ขาด "ดิ มาเรีย" = ขาดใจ?
Posted 09/07/2014 by siamsport
ทีมฟ้า-ขาว ผ่านรอบคัดเลือกมาแบบยิงคู่แข่งกระจาย แต่ในรอบสุดท้ายกลับแตกต่างออกไป
แม้พวกเขาจะคว้าชัยได้ทุกนัดที่บราซิล จนตีตั๋วผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศฟุตบอลโลกได้เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ทัวร์นา เมนต์ที่อิตาลี 90 แต่เรื่องการยิงประตูยังคงไม่เป็นดั่งที่คาดหวัง
ชัยชนะแต่ละนัดได้มาด้วยผลต่างแค่ประตูเดียว และเป็นการชนะด้วยสกอร์ 1-0 ถึง 3 นัด
หนึ่งในนั้นเป็นเกมที่ต้องเล่นถึง 120 นาที ซึ่งกว่าจะเจาะแนวรับอันเหนียวแน่นของสวิตเซอร์แลนด์ เลือดตาแทบกระเด็น อีกทั้งยังเกือบโดนคู่แข่งเล่นงานจากลูกตั้งเตะด้วย
จากนั้นในรอบก่อนรองชนะเลิศที่พบเบลเยี่ยม ทีมฟ้า-ขาว แทบสร้างโอกาสแบบจะแจ้งไม่ได้เลย
โชคดีมาได้ประตูอันสุดสวยของกอนซาโล่ อิกวาอีน แล้วน่าจะปิดกล่องจากจังหวะหลุดเดี่ยวของลิโอเนล เมสซี่ ในช่วงท้ายเกม เมื่อคู่แข่งเปิดหน้าแลกแบบไม่มีอะไรจะต้องเสียแล้ว
แม้อาร์เจนติน่า ยังยิงประตูให้เห็นอย่างต่อเนื่อง แต่ประตูที่พวกเขาได้มาล้วนมาจากความยอดเยี่ยมของเมสซี่
อาการบาดเจ็บต้นขาของเซร์คิโอ อกวยโร่ "กุน" เป็นปัญหาที่ซาเบย่า ต้องหาทางออก หลังจากเขาเลือกให้ดาวยิงจากแมนเชสเตอร์ ซิตี้ เป็นหนึ่งในตัวรุกร่วมกับทั้งเมสซี่ และอิกวาอีน
การส่งเอเซเกล ลาเวซซี่ ลงเป็นตัวจริง กลับไม่อาจทำให้เกมรุกของทีมพัฒนาขึ้น
แล้วเมื่อมาถึงตอนนี้ ข่าวร้ายล่าสุดคือการต้องขาดอังเคล ดิ มาเรีย ที่จะพลาดเกมรอบรองชนะเลิศที่พบฮอลแลนด์ อย่างแน่นอนแล้ว
ดิ มาเรีย ที่โชว์ฟอร์มได้อย่างคงเส้นคงวากับต้นสังกัดอย่างเรอัล มาดริด เมื่อฤดูกาลที่แล้ว ถูกปรับให้เป็นมิดฟิลด์ตัวกลาง ซึ่งในทีมชาติเห็นประโยชน์เดียวกับที่เขาในระดับสโมสร
การลงมาเล่นลีกช่วยให้เขามีพื้นที่ในการขับเคลื่อนเกม จนกลายเป็นนักเตะอันดับ 3 ของฟุตบอลโลกครั้งนี้ที่มีค่าเฉลี่ยการเลี้ยงผ่านคู่แข่งดีสุด รองจากเมสซี่ (5.8) และอเล็กซิส ซานเชซ ของชิลี (5.5)
เขาปรับตัวได้เป็นอย่างดีในบทบาทใหม่ (แม้จะขยับไปเล่นทางกว้าง เมื่อเอล กุน บาดเจ็บ)
ด้วยการรับบอล และขับเคลื่อนเกมจากแดนกลางไปแดนหน้าด้วยความเร็วของฝีเท้า โดยเฉพาะการเจอทีมที่เน้นเกมรับ ความเร็วในการพาบอลมักสร้งปัญหาให้กับแนวรับคู่แข่งอย่างมาก
มีเพียงคาริม เบนเซม่า (31) ที่ง้างเท้ายิงในบอลโลกครั้งนี้มากกว่าดิ มาเรีย (24)
กระนั้นดาวเตะอาร์เจนไตน์กลับยิงได้แค่ประตูเดียวจากจังหวะการผ่านแบบแม่นยำของเมสซี่ แลเป็นประตูชัยให้ทีม
ดิ มาเรีย ยิงไป 12 ครั้งในนัดนั้น แต่ส่วนมากเป็นการยิงจากนอกกรอบเขตโทษที่ไม่เข้าเป้า และเช่นกันมีแค่เบนเซม่า (8) ที่ยิงบอลจากนอกเขตโทษมากกว่าดิ มาเรีย (7) ตลอดทั้งทัวร์นาเมนต์
