ทัพ "อินทรีเหล็ก" เยอรมัน หืดขึ้นคอ ต้องดวลเดือด "จิ้งจอกทะเลทราย" แอลจีเรีย จนถึงช่วงต่อเวลาพิเศษ ก่อนจะเชือดชนะไปได้อย่างหวุดหวิด 2-1 ทะลุรอบ 8 ทีมสุดท้ายไปพบกับ "ตราไก่" ฝรั่งเศส ในศึกฟุตบอลโลก 2014 รอบ 16 ทีมสุดท้าย วันจันทร์ที่ 30 มิถุนายน 2557
เยอรมันหืดต่อเวลาโค่นแอลจีเรีย2-1ชนตราไก่
Posted 01/07/2014 by siamsport
ฟุตบอลโลก 2014
(รอบ16ทีมสุดท้าย)
วันจันทร์ 30 มิถุนายน 2557
เยอรมนี 0-0 แอลจีเรีย
(เยอรมนีชนะช่วงต่อเวลาพิเศษ 2-1 )
"อินทรีเหล็ก" เยอรมนี จัดทัพใหญ่ทั้ง บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์, โทนี่ โครส, เมซุต โอซิล, มาริโอ เกิทเซ่ และ โธมัส มุลเลอร์ ลงมาเป็นตัวจริงในเป็นแนวรุกพร้อมกัน หวังปิดบัญชีใน 90 นาที ขณะที่ "จิ้งจอกทะเลทราย" แอลจีเรีย ใช้ โซฟียาน เฟกูลี่ กับ อิสลาม สลิมานี่ เป็นทีเด็ดล่าตาข่าย โดยดร็อปยาซีน บราฮิมี่, อับเดลมูเมเน่ ฌาบู และ ริยาด มาห์เรซ เป็นเพียงตัวสำรอง
เขี่ยลูกเริ่มเล่นได้ 7 นาที เป็น เยอรมัน ได้ลุ้นก่อน จากจังหวะ โทนี่ โครส เลื้อยหลบ แนวรับ แอลจีเรีย ริมเส้นด้านขวา ก่อนโยนเข้าเขตโทษ กะให้ โธมัส มุลเลอร์ วิ่งมาเข้าฮอส แต่ นายประตู ราอิส เอ็มโบลี่ อ่านเกมดีออกมาตัดบอลไว้ได้
ถัดมาอีกสองนาที "จิ้งจอกทะเลทราย" ได้เสียวบ้าง เมื่อ กองหลัง สาวบอลยาวในจังหวะสวนกลับ ให้ อิสลาม สลิมานี ควบแซง แผงหลัง "อินทรีเหล็ก" มารับบอล หน้าเขตโทษทางด้านซ้าย มานูเอล นอยเออร์ วิ่งออกมากะเคลียร์บอลทิ้ง แต่โดน กองหน้า แอลจีเรีย แตะหลบ ยังดีที่เจ้าตัวตามไปสไลด์บล็อก ก่อนโดนยิงโล่งๆ ได้ทันท่วงที
เกมเริ่มเปิดแลกสนุก นาทีที่ 14 เมืองเบียร์ มีโอกาสอีก บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์ ตะบันไกลด้วยซ้ายเท้าถนัด ระยะ 25 หลา บอลพุ่งแรงตรงกรอบ ราอิส เอ็มโบลี่ มือกาว แอลจีเรีย ต้องออกแรงเซฟ
นาทีที่ 17 กองเชียร์ "จิ้งจอกทะเลทราย" ได้เฮเก้อ เมื่อ อิสลาม สลิมานี โฉบโขกบอลตุงตาข่าย เรียบร้อย แต่ ผู้ตัดสิน ซานโดร ริชชี่ ไม่ให้ประตู เนื่องจาก ไลน์แมนยกธงล้ำหน้า
