น่าเสียดายที่รอบนี้ทีมแชมป์โลก 4 จาก 8 ทีมพากันเก็บเสื้อผ้ากลับบ้านกันไปเรียบร้อยแล้ว
 
 ตอนนี้เหลือ ฝรั่งเศส, เยอรมัน, บราซิล และอาร์เจนตินา ที่เป็นผู้รอดชีวิต
 
 ขุน พล เซเลเซา มีคิวต้องดวลกับ โคลอมเบีย อีกม้ามืดตัวเขื่องของฟุตบอลโลกหนนี้ ในเกมรอบก่อนรองชนะเลิศ ที่สนามเอสตาดิอู กาสเตเลา วันศุกร์นี้
 
 แน่นอนว่า บราซิล ที่มีดีกรีแชมป์โลก 5 สมัยต่อท้าย และยิ่งลงเล่นในฐานะเจ้าภาพด้วยแล้ว ย่อมต้องมีการตั้งความหวังไว้สูงเป็นธรรมดา
 
 บราซิล ต้องชนะเกมนี้อย่างไม่มีเงื่อนไขอื่นใด แต่คู่แข่งของพวกเขาคือ โคลอมเบีย ทีมที่ฟอร์มเปล่งปลั่งที่สุดตั้งแต่รอบแบ่งกลุ่มเป็นต้นมา และมันคงทำให้งานของชาติเจ้าภาพไม่ใช่แค่ปลอกกล้วยเข้าปากอย่างแน่นอน
 
 ต่อ ไปนี้คือเหตุผลที่ว่าทำไมการฟัดกันของ บราซิล กับ โคลอมเบีย ครั้งนี้จึงเป็นเกมที่น่าสนใจที่สุดนัดหนึ่งของทัวร์นาเมนต์ และมันก็เป็นเหตุผลว่าทำไมเกมนี้จึงเป็น "คุณค่าที่คุณคู่ควร"

 1 : แซมบ้ายังไม่ท็อปฟอร์ม
 
 บราซิล เป็นทีมเต็งตั้งแต่ก่อนเริ่มทัวร์นาเมนต์และยังคงเป็นอยู่ในขณะนี้
 
 ทว่าเมื่อวัดมาตรฐานฟอร์มการเล่นตลอด 4 เกมที่ผ่านมาแล้ว ทัพเซเลเซามีปัญหาไม่น้อย
 
 เนย์มาร์ เป็นความหวังเดียวในตอนนี้
 
 คนอื่นๆยังหาทำยาลำบาก อย่างยิ่งกับกองหน้าของทีม
 
 หลักฐานปรากฏชัดเจนในเกมกับชิลี บราซิลโดนบดขยี้เป็นระยะๆตลอด 120 นาที และทุกครั้งก็มีความเสี่ยงที่พวกเขาจะเป็นฝ่ายแพ้
 
 กอง หลังหลุดตำแหน่งกันบ่อยครั้ง กองหน้ามีโอกาสเข้าทำก็ไม่เฉียบคม จนต้องอาศัยความผิดพลาดเล็กๆน้อยๆของชิลี ที่เปิดโอกาสให้ทีมเจ้าภาพผ่านเข้ามาถึงรอบ 8 ทีมสุดท้าย
 
 ในรอบที่ ผ่านๆมา บราซิล พึ่งพาความสามารถของนักเตะเพียงคนเดียวมากเกินไป ประกอบกับหลายครั้งมีโชคจากคำตัดสินของกรรมการเข้ามามีส่วนช่วย
 
 พูด ได้เต็มปากเลยว่า บราซิล ยังไม่สามารถงัดศักยภาพที่แท้จริงออกมาโชว์ได้ แต่การผ่านเข้ามาถึงรอบลึกขนาดนี้แล้ว คงถึงเวลาที่ชาติเจ้าภาพจะกระชากประสิทธิภาพที่แท้จริงออกมาให้โลกได้เห็น อย่างที่พวกเขาเคยทำได้ในรายการคอนเฟเดอเรชั่นส์ คัพ ด้วยการดับทีมแชมป์โลกสเปนแบบหมดสภาพ