แน่นอน นี่อาจไม่ใช่เหตุผลที่บอกว่าเขาควรพลาดเกมพบทีมอัศวินสีส้มในรอบตัดเชือก
ทั้งสองทีมต่างเจอปัญหาเหมือนๆ กัน ในการต่อสู้กับแนวรับที่ลงไปรับลึก โดยเฉพาะเมื่อเข้าถึงรอบน็อกเอาต์ ดังนั้นหลายครั้งประตูที่ได้มา เป็นการเล่นแบบฉาบฉวยหรือหาจังหวะสวนกลับ
การขาดดิ มาเรีย ในนัดนี้ย่อมทำให้งานของอาร์เจนติน่า หนักขึ้น เพราะทีมคงต้องหวังพึ่งพาเมสซี่ แบบเต็มๆ อีกทั้งอกวยโร่ ยังไม่ฟิตเต็มร้อย
เช่นเดียวกับลาเวซซี่ ยังไม่ได้แสดงความเชื่อมั่นในการทดแทน ดังนั้นในตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวกลางอาจต้องส่งเอ็นโซ่ เปเรซ ลงเป็นตัวจริงในตำแหน่งของดิ มาเรีย
ฮาเวียร์ มาสเชราโน่ คอยคุมเกมแดนกลางร่วมกับลูกัส บีญ่า หรือเฟร์นานโด กาโก้ ที่พร้อมแย่งตำแหน่งตัวจริงกลับมา และอีกหนึ่งตำแหน่งเป็นของเปเรซ ที่ได้ลงสนาม 67 นาทีในแมตช์ชนะเบลเยี่ยม
การขาดดิ มาเรีย เริ่มเห็นผลกระทบ เพราะทีมยิง 5 ครั้งในช่วง 33 นาที ที่ดิ มาเรีย อยู่ในสนาม
ขณะเดียวกันอีก 67 นาทีที่เหลือทีมสร้างโอกาสยิงในตัวเลขเท่ากัน เมื่อเปเรซ ถูกส่งลงมาเล่น
อาจเป็นธรรมดา ที่อาร์เจนติน่า ผ่อนเกมบุกลงเพราะได้เปรียบที่สกอร์นำ 1-0 แต่จุดที่บ่งบอกได้ชัดเจนคือเปอร์เซนต์การครองบอลที่ลดลงจาก 51% ในครึ่งแรกมาเป็น 46% ในครึ่งหลัง
ดิ มาเรีย เป็นนักเตะที่มีเอกลักษณ์ ซึ่งอาร์เจนติน่า ยังไม่อาจหาตัวแทนเขาได้
อาจมีแค่เมสซี่ คนเดียวเท่านั้นที่มีความสำคัญกกว่า โดยเฉพาะในแมตช์ใหญ่แบบนี้ กระนั้นคำถามที่เกิดขึ้นคือทีมจะแก้ปัญหาอย่างไรเมื่อดิ มาเรีย บาดเจ็บ?
แผนการคือการให้เมสซี่ มีส่วนกับเกมมากกว่าเดิม จากการที่ตัวเขาจะซัดไปแล้ว 4 ประตู และเป็นผู้นำสถิติการมีประสิทธิภาพในการทำประตูมากสุด จากโอกาสยิง 6 ครั้ง ที่เปลี่ยนเป็น 4 ประตู
นอกจากนั้น ดาวเตะบาร์ซ่า ยังผ่านบอลในจังหวะสำคัญมากถึง 19 ครั้ง มากกว่าทุกคนในทัวร์นาเมนต์
นั่นเป็นเพราะดิ มาเรีย มีส่วนสำคัญในการช่วยงานของเมสซี่ แล้วเมื่อต้องเปลี่ยนมาเป็นเอ็นโซ่ เปเรซ เขาจะสามารถเดินเกมบุกช่วยทีมด้วยความรวดเร็วเหมือนอย่างทีมเคยทำได้หรือไม่
คงไม่มีความลับอะไรถึงความยอดเยี่ยมในเกมบุกของอาร์เจนติน่า โดยเแพาะหากได้เอล กุน ฟิตกลับมา
แต่จุดสำคัญคือการคุมเกมในแดนกลาง ที่ต้องระวังการเสียบอล แล้วโดนจังหวะสวนกลับของฮอลแลนด์ เล่นงาน ยิ่งทัพดัตช์แสดงให้เห็นในเกมเปิดหัวกับสเปน ที่เน้นรับลึก แล้วเข้าบอลเร็วในแดนกลาง ยิ่งเป็นการลดพื้นที่ทำเกมของเมสซี่ ด้วย
หากทีมของซาเบย่า อยู่ในสถานการณ์ตกเป็นรองยิ่งเป็นงานหนักเข้าไปอีก ในเมื่อฮอลแลนด์ คงพึงพอใจกับการนำแค่ประตูเดียว
แล้วทีมฟ้า-ขาว ยังไม่เคยเจอกับบททดสอบนี้มาก่อน ในเมื่อพวกเขาเป็นทีมเดียวที่เหลืออยู่ในทัวร์นาเมนต์ที่ไม่เคยตกเป็นรองคู่ แข่งเลยในฟุตบอลโลกครั้งนี้ เมื่อไม่มีดิ มาเรีย ช่วยงานเมสซี่ คงเป็นอะไรที่ยากจินตนาการ
