หลุยส์ ฟาน กัล โค้ชทีมชาติฮอลแลนด์ เผยเบื้องหลังการเปลี่ยนตัวโดนใจ ที่ส่ง ทิม ครูล ลงไปเฝ้าเสาแทน ยาสเปอร์ ซิลเลสเซ่น เพื่อเป็นฮีโร่ดวลจุดโทษดับ คอสตาริกา 4-3 ว่ามีแค่ ครูล เท่านั้นที่รู้เรื่อง ชี้เป็นประตูที่ช่วงเซฟยาว แถมสถิติเซฟลูกโทษดี เลยสั่งให้ศึกษาการยิงจุดโทษของทีม "กล้วยหอม" เอาไว้ล่วงหน้าแล้ว แต่ยอมรับ ทำใจยากกับการเหลือโควตาเปลี่ยนตัวไว้ 1 คน เพราะรู้ว่านักเตะหลายคนแทบหมดแรงตายจากการเล่น 120 นาที

หลุยส์ ฟาน กัล โค้ชทีมชาติฮอลแลนด์ เผยว่าเขาบอก ทิม ครูล นายทวารมือสอง คนเดียวเท่านั้น ว่าหากเกมรอบ 8 ทีมสุดท้าย กับ คอสตาริกา ยื้อไปจนถึงดวลเป้า จะถูกเปลี่ยนตัวลงไปเฝ้าเสา โดยไม่ได้บอก ยาสเปอร์ ซิลเลสเซ่น มือกาวตัวจริง ก่อนที่จอมหนึบจากนิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด จะสวมบทฮีโร่ เซฟ 2 จุดโทษช่วยทีม "อัศวินสีส้ม" ชนะทีม "กล้วยหอม" 4-3 หลังเสมอ 0-0 ใน 120 นาที เมื่อวันเสาร์ที่ 5 กรกฎาคม ที่ผ่านมา
 
ฮอลแลนด์ จนปัญญาส่งบอลผ่าน เคย์เลอร์ นาบาส มือกาวกล้วยหอม ที่เซฟพัลวัน แถมมีชิงชนชนคานไปอีก 3 ครั้ง สุดท้ายต้องวดวลจุดโทษ ซึ่ง ฟาน กัล ใช้โควตาเปลี่ยนตัวที่เก็บไว้ 1 คน ส่ง ครูล ลงมาเฝ้าเสาแทน ชิลเลสเซ่น แบบน่าทึ่ง และชวนตกใจ แต่ผลออกมาเยี่ยมยอดเพราะ ครูล เซฟลูกยิงของ ไบรอัน รุยซ์ ลูกที่สอง กับลูกยิงของ ไมเคิ่ล อูมานย่า ที่ยิงคนสุดท้าย ให้ ฮอลแลนด์ ชนะ 4-3
 
"เราคิดเรื่องนี้เอาไว้แล้ว นักเตะของผมทุกคนมีความสามารถบางอย่างเป็นของตัวเอง และสำหรับ ทิม เราคิดว่าเขาเหมาะกับการเป็นผู้รักษาประตูที่จะเซฟจุดโทษ เพราะเขามีช่วงการป้องกันที่ยาว แต่เราไม่ได้บอก ยาสเปอร์ เราไม่อยากให้เขารู้เรื่องนี้ก่อนลงสนาม เพราะเขาอาจจะเสียใจ แต่ผู้รักษาประตูทุกคนมีความสามารถของตัวเอง และเราคิดว่า ทิม มีช่วงที่ยาวกว่า และสถิติการเซฟจุดโทษดีกว่า" 
 
"เราคุยกับ ทิม และเราให้เขาศึกษาการยิงจุดโทษของ คอสตาริกา (ดวลเป้าชนะ กรีซ รอบ 16 ทีม) คุณจะเห็นว่าเขาพุ่งถูกทางทุกลูก เพราะฉะนั้น เราจึงภูมิใจที่การตัดสินใจนี้มีส่วนช่วยเราเข้ารอบ" ฟาน กัล กล่าวหลังเกม พร้อมยอมรับว่า การเก็บโควตาเปลี่ยนตัวเอาไว้เพื่อการนี้โดยเฉพาะ ไม่ใช่เรื่องที่เขาอยากจะทำ เพราะนักเตะเล่น 120 นาที ย่อมมีอาการแข้งขาอ่อนล้าเป็นธรรมดา
 
