ผลคะแนนและราคา 2 in 1 คะแนนในการแข่งสด ผลการแข่งขัน ตารางการแข่งขัน อัตราต่อรอง ข้อมูล คะแนนบาสเก็ตบอล
ฟุตบอล » พรีเมียร์ลีก อังกฤษ » เกร็ดชีวิตลูกหนังหลุยส์ซัวเรซ

เกร็ดชีวิตลูกหนังหลุยส์ซัวเรซ

Posted 05/07/2014 by siamsport

 

 

หลุยส์ ซัวเรซ มีชื่อเต็มๆว่า หลุยส์ อัลเบร์โต ซัวเรซ ดีอาซ (Luis Alberto Suarez Diaz) เกิดเมื่อวันที่ 24 มกราคม ค.ศ. 1987 ที่เมืองซัลโต ประเทศอุรุกวัย ซัวเรซ อาศัยในเมืองเล็กๆนี้ไม่นานนัก ครอบครัวก็ได้ย้ายมาตั้งรกรากที่เมือง มอนเตวิเดโอ

ที่นี่เองที่เด็กชายกับพี่น้อง 6 คน ที่เติบโตขึ้นมาจากการเลี้ยงดูของมารดาเพียงลำพัง  ได้เริ่มหัดเล่นฟุตบอล กีฬาที่ตัวเองรักเป็นชีวิตจิตใจและด้วยความทุ่มเทฝึกซ้อม บวกกับพรสวรรค์ในการเตะลูกกลมๆ ซัวเรซ เริ่มทำผลงานเตะตาแมวมอง ก่อนในปี ค.ศ. 2005 ซัวเรซ ซึ่งขณะนั้นมีวัยเพียง 18 ปี จะถูกจับเซ็นสัญญาเป็นนักฟุตบอลอาชีพครั้งแรกกับนาซิอองนาล สโมสรชั้นนำของเมืองมอนเตวิเดโอและลีกอุรุกวัยในขณะนั้น
 
ซัวเรซลงเล่นให้สโมสรที่ปลุกปั้นเขามาตั้งแต่ระดับเยาวชนไปทั้งสิ้น 27 นัด ซัดไป 10 ประตู ซึ่งถือว่าไม่ธรรมดาสำหรับเด็กวัยนี้ และด้วยฟอร์มอันร้อนแรงของเขา ดันไปเตะตาแมวมองจังเบ้อเริ่ม  ชีวิตของเด็กหนุ่มเลยถึงคราวหักเหอีกครั้ง เมื่อโกรนิงเก้น ทีมในลีกฮอลแลนด์ สนใจดึงเขาไปร่วมทัพ ในปี 2006
 
ซัวเรซ เล่นให้ โกรนิงเก้น แค่ปีเดียว 29 นัด กดไป 10 ประตู ก็ถึงต้องย้ายทีมอีกครั้งในปี 2007 ซึ่งคราวนี้ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของเขาเลยทีเดียว เมื่อ อาแจ๊กซ์ อัมสเตอร์ดัม สโมสรชั้นนำลีกดัตช์ คว้าตัวไปร่วมทีมในฤดูกาล 2008-09
 
และในปีแรก ซัวเรซ ก็เจิดจรัสคว้ารางวัลผู้เล่นแห่งปีของสโมสร โดยยิงไป 35 ประตู จาก 33 เกม ในลีก และยิงรวมทุกถ้วย 49 ประตู ได้รับรางวัลผู้เล่นแห่งปีของลีกฮอลแลนด์ ในฤดูกาล 2010-11ฟอร์มของ ซัวเรซ ยังร้อนแรงต่อเนื่อง ยิงให้สโมสรอาแจ๊กซ์ อัมสเตอร์ดัม ครบ 100 ลูก ทำผลงานเทียบชั้นตำนานของสโมสรอย่าง โยฮัน ครัฟฟ์, มาร์โก แวน บาสเท่น และเดนนิส เบิร์กแคมป์
 
แต่ในฤดูกาลนี้มีเหตุการณ์อื้อฉาวเมื่อเขาไปกัดไหล่ของนักเตะพีเอสวี ไอน์โฮเฟ่น  ออสมาน แบคคาล และถูกแบน 7 นัด ระหว่างที่ถูกแบนในเดือนมกราคม ซัวเรซ ก็ถึงคราวย้ายทีมอีกครั้ง เมื่อ หงส์แดง ลิเวอร์พูล จัดการซื้อมาร่วมทัพมูลค่า 26.5 ล้านยูโร และเพียงแค่ครึ่งฤดูกาลที่มาแอนฟิลด์ ซัวเรซ ก็เปล่งประกายทันทีเมื่อพาลิเวอร์พูลขยับจากอันดับที่ 12 ของตาราง ช่วงกลางเดือนมกราคม 2011 ไปจบที่อันดับ 6 เมื่อสิ้นสุดฤดูกาล
 
