได้แม้ต้องตกเป็นฝ่ายตามหลังถึง 3 นัดในการแข่ง ฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย ครั้งเดียว (ทีมแรกคือ เยอรมัน ตะวันตก ที่ทำได้ในปี 1970)
- ฮอลแลนด์ ได้ลูกจุดโทษเป็นครั้งแรก หลังเล่นมา 26 นัด ตอนนี้มีเพียง สวิตเซอร์แลนด์ ที่รอจุดโทษนานกว่าพวกเขา (32 เกม)
- นี่เป็นครั้งที่ 9 ที่ ฮอลแลนด์ ได้ลูกจุดโทษในการแข่ง ฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย ซึ่งพวกเขายิงเข้าทุกลูก
- 11 ประตูหลังสุดของ ฮอลแลนด์ ในการแข่ง ฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย มีถึง 10 ลูกที่เกิดขึ้นในครึ่งหลัง
- 4 จาก 5 ประตูหลังสุดของ ฮอลแลนด์ ในการแข่ง ฟุตบอลโลก 2014 เป็นผลงานของตัวสำรอง
- ฮอลแลนด์ ทำประตูในการแข่ง ฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย ได้เป็นเกมที่ 4 ติดต่อกัน และทุกนัดเป็นการยิงมากกว่า 1 ลูก
- มีนักเตะถึง 7 คน ที่ทำประตูให้ ฮอลแลนด์ ในการแข่ง ฟุตบอลโลก 2014 รอบสุดท้ายได้ ซึ่งถือเป็นจำนวนที่มากกว่าทุกทีมในทัวร์นาเมนต์นี้
- 4 จาก 5 ประตูหลังสุดที่ ฮอลแลนด์ เสียไปในรอบน็อกเอาต์ของศึกฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย เกิดจากการยิงนอกกรอบ
- เวสลี่ย์ สไนเดอร์ ทำประตูให้ ฮอลแลนด์ 5 ลูก ใน 5 นัดหลังสุดที่เขาลงเล่นในรอบน็อกเอาต์ของศึก ฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย
- สไนเดอร์ เป็นนักเตะที่ลงเล่นให้ ฮอลแลนด์ ในเกม ฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย มากที่สุด ด้วยจำนวน 15 นัด
- เดิร์ก เค้าท์ เป็นนักเตะคนที่ 7 ที่ลงเล่นให้ ฮอลแลนด์ ถึงหลัก 100 นัด
- รอน ฟลาร์ ผ่านบอลสำเร็จ 37 หนในเกมนี้ ซึ่งนับตั้งแต่ปี 1966 เป็นต้นมา ไม่มีนักเตะดัตช์คนไหนอีกแล้วที่ผ่านบอลสำเร็จในเกม ฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย ได้มากเท่าเขา
- เม็กซิโก ต้องตกรอบ 16 ทีมสุดท้ายของการแข่ง ฟุตบอลโลก เป็นสมัยที่ 6 ติดต่อกัน
- นอกจากนี้ เม็กซิโก ยังเป็นทีมที่จอดป้ายเพียงแค่รอบ 16 ทีมสุดท้ายมากที่สุดด้วย
- เม็กซิโก แพ้ให้ ฮอลแลนด์ เป็นนัดที่ 4 จากการพบกัน 5 เกมหลังสุด (อีกนัดหนึ่งเป็นการเสมอ) และพวกเขาโดน "อัศวินสีส้ม" เจาะตาข่าย 2 ลูกขึ้นไปทั้ง 5 นัดที่ผ่านมา
- ใน 12 นัดหลังสุดที่เจอกับทีมจากทวีปยุโรปในเกม ฟุตบอลโลก เม็กซิโก ทำประตูได้ทุกนัด
- 13 ประตูหลังสุดของ เม็กซิโก ในการแข่ง ฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย มีถึง 11 ลูกที่เกิดขึ้นในครึ่งหลัง
- เม็กซิโก ไม่ชนะเกมรอบน็อกเอาต์ของศึก ฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย แม้แต่นัดเดียว จากการลงเล่น 7 เกมหลังสุด (เสมอ 2 แพ้ 5)
- ฮอลแลนด์ ได้ยิงแค่ครั้งเดียวในครึ่งแรก ขณะที่ เม็กซิโก ได้ส่อง 6 หน