"ผมตัดสินใจเรื่องนี้ (ครูล) ก่อนหมดเวลาปกติ 90 นาที ผมคิดว่าเราเล่นดีแล้ว สร้างโอกาสได้เพียบ ผมเลยคิดว่าไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนตัว แต่มันมีโอกาสที่จะต้องยิงจุดโทษตัดสิน ผมรู้สึกว่า เมมฟิส (เดปาย) เล่นไม่ดีเท่าไหร่ เลยถอดเขาออกให้ เจเรเมน (เลนส์) ลงไปเล่นแทนช่วงก่อนหมดเวลาปกติ และแน่นอนว่า ในช่วงต่อเวลาพิเศษ ผมต้องย้ำว่าตัวเองอย่าเปลี่ยนตัวครบ เพื่อจะได้ใช้ ทิม ได้"
 
"แต่เรามีปัญหาผู้เล่นเจ็บ และนักเตะอย่าง โรบิน (ฟาน เพอร์ซี่) และ จอร์จินิโอ (ไวจ์นัลดุม) ก็แทบไม่มีแรงแล้ว การส่ง คลาส (ฮุนเตลาร์ แทน บรูโน่ มาร์ตินส์ อินดี้ น.106) ลงไปเล่นก็เสี่ยง เพราะทำให้เราเล่นกองหลัง 4 คน มันเลยค่อนข้างเสี่ยง โชคดีที่มันออกมาดี เพราะหากไม่เช่นนั้นแล้ว ผมก็ต้องรับผิดชอบการตัดสินใจที่ผิดพลาด" ฟาน กัล กล่าว
 
นอกจากนี้ ฟาน กัล ยังชมนักเตะว่าเล่นกันได้นิ่งสุดๆ แม้ยิงยังไงก็ไม่เข้า ทั้งติดเซฟ และชนเสา-คาน ตลอดจนหัวเสียกับแท็กติกถ่วงเวลา และฟาวล์เล็กฟาวล์น้อย "ผมเชื่อว่านักเตะควบคุมตัวเองเก่งกว่าสตาฟฟ์อีก ทีมงานผมกระโดดเด้งขึ้นเด้งลงทั้งเกมเลย! แต่ผมรู้สึกว่านักเตะผมควบคุมตัวเองได้ดีมากๆ ทั้งจากแท็กติกถ่วงเวลา ซึ่งกรรมการก็ปล่อยให้ทำโดยไม่ลงโทษ นี่ยังไม่นับการตัดสินจังหวะฟาวล์ในเกมด้วย"
 
"ดังนั้น ผมต้องขอชื่นชมนักเตะของผม เราเองก็หัวเสียนะ และฟุตบอลมันมีกฎอยู่ข้อหนึ่งว่า เมื่อคุณพลาดโอกาสครั้งแล้วครั้งเล่า คู่แข่งจะเล่นงานคุณ แต่ผมมองเห็นความมุ่งมั่นที่จะชนะของทีม พวกเขารู้หน้าที่ตัวเอง และนี่คือปัจจัยสำคัญ มันไม่ใช่แค่ผม หรือคนคนใดคนหนึ่ง มันเป็นพวกเขาทุกคน หากให้ผมเปรียบเทียบพวกเขากับทีมอื่นๆ ที่ผมเคยคุม ผมว่าพวกเขาแกร่งที่สุดในแง่ของความเป็นมืออาชีพ และความรับผิดชอบ"
 
รอบตัดเชือก ฮอลแลนด์ จะดวลกับ อาร์เจนตินา ที่บดชนะ เบลเยียม 1-0 โดย ฟาน กัล บอกว่า "ผมให้ความเห็นถึงเกมในครึ่งหลังไม่ได้ เพราะผมได้ดูแค่ 5 นาที แต่ผมคิดว่า เบลเยียม เล่นดีกว่าในครึ่งแรก อาร์เจนตินา เป็นทีมที่สุดยอด ความสามารถเฉพาะตัวดี อย่าง เมสซี่ เป็นต้น แต่หากใครบอกว่า อาร์เจนตินา เป็นทีมที่เดินหน้าฆ่ามัน มันไม่ใช่แบบนั้นนะจากที่ผมเห็นในครึ่งแรก"