อย่างไรก็ตาม ทีมระดับอาร์เจนติน่า ที่มีลิโอเนล เมสซี่ อยู่ในทีมยังคงอีนตรายเสมอ
แน่นอนพวกเขายังคงมั่นใจอย่างเต็มเปี่ยมก่อนเกมพบฮอลแลนด์ ในรอบรองชนะเลิศ เพราะการขาดดิ มาเนีย แค่ทำให้งานของพวกเขายากขึ้นเล็กน้อยเท่านั้น
:: เอล นินโญ่ ::
สถิติ "ดิ มาเรีย" ในบอลโลก 2014
ลงเล่น : 5 นัด
ประตู/แอสซิสต์ : 1/0
ยิงต่อเกม : 4.8
จ่ายจังหวะสำคัญต่อเกม : 2.2
เลี้ยงผ่านคู่แข่งต่อเกม : 5
ผ่านบอลต่อเกม : 48.4
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
ลุยซ์เศร้าบราซิลแพ้ยับอดชิงบอลโลก
ดาวิด ลุยซ์ กองหลังค่าตัวแพง เปิดใจสุดผิดหวังที่ทำให้แฟนบอลชาวบราซิเลียนต้องเศร้าใจ หลังไม่สามารถนำ บราซิล เข้ารอบชิงชนะเลิศ ศึกฟุตบอลโลก 2014 เนื่องจากโดน เยอรมัน ไล่ถลุงยับเยิน 1-7 ในรอบตัดเชือกเมื่อวันอังคารที่ผ่านมาหมดสภาพ!บราซิลพ่ายเละสุดในประวัติศาสตร์
เกม ฟุตบอลโลก 2014 รอบตัดเชือก นัดที่ เยอรมัน ไล่ถล่ม บราซิล 7-1 เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ถือเป็นความพ่ายแพ้ที่ขาดลอยที่สุดของ "เซเลเซา" เทียบเท่ากับสถิติเมื่อปี 1920 นอกจากนี้ นี่ยังเป็นครั้งแรกในรอบมากกว่า 38 ปี ที่ บราซิล พบกับความพ่ายแพ้ในเกมที่มีความหมายคาบ้านของพวกเขาเองดูชัดๆ16ประตูบอลโลกโคลเซ่!ทุบสถิติเก่าโด้
มิโรสลาฟ โคลเซ่ หัวหอกทีมชาติเยอรมนี กลายเป็นเจ้าของสถิติเดี่ยวในการทำประตูในศึก ฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย ได้มากที่สุด ที่จำนวน 16 ลูก ทำลายสถิติ โรนัลโด้ อดีตยอดดาวเตะชาวบราซิเลียน 15 ประตูเรียบร้อย โดยเขายังเป็นคนที่ 3 ที่มีชื่อทำสกอร์ในการแข่ง ฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย ถึง 4 ทัวร์นาเมนต์ไม่ไว้หน้าเจ้าภาพ!เยอรมันไล่ถลุงบราซิล7-1
"ทีมอินทรีเหล็ก" เยอรมัน โชว์ฟอร์มชนิดเหนือคำบรรยายด้วยการไล่ถล่ม "เจ้าภาพ" บราซิล ไปแบบไม่ไว้หน้า 7-1 ผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศได้อย่างสวยหรู ในเกมฟุตบอลโลก รอบรองชนะเลิศ เมื่อวันอังคารที่ 8 กรกฎาคม ที่ผ่านมาฟุตบอลโลก รอบรองชนะเลิศวันอังคารที่ 8 กรกฎาคม 2557บราซิล 1-7 เยอรมันสนาม: เอสตาดิอู มิไนเรา, (เบโล โอรีซอนชี, บราซิล)<% response.ContentType="text/html; charset=tis-620"%> เริ่มเกมการแข่งขัน ...
TOP 5 ข่าวในรอบ 3 วัน
อัลบั้มภาพเด็ดๆ
มาย ฮาเร็ม ส่งภาพเขย่าโซเชียล นุ...
เจนนี่ ธมนภัค พริตตี้สุดฮอต นุ่ง...
ฮาน่า ฮาอึน ชอง ดาว TikTok สาวสว...
นาฟ ฉัฐนันท์ ปล่อยแซ่บท้าลมหนาว ...
เต็มที่แล้ว! ไทย พ่าย อุซเบกิสถา...
ตัดเกรด นักเตะไทย เกมเสมอ โอมาน ...
คลิปไฮไลท์