ฟุตบอล » ลีกคัพอื่นๆ » ชำแหละซาก...กาแฟก้นถุง
ชำแหละซาก...กาแฟก้นถุง
Posted 11/07/2014 by siamsport
หายช็อกกันหรือยัง? ทั่วทุกหัวระแหงในแดนแซมบ้า ราวถูกกระหน่ำซ้ำเติม ประเทศมีปัญหาทางสังคมและเศรษฐกิจมากพออยู่แล้ว และการรับหน้าเสื่อในฐานะเจ้าภาพไม่ได้รับการขานรับจากทุกฝ่าย หนทางเดียวที่พอทุเลาความเดือดดาลของกลุ่มที่ไม่เห็นด้วยคือการคว้าแชมป์ ใช่! แชมป์คือเป้าหมายเดียวเท่านั้นสำหรับบราซิล!
อีเวนต์ "บ้านแห่งฟุตบอล" ครอบงำไปทั่ว ในฐานะเจ้าภาพทัวร์นาเมนต์ใหญ่ที่สุดในโลก
อย่าง ไรก็ตาม อาการบาดเจ็บของ เนย์มาร์ ทำให้เขาปิดฉากทัวร์นาเมนต์นี้เร็วเกินคาด ความมั่นใจที่มีต่อแชมป์โลก 5 สมัยถดถอยลง กระนั้น การเล่นต่อหน้าแฟนบอลตัวเองทำให้โอกาสคว้าแชมป์สมัยที่ 6 ยังอยู่ในมือ แม้การเสียซูเปอร์สตาร์ก่อนหน้าเกมกับเยอรมัน เป็นการบอกกลายๆ กับแฟนบอลถึงการเตรียมตัวเตรียมใจหากทุกอย่างไม่เป็นอย่างฝัน อย่างไรก็ดี ไม่มีใครคาดคิดถึงสกอร์ 1-7 อันยับเยินมาก่อน
ตอนนี้ ถึงเวลาตั้งสติกันใหม่ และด้วยความหวังอย่างเต็มเปี่ยม บราซิล ยังคงเป็นชาติเดียวที่โลดแล่นในฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย "ไม่มีบราซิล ไม่ใช่ฟุตบอลโลก" การตัดสินใจและเปลี่ยนแปลงอาจต้องการเวลา ขณะที่ เยอรมัน นี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขามีสิทธิ์สูดกลิ่นโทรฟี่นับตั้งแต่ยูโร 96
บราซิลแพ้เพราะอะไร? นี่เป็นเวลาชำแหละทัพ "เซเลเซา" เจ้าของสถิติแพ้มากที่สุดตลอดกาล
1. แชมป์คอนเฟดเดอเรชั่นส์ คัพ
บราซิล คว้าแชมป์คอนเฟดเดอเรชั่นส์ คัพ ในประเทศตัวเองเมื่อ 1 ปีก่อน และทีมในนัดชิงชนะเลิศที่ไล่ต้อนสเปน 3-0 ก็เป็นผู้เล่นกับที่ใช้ในนัดเปิดสนามฟุตบอลโลกปีนี้
อย่างไรก็ดี นั่นเสมือนหอกกลับมาทิ่มแทงตัวเอง การขาดแมตช์อย่างเป็นทางการรวมถึงอาการเห่อเหิมในชัยชนะเหนือ "กระทิงดุ" ส่งผลต่อมุมมองของสโคลารี่อย่างชัดเจน เขายังยึดมั่นในตัวเปาลินโญ่ ให้เป็นตัวหลักในฟุตบอลโลก ทั้งที่เจ้าตัวเพิ่งผ่านฤดูกาลอันเลวร้ายกับ ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ ด้วยผลงานที่มีคะแนนเฉลี่ยเพียง 6.87 และมันส่งผลต่อความมั่นใจของเขาตั้งแต่ก่อนทัวร์นาเมนต์
เปรียบ เทียบกับ แฟร์นันดินโญ่ (7.38) แล้ว มิดฟิลด์จากแมนฯ ซิตี้ สมควรเป็นตัวจริงมากกว่า ความสำเร็จเมื่อ 12 เดือนก่อนคือภาพลวงตาโดยแท้ มันเป็นหลุมพรางล่อหลอกให้ "บิ๊กฟิล" ตาพล่ามัวและไม่ได้เตรียมการให้พรักพร้อมสำหรับผู้เล่นของเขา
2. ศูนย์หน้า...ซากเรียกพี่
นี่เป็นปัญหาของหลายทีมในฟุตบอลโลกครั้งนี้ ในการขาดศูนย์หน้าธรรมชาติที่มีคุณภาพเพียงพอ เช่นเดียวกับเจ้าภาพอย่างบราซิล
เฟร็ด ศูนย์หน้าจากฟลูมิเนนเซ่ กลายเป็นดาวซัลโวสูงสุดร่วมในคอนเฟดเดอร์เรชั่นส์ คัพ เมื่อปีที่แล้ว (5 ประตูเท่ากับ เฟร์นานโด ตอร์เรส ของสเปนและทำ 1 แอสซิสต์ทั้งคู่ แต่ตอร์เรสลงเล่นเป็นจำนวนนาทีน้อยกว่า) เป็นมือวางอันดับ 1 ของทีมด้วยความหวังว่าเขาจะทำสำเร็จอีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม อดีตกองหน้าโอลิมปิก ลียง โชว์ฟอร์มได้อย่างน่าผิดหวัง และผลงาน 1 ประตูจากลูกโขกจ่อๆ ในเกมกับแคเมอรูน จากโอกาสทั้งหมด 12 ครั้ง ถือว่าน่าผิดหวัง เช่นเดียวกับการผ่านบอลสำเร็จแค่ 71 ครั้งจาก 6 แมตช์ (เฉลี่ยนัดละ 11.8) ประทานโทษนะฮะ ตัวเลขนี้รวมถึงการเขี่ยบอลด้วย! (ซึ่งเขาเป็นคนเขี่ยอย่างน้อย 1 ครั้งในแต่ละเกม)
เราไม่อาจ พิพากษากองหน้าจากจำนวนประตูเท่านั้น หากเขาลงมาต่ำเพื่อมีส่วนร่วมในการปั้นเกม โถ...โลกสวยเอาโล่หรือไงพ่อคุณ! ผลงานสร้างโอกาสแค่ 3 ครั้งตลอดทั้งทัวร์นาเมนต์ของเฟร็ด รวมทั้งการมีโอกาสยิงมากกว่าทีมอื่นๆ ดูอย่างไรก็ต้องถือว่าล้มเหลว
ก๊อกสอง โช อดีตกองหน้าเอฟเวอร์ตันและแมนฯ ซิตี้ ผลงานไม่ดีกว่ากันจากจำนวน 0 ประตู และผ่านบอลสำเร็จแค่ 40 เปอร์เซนต์
ในประเทศที่บ้าคลั่งฟุตบอล และมีประชาชนกว่า 200 ล้านชีวิต พวกเขาน่าผลิตศูนย์หน้าที่มีคุณภาพดีกว่าได้ในอีก 4 ปีข้างหน้า
3. นายประตู...น้ำ
ขณะ ที่ ชูลิโอ เซซาร์ ก้มเก็บบอลที่ก้นตาข่าย 7 ครั้ง มานูเอล นอยเออร์ พิสูจน์ให้เห็นว่าคู่ควรกับรางวัลถุงมือทองคำ และโกลเดนบอล อวอร์ดส์
บราซิล มีโอกาสยิง 4 ครั้งในเกมกับเยอรมัน แต่นอยเออร์ไม่สะทกสะท้าน เขาสัมผัสบอล 59 ครั้ง มากที่สุดเป็นอันดับ 6 ของผู้เล่นเยอรมัน และเขาพร้อมขยับออกจากเส้นในฐานะสวีปเปอร์ตัวสุดท้ายเมื่อเพื่อนร่วมทีมดัน ขึ้นสูง นั่นเป็นสิ่งที่ชัดเจนว่า เขาเหนือกว่าเซซาร์
นายทวารแซม บ้าปัดลูกยิงครั้งแรกของ มิโรสลาฟ โคลเซ่