 2 : บราซิลเลี่ยนต้องการชัยชนะ
 
 อย่าง ที่ทราบกันว่า บราซิล ประสบปัญหาทางด้านสังคมมากมาย ไม่ว่าจะเป็นปัญหาหนี้สินในการลงทุนจัดงานครั้งนี้ หรือจะเป็นปัญหาปากท้องของประชากรส่วนใหญ่ในชาติ
 
 บราซิเลี่ยนชนที่ประสบปัญหาดังกล่าวพยายามจะให้ฟุตบอลโลกคราวนี้เป็นกระบอกเสียงในการแฉให้โลกได้รับรู้ถึงสภาพความเป็นอยู่ที่แท้จริง
 
 พวก เขาต้องการจะบอกว่าประเทศนี้ไม่ได้ร่ำรวยและเพียบพร้อมสำหรับการจัด งานมหกรรมลูกหนังโลกแบบนี้ เพราะเงินที่นำไปลงทุนในส่วนต่างๆนั้นควรเอาไปดูแลปากท้องประชาชนในประเทศ ก่อนจะดีกว่า
 
 ก่อนการแข่งขันเริ่มต้นไม่กี่วัน สำนักข่าวจ่างประเทศตีข่าวและภาพออกมายกใหญ่ กลุ่มแรงงานในประเทศบราซิลพากันประท้วงหยุดงาน ทำให้สภาพการจราจรในเมืองใหญ่ๆและเป็นเมืองที่ใช้จัดการแข่งขันครั้งนี้กลาย เป็นเมืองอัมพาต
 
 นักเตะบราซิลตระหนักเรื่องนี้ดี มันเป็นเหตุผลให้พวกเขาต้องทุ่มเทให้มากกว่าที่เป็นมา เพราะพวกเขาไม่ได้เล่นเพื่อแค่ตัวเอง แต่เป็นเพื่อคนทั้งชาติด้วย
 
 ถ้า หากทีมเซเลเซาเป็นแชมป์ นั่นก็หมายความถึงความสุขของคนทั้งชาติจะกลับมา และไม่แน่ว่าเรื่องราวที่ถูกเรียกร้องกันตลอดมาอาจได้รับการเยียวยาในลำดับ ต่อไป
 
 "ชาติของเรากำลังลุกขึ้นยืนได้จากหลายๆปัจจัย ซึ่งฟุตบอลก็ทำให้มันเป็นอย่างนั้น ผมหวังว่าฟุตบอลโลกจะที่ทำให้คนทั้งประเทศรู้สึกแบบนั้นอีกครั้ง" หลุยซ์ เฟลิเป้ สโคลารี่ ตระหนักถึงเรื่องนี้ดี

 3 : ฮาเมส โรดริเกซ
 
 ฮาเมส โรดริเกซ เพลย์เมคเกอร์โคลอมเบีย สถาปนาตัวเองเป็นดาวเตะที่เจิดจรัสที่สุดในฟุตบอลโลกหนนี้
 
 ดาว เตะวัย 22 ปีรายนี้ได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในดาวรุ่งที่ฝีเท้าฉกาจที่สุดคนหนึ่ง ของโลกในยุคนี้ ราวมถึงในรายการฟุตบอลโลกหนนี้ด้วย
 
 เด็กหนุ่มจากกู กูต้ารายนี้โชว์ฟอร์มได้โดดเด่นเหลือเชื่อ ช่วยทำประตูและสร้างสรรค์เกมจนทำให้ โคลอมเบีย กรุยทางสู่รอบ 8 ทีมสุดท้ายได้สำเร็จ ซึ่งหนึ่งโมเมนต์แห่งความทรงจำคือประตูสุดสวยที่ยิงใส่อุรุกวัยในรอบ 16 ทีมสุดท้าย และเชื่อว่าประตูนั้นจะได้รับเลือกเป็นหนึ่งในประตูยอดเยี่ยมแห่งทัวร์นา เมนต์อย่างแน่นอน
 