คล้อยหลังอีก 2 นาที เป็น แอลจีเรีย ที่ทำได้ดีกว่า ได้ลุ้นอีก จากจังหวะ ฟาอูซี่ กูล็อม แบ็กซ้าย ทำชิ่งกับเพื่อน หลุดเข้าไปในเขตโทษ ก่อนสับด้วยซ้ายทันที บอลผ่านหน้าปากประตู แบบได้เสียวสุดๆ
แดนไส้กรอก พยายาม ตอบโต้ ก่อนสบโอกาส ในนาทีที่ 24 จากจังหวะ โต้กลับ เมซุต โอซิล รับบอลจากเพื่อนบริเวณหน้าเขตโทษด้านซ้าย เจ้าตัวกะครอสบอลเร็ว ไปยังจุดนัดพบ แต่ผิดเหลี่ยมกลายเป็นดี ราอิส เอ็มโบลี่ นายด่าน ตัวแทนทวีปแอฟริกา ก็ยังไม่พลาด ถอยหลังกระโดดปัดออกไปได้
เกมดำเนินมาถึง นาทีที่ 34 "จิ้งจอกทะเลทราย" ได้เสียวอีก เมื่อ มาริโอ เกิทเซ่ ลงมาช่วยเกมรับที่โดนกดดันอย่างต่อเนื่อง เข้าด้านหลังตัดเกม เอล อาร์บี ฮิลเลล ซูดานี่ ล้มลง ผู้ตัดสินชาวบราซิล เป่าเป็นฟรีคิก ระยะ 25 หลา โซฟียาน เฟกูลี่ รับอาสา ปั่นด้วยขวา หลุดกรอบออกไปแบบได้ลุ้น
จากนั้นนาทีที่ 38 "อินทรีเหล็ก" มีลุ้นอีก เมื่อ เมซุต โอซิล ได้ซัดด้วยซ้าย ระยะ 22 หลา ราอิส เอ็มโบลี่ โกลแอลจีเรีย รับกระฉอก โธมัส มุลเลอร์ วิ่งตามมาเอาบอล แต่สองจิตสองใจเลยจับบอลไม่อยู่ ปลิ้นออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย
หนึ่งนาทีต่อมา แอลจีเรีย พลาดโอกาสขึ้นนำ เมื่อ เมห์ดี้ มอสเตฟา หวดด้วยขวานอกเขตโทษ ที่แนวรับ เยอรมัน สกัดมาเข้าทาง บอลแฉลบบั้นท้าย เยโรม บัวเต็ง เปลี่ยนทางเกือบเข้าประตู ชนิดที่ มานูเอล นอยเออร์ ได้แต่ยืนขาตาย
ผ่านมาอีกสองนาที เยอรมัน เกือบออกนำบ้าง เมื่อ โทนี่ โครส ตะบันไกล ระยะกว่า 30 หลา บอลพุ่งแรงตกพื้นหนึ่งจังหวะ กำลังจะเสียบเสาแรก ราอิส เอ็มโบลี่ โชว์ซูเปอร์เซฟ บินปัดได้อย่างเหลือเชื่อ บอลยังไม่พ้นอันตราย เมื่อ มาริโอ เกิทเซ่ ปรี่เข้าซ้ำ แต่ นายทวาร แอลจีเรีย ก็ยังลุกขึ้นมาเอาตัวขวางทางปืนได้ทัน
นาทีที่ 42 ราฟิค ฮัลลิเช่ โดน ผู้ตัดสิน ซานโดร ริชชี่ แจกใบเหลืองเป็นของสมนาคุณคนแรกในเกมนี้ เมื่อเปิดปุ่มเสียบสกัดสองเท้าใส่ บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์ จนเจ้าตัวร้องลั่นสนาม
ทั้งสองทีม เปิดเกมแลกกันอย่างสนุก แต่ก็ยังขาดความเฉียบคม ทำให้จบครึ่งแรก อินทรีเหล็ก ยังเสมอกับ "จิ้งจอกทะเลทราย" 0-0
เปิดฉากครึ่งหลัง โยอัคคิม เลิฟ นายใหญ่เยอรมัน แก้เกมคนแรกทันที ส่งอันเดร เชือร์เล่ ลงมาแทน มาริโอ เกิทเซ่
และเพียง 4 นาที ก็เกือบได้ประตูขึ้นนำ เมื่อโธมัส มุลเลอร์ เปิดจากฝั่งซ้าย เข้าหัว ชโครดาน มุสตาฟี่ ได้โขกเต็มๆ แต่ไปตรงตัว ราอิส เอ็มโบลี่ รับเข้าซอง
ทัพเบียร์ลุยต่อเนื่อง นาทีที่ 55 บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์ แตะต่อให้ ฟิลิปป์ ลาห์ม ได้แปเน้นๆ ประมาณ 20 หลา แต่ยังถูกปฏิเสธโดย ราอิส เอ็มโบลี่ ที่พุ่งปัดสุดปลายนิ้วออกหลังไปได้หวุดหวิด
ผ่านไป 70 นาที ทัพ "อินทรีเหล็ก" ต้องเปลี่ยนตัวคนที่สอง หลังชโครดาน มุสตาฟี่ มีอาอารบาดเจ็บเล่นต่อไม่ไหว ต้องส่ง ซามี่ เคดิร่า ลงสนามมาแทน
ถึงเกมจะดีกว่าแต่เยอรมัน ยังเจาะเข้าทำได้ยาก นาที 73 อันเดร เชือร์เล่ ล็อกตัดจากฝั่งซ้าย และยิงด้วยขวาที่เสาแรก แต่ลูกเบาไปราอิส เอ็มโบลี่ รับได้ไม่ยาก
สองนาทีต่อมา แอลจีเรีย ตอบโต้มาบ้าง โซฟิยาน เฟอกูลี่ ได้ยิงด้วยซ้าย ตรงเส้นเขตโทษ บอลพุ่งผ่านเสาสองไปแบบได้เสียว
ทัพ"จิ้งจอกทะเลทราย" แก้เกมคนแรกบ้าง ส่งยาซีน บราฮิมี่ ลงมาแทน ซาฟีร์ ไตแดร์
เข้าสู่นาทีที่ 80 เยอรมัน น่าได้ประตูขึ้นนำแบบสุดๆ เมื่อ โธมัส มุลเลอร์ ได้โขกโล่งๆคนเดียว แต่ยังติดเซฟ ราอิส เอ็มโบลี่ มาเข้าทาง อันเดร เชือร์เล่ ได้ยิงจ่อๆที่เสาแรก แต่ก็ติดแผงหลังแอลจีเรีย ออกหลังไป
อีก 2 นาทีให้หลัง "อินทรีเหล็ก" น่าได้อีกครั้ง โธมัส มุลเลอร์ ล็อกหลบเอสซาอิด เบลกาเล็ม ในเขตโทษ ก่อนจะดีดด้วยขวา ลูกหลุดเสาแรกออกไปอย่างน่าเสียดาย
ท้ายเกมนาทีสุดท้ายทัพเบียร์ เกือบได้ประตูชัย เมื่อฟิลิปป์ ลาห์ม ชิพนิ่มๆจากนอกเขตโทษ ให้บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์ ได้สะบัดโหม่งคนเดียว แต่นายด้านจอมหนึบแอลจีเรีย ยังล้มตัวตะคลุบไว้ได้อีก
เยอรมันโหมอย่างหนัก ช่วงทดเวลา อันเดร เชือร์เล่ ลุยมาทางขวา ก่อนเปิดไปที่เสาแรก จะถึงฟิลิปป์ ลาห์มอยู่แล้ว แต่เป็นราฟิค ฮัลลิเช่ เหยียดขาสกัดทิ้งไปได้ก่อน ทำให้จบ 90 นาที เยอรมัน เสมอ แอลจีเรีย 0-0 ต้องไปลุยกันต่อในช่วงต่อเวลาพิเศษอีก 30 นาที
และผ่านไปเพียงสองนาที กองเชียร์ "อินทรีเหล็ก" ที่อึดอัดกันมานาน ก็ได้เฮกันลั่นสนาม เมื่อขึ้นนำ 1-0 จนได้ จังหวะที่ โธมัส มุลเลอร์ ลุยเข้าไปในเขตโทษฝั่งซ้าย แล้วตบเรียดมาให้ อันเดร เชือร์เล่ ไขว้ยิงด้วยขวา คราวนี้หมดสิทธ์ที่ ราอิส เอ็มโบลี่ นายด่านแอลจีเรีย จะเซฟไว้ได้
นาทีที่ 97 แอลจีเรีย ต้องเปลี่ยนคนที่สอง ถอดราฟิค ฮัลลิเช่ ที่เป็นตะคริวอออก ส่ง มาดฌิด บูเกร์ร่า ลงมาแทน
จากนั้นอีก 3 นาที วาฮิด ฮาลิลฮ็อดซิช เทรนเนอร์ "จิ้งจอกทะเลทราย" แก้เกมคนสุดท้าย ส่ง อับเดลมูเมเน่ ฌาบู ลงมาแทน เอล อาร์บี ฮิลเลล ซูดานี่
ถึงนาทีที่ 102 แอลจีเรีย ก็เกือบได้ประตูตีเสมอเช่นกัน จากลูกเตะมุม ซามี่ เคดิร่า สกัดไม่ดี มาเข้าทาง เมห์ดี้ มอสเตฟา ได้ยิงบริเวณจุดโทษ ลูกหลุดเสาออกไปนิดเดียว
นาที 107 เยอรมัน มาโดนใบเหลืองคนแรก หลังฟิลิปป์ ลาห์ม ไปดึงตัดฟาวล์ใส่ ยาซีน บราฮิมี่
อีก 2 นาที โยอัคคิม เลิฟ เปลี่ยนคนสุดท้าย ส่ง คริสโตเฟอร์ คราเมอร์ ลงมาแทน บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์
นาที 117 เยอรมนี เกือบได้ลูกตอกฝาโลก โธมัส มุลเลอร์ จ่ายให้ คริสโตเฟอร์ คราเมอร์ ตัวสำรองที่ลงมาได้ไม่นาน ได้ยิงมุมแคบที่เสาแรก แต่ราอิส เอ็มโบลี่ ยังใช้ขาเซฟไว้ได้
แต่นาทีสุดท้ายของช่วงต่อเวลา ทัพ "อินทรีเหล็ก" ก็มาได้ลูกที่สองจนได้ เมซุต โอซิล ได้บอลหลุดไปในเขตโทษทางซ้าย ก่อนตบเข้ากลางมาให้อันเดร เชือร์เล่ ได้ยิงโล่งๆ แต่ไปติดแผงหลังแอลจีเรีย สกัดจากเส้นมาได้ แต่ยังไม่พ้นอันตราย มาเขาทาง โอซิล ซัดเต็มข้อด้วยซ้ายที่เสาแรกไม่เหลือ 2-0
เยอรมนี น่าจะชนะสบายๆแล้ว แต่นาทีถัดมา แอลจีเรีย ยังมีฮึดไล่มาเป็น 1-2 โซฟียาน เฟกูลี่ เปิดจากฝั่งขวาอย่างแม่นยำไปที่เสาสองให้ อับเดลมูเมเน่ ฌาบู ยิงจ่อๆ ตุงตาข่าย
แม้"จิ้งจอกทะเลทราย" จะรีบเอาบอลมาตั้ง หวังจะทำประตูตีเสมอ แต่ก็ไม่ทันการ จบเกมเยอรมัน เบียดชนะ แอลจีเรีย ไปแบบหืดขึ้นคอ 2-1 ไปพบกับ ฝรั่งเศส ในรอบ 8 ทีมสุดท้ายต่อไป
รายชื่อ 11 ผู้เล่นที่ลงสนาม
เยอรมนี (4-3-3) : มานูเอล นอยเออร์ - ชโครดาน มุสตาฟี่, แพร์ แมร์เตซัคเคอร์, เยโรม บัวเต็ง, เบเนดิคท์ เฮอเวเดส - บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์, ฟิลิปป์ ลาห์ม, โทนี่ โครส - เมซุต โอซิล, โธมัส มุลเลอร์มาริโอ เกิทเซ่,
เทรนเนอร์ : โยอัคคิม เลิฟ
แอลจีเรีย (5-3-2) : ราอิส เอ็มโบลี่ - อาอีสซ่า ม็องดี้, เมห์ดี้ มอสเตฟา, เอสซาอิด เบลกาเล็ม, ราฟิค ฮัลลิเช่, ฟาอูซี่ กูล็อม - ซาฟีร์ ไตแดร์, เมห์ดี้ ลาเซน, อิสลาม สลิมานี - โซฟียาน เฟกูลี่, เอล อาร์บี ฮิลเลล ซูดานี่
เทรนเนอร์ : วาฮิด ฮาลิลฮ็อดซิช
ผู้ตัดสิน : ซานโดร ริชชี่ (บราซิล)
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
ฝรั่งเศสไม่แผ่ว!อัดไนจีเรีย2-0ฉลุย8ทีม
"ทีมตราไก่" ฝรั่งเศส ยังรักษาฟอร์มได้เหมือนเคย หลังเป็นฝ่ายเอาชนะ "อินทรีมรกต" ไนจีเรีย ไปได้แบบไม่ยากเย็น 2-0 ผ่านเข้าสู่รอบ 8 ทีมสุดท้ายได้สำเร็จ ในการแข่งขันฟุตบอลโลก 2014 รอบ 16 ทีม สุดท้าย เมื่อวันจันทร์ที่ 30 มิถุนายน ที่ผ่านมากสทช.เคลียร์แล้วยันดูบอลโลกฟรีทีวีครบคืนนี้
กสทช.งงคนไทยดูบอลโลกไม่ครบตามเงื่อนไข เตรียมเรียกเจ้าของสิทธิ์,ช่อง 5 และ 7 หารือด่วน ชี้จ่ายค่าชดเชยในกรอบวงเงิน 427 ล้านบาท แต่ในรอบ 16 ทีมคู่ 23.00 น.กลับดูผ่านฟรีทีวีไม่ได้ตามตกลงไว้ ล่าสุดเจ้าของลิขสิทธิ์แจงติดปัญหาฟีฟ่า พร้อมยันคืนนี้ชมได้ตามปกติใจหล่อมาก! แข้งกรีซเสียสละโบนัสเพื่อสร้างศูนย์ฝึกใหม่
ส่วนรวมต้องมาก่อนส่วนตน! นักเตะจากแดนเทพนิยายปัดรับเงินโบนัสจากการผ่านเข้าสู่รอบน็อคเอาท์ฟุตบอลโลก เพราะต้องการให้รัฐบาลนำเงินไปสร้างศูนย์ฝึกใหม่แทนใจถึง! เผยฮันเตอร์พลาดจุดโทษ 3 ลูกติดก่อนยิงฝังจังโก้
หัวจิตหัวใจแข็งแกร่ง! เผยสถิติฮีโร่ทีมอัศวินสีส้มพลาดจุดโทษในลีกเมืองเบียร์มา 3 ลูกติดต่อกัน ก่อนรับหน้าที่สังหารพาทีมเฉือนเม็กซิโกแบบหวุดหวิด
TOP 5 ข่าวในรอบ 3 วัน
อัลบั้มภาพเด็ดๆ
มาย ฮาเร็ม ส่งภาพเขย่าโซเชียล นุ...
เจนนี่ ธมนภัค พริตตี้สุดฮอต นุ่ง...
ฮาน่า ฮาอึน ชอง ดาว TikTok สาวสว...
นาฟ ฉัฐนันท์ ปล่อยแซ่บท้าลมหนาว ...
เต็มที่แล้ว! ไทย พ่าย อุซเบกิสถา...
ตัดเกรด นักเตะไทย เกมเสมอ โอมาน ...
คลิปไฮไลท์