จากนั้นซัวเรซ ก็ยังเป็นกำลังหลักของหงส์แดง โดยพาทีมคว้าแชมป์ลีก คัพ เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2012 ซึ่งนับเป็นถ้วยแรกของเขากับลิเวอร์พูล ก่อนจะมาสร้างชื่อสุดๆในซีซั่นล่าสุด 2013/14 เมื่อสามารถพาลิเวอร์พูลบินสูงได้รองแชมป์พรีเมียร์ลีก คว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของสมาคมผู้สื่อข่าวและสมาคมนักเตะอาชีพ และยังได้รองเท้ารองทองคำ โกลเด้นชู ร่วมกับ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ หลังกดไป 31 ประตูในลีก
 
ชีวิตของ ซัวเรซ ไม่ได้มีเพียงด้านดี กับลิเวอร์พูลเขาเคยก่อวีรกรรมอันแสบสันต์ ในฤดูกาล 2011 พูดจาเหยียดผิว ปาทริซ เอวร่า ฟูลแบ๊กทีมชาติฝรั่งเศสของแมนฯ ยูไนเต็ด ในนัดแดงเดือดโดนปรับไป 40,000 ปอนด์ และแบนอีก 8 เกม
 
และที่แสบสุดคือการไปกัดแขน บรานิสลาฟ อิวาโนวิช โดนโทษแบน 10 นัด ตั้งแต่ปลายฤดูกาล 2012-13 ไปจนถึงต้นฤดูกาล 2013-14 จนนำมาซึ่งข่าวการย้ายทีม โดยให้เจ้าตัวให้เหตุผลว่าสื่อจากเกาะอังกฤษ คุกคามชีวิตส่วนตัว ทำเอาบอร์ดบริหารเอือมระอา และเมื่อเหตุการณ์ทำนองเดียวเกิดขึ้นอีกในฟุตบอลโลก ฉบับแซมบ้า 2014 จากการไปกัด จอร์โจ้ คิเอลลินี่ ฟางเส้นสุดท้ายของ ซัวเรซ กับ สโมสรจึงสะบั้นลงอย่างช่วยไม่ได้ ซ่งก็น่าจะเป็นการจากกันด้วยดีของทั้งสองฝ่าย


และนี่คือชอตสำคัญของ ซัวเรซ ในสีเสื้อลิเวอร์พูล

         1
.  วันที่ 2 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2011 คือวันที่ หลุยส์ ซัวเรซ กลายเป็นสมาชิกใหม่ของลิเวอร์พูล ภายใต้การคุมทีมของ เคนนี่ เดลกลิช
         2. ถัดมาแค่วันเดียว ซัวเรซ ลงเล่นให้ลิเวอร์พูลเป็นเกมแรก โดยนัดนั้นเล่นในแอนฟิลด์รับมือ สโต๊ค ซัวเรซ ถูกส่งมาเป็นสำรองในนาที่ 63 แทนที่ของ ฟาบิโอ ออเรลิโอ
         3. และในเกมนั้น ซัวเรซ ก็ส้างความประทับใจให้กับเดอะค็อป เมื่อยิงปิดท้ายให้ทีมชนะช่างปั้นหม้อ 2-0
         4. เกมแดงเดือดเมื่อ 15 ต.ค. 2011ปาทริช เอวร่า กองหลังแมนฯ ยูไนเต็ด อ้างผ่านทาง "กานัล ปลุส" ( Canal + ) สถานีโทรทัศน์ในบ้านเกิดว่าถูก ซัวเรซ ใช้วาจาเหยียดผิวถึง 10 ครั้ง ก่อนโดนเอฟเอลงโทษ ห้ามลงสนาม 8 นัด พร้อมทั้งปรับเงินอีก 40,000 ปอนด์ (ประมาณ 2 ล้านบาท) ซึ่งเกมในโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด
11 ก.พ. 2012 ซัวรเซ ปฏิเสธที่จะจับมือ เอวร่า ท่ามกลางเสียงกดดันอย่างหนัก
         5 . ควักนิ้วกลางแจกแฟนฟูแล่ม ในจังหวะที่โดยสอยล้มลงในเขตโทษ แต่เชิ้ตดำเมิน เลยลุกขึ้นมาแจกกล้วยแฟนๆฟูแล่ม
         6. วันที่ 6 มกราคม 2013 ซัวเรซใช้มือช่วยในการทำประตูในเกมที่ชนะ แมนส์ฟิลด์ ทาวน์ จากลีกคอนเฟอร์เรนส์ ในเกมเอฟเอคัพ รอบสาม
         7. รับบทกัปตันทีมลิเวอร์พูลครั้งแรกในเกม เอฟเอคัพ ซึ่งลิเวอร์พูลพลิกล็อกพ่ายให้กับโอลด์แฮม 2-3
         8. ฉาวไปทั่วโลก เมื่อถูกกล้องโทรทัศน์จับภาพได้ว่าไปกัดแขน บรานิสลาฟ อิวาโนวิช กองหลังเชลซี ในเกมพรีเมียร์ลีก วันที่ 21 เมษายน 2013 ในแอนด์ฟิลด์ งานนี้โดนแบนไปเบาะๆ 10 นัด ทำเอา จอห์น ดับเบิ้ลยู เฮนรี่ เจ้าของทีมโกรธสุดๆ
         9. วันที่ 31 พฤษภาคม 2013 ออกมาประกาศต้องการย้ายทีม โดยมีอาร์เซน่อลเป็นตัวเต็งที่จะได้ แต่ที่สุด ซัวเรซ ก็เปลี่ยนใจ อยู่ในแอนด์ฟิลด์ต่อ
         10. แม้จะพาลิเวอร์พูลเป็นแค่รองแชมป์ ในสีเสื้อลิเวอร์พูล ซัวเรซ ประสบความสำเร็จอย่างสูง คว้าตำแหน่งนักเตะยอดเยี่ยมของพรีเมียร์ลีก ทุกสถาบันทั้งของสมาคมผู้สื่อข่าว,สมาคมนักเตะอาชีพและ นักเตะยอดเยี่ยมฤดูกาล2013/14 (Barclays Player of the Season for 2013/14)  รวมถึงได้ดาวซัลโวด้วย เมื่อกดไป 31 ตุง และ 12 แอสซิสต์
 