 ผลงานอันโดดเด่นตลอด 4 เกมที่แล้ว ทำให้ ฮาเมส กลายเป็นนักเตะที่น่าจับตามองที่สุดในเวิลด์ คัพหนนี้ และเชื่อว่าแฟนบอลที่ได้ชมการร่ายเพลงแข้งของมิดฟิลด์ผู้นี้ในเกมกับคู่ ต่อสู้ยักษ์ใหญ่อย่างบราซิล จะต้องหลงไหลในมนต์สเน่ห์ของยอดแข้งจอมแดนซ์รายนี้แน่นอน

 4 : ปูมหลังน่าสนใจ
 
 บราซิล ทำผลงานได้ดีกว่าแทบทุกครั้งที่ลงปะทะคารมณ์บนฟลอร์หญ้ากับ โคลอมเบีย
 
 แน่นอน ด้วยดีกรีแชมป์โลก 5 สมัยย่อมทำให้ต้องได้รับการคาดหวังจากบรรดาแฟนบอลรวมถึงสื่อทุกแขนง
 
 และยิ่งคู่ต่อสู้ที่ห่างหายฟุตบอลโลกไปตั้งแต่ปี 1998 ทำให้บราซิลมีเงื่อนไขเดียวในเกมนี้คือต้องชนะเท่านั้น
 
 แต่มันจะง่ายอย่างนั้นเชียวหรือ ?
 
 ตลอด 21 ครั้งที่ผ่านมา บราซิล พลาดท่าให้กับเพื่อนร่วมทวีปอเมริกาใต้รายนี้เพียง 2 ครั้ง (ชนะ 14 เสมอ 5)
 
 ครั้งแรกที่พลพรรคเซเลเซาพ่ายให้ โคลอมเบีย เกิดขึ้นในเกมกระชับมิตร เมื่อปี 1985 ที่เมืองโบโกต้า (0-1)
 
 ส่วน ครั้งที่ 2 และครั้งล่าสุดนั้น เกิดขึ้นในเกมโกปา อเมริกา รอบแรก เมื่อปี 1991 ที่เมืองวีนา เดล มาร์ ประเทศชิลี (0-2) โดย โคลอมเบีย ชุดนั้นยังมีนักเตะอย่าง เฟรดดี้ รินคอน และ การ์ลอส วันเดอร์รามา เล่นอยู่ในทีม
 
 บราซิล โคจรมาพบกับ โคลอมเบีย อีกครั้งในรอบสุดท้าย รายการเดิมนี้ แล้วก็เป็น เรนาโต้ เกาโช่ และบรังโก้ ที่ช่วย บราซิล เช็คบิลโคลอมเบียได้สำเร็จ 
 
  นับแต่นั้นเป็นต้นมา ซึ่งก็นับเป็นเวลากว่า 23 ปีแล้วที่ บราซิล ไม่แพ้ให้กับ โคลอมเบีย
 
 แต่มันก็เป็นเวลากว่า 12 ปีด้วยกันที่ โคลอมเบีย ไม่เสียท่าให้กับ บราซิล เลย
 
 ครั้ง สุดท้ายที่ บราซิล เก็บชัยชนะเหนือ โคลอมเบีย คือวันที่ กาก้า เป็นคนยิงประตูชัยให้ บราซิล ชนะ 2-1 ในเกมฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก เมื่อปี 2003 และนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ทั้งคู่เสมอกันตลอด 4 ครั้งหลัง และเป็นการเสมอกันแบบโนสกอร์ถึง 3 ครั้งด้วยกัน
 
  อย่างไรก็ตาม ครั้งล่าสุดที่คู่นี้เสมอกัน (1-1) เกิดขึ้นที่ นิว เจอร์ซี่ย์ ประเทศสหรัฐอเมริกา เกมนั้น เนย์มาร์ สตาร์เด่นของบราซิลในฟุตบอลโลกหนนี้ยิงจุดโทษไม่เข้าและโคลอมเบียชุดนั้นก็ มี ฮวน กวาดราโด้ และฮาเมส โรดรเกซ เป็นนักเตะที่เด่นที่สุดในทีมเช่นกัน
 
 และไม่แน่ว่าเหตุการณ์สุดคลาสสิควันนั้น จะกลับมาหลอกหลอนบราซิลอีกครั้ง วันศุกร์นี้...