         และนี่คือ 10 วีรกรรมของซัวเรซ ในสีเสื้อหงส์แดง ซึ่งไม่มีใครคาดคิดว่า หลังจากฟุตบอลโลก 2014 ซัวเรซ จะกลายเป็นอดีตสมาชิกลิเวอร์พูลไปแล้ว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
  • ซัวเรซลาหงส์!ซบบาร์ซ่า63ล้านป.สัญญา5ปี
    ได้เวลาเสียที! ทีวี3 สถานีโทรทัศน์ในกาตาลัน ประเทศสเปน รายงานข่าวด่วนว่า บาร์เซโลน่า บรรลุข้อตกลงซื้อ หลุยส์ ซัวเรซ หัวหอกจาก "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล เรียบร้อย สัญญา 5 ปี ค่าตัว 75 ล้านยูโรหรือประมาณ 63 ล้านปอนด์ (ราว3465 ล้านบาท)
  • ให้แค่ย้าย!ฟีฟ่ายันซัวเรซไม่มีสิทธิ์ลงซ้อม
    ฟีฟ่า ยันชัด หลุยส์ ซัวเรซ ดาวยิง ลิเวอร์พูล ไม่มีสิทธิ์ลงซ้อมกับทีมไหนในช่วงติดโทษแบน 4 เดือน กรณีไปงับไหล่ จอร์โจ้ คิเอลลินี่ ปราการหลังทีมชาติอิตาลี แต่สามารถย้ายทีมได้ หลังข่าวออกมาคลาดเคลื่อนในช่วงก่อนหน้านี้
  • หงส์โอเค90ล.ยูโร!ยันซัวเรซซบบาร์ซ่า48ชม.นี้
    สื่อสเปนรายงาน ลิเวอร์พูล กับ บาร์เซโลน่า ตกลงค่าตัว หลุยส์ ซัวเรซ กองหน้าอุรุกวัย ได้แล้วที่ 90 ล้านยูโร ขณะที่สื่ออังกฤษเชื่อการย้ายไปยังถิ่นคัมป์ นู น่าจะเกิดขึ้นภายใน 48 ชั่วโมงนี้
  • มีลุ้น!ฮันเตอร์ไม่ปิดโอกาสย้ายซบหงส์
    คลาส-แยน ฮุนเตลาร์ กองหน้า ชาลเก้ 04 เผยไม่ปิดโอกาสย้ายซบ ลิเวอร์พูล หลังมีข่าว "หงส์แดง" อยากได้ตัวไปเสริมทัพ บอกเรื่องนี้ต้องคุยกับต้นสังกัดเสียก่อน แต่ในตอนนี้คิดถึงแต่การช่วยทีมชาติฮอลแลนด์ คว้าแชมป์ฟุตบอลโลก เท่านั้น

TOP 5 ข่าวในรอบ 3 วัน

อัลบั้มภาพเด็ดๆ

More »

คลิปไฮไลท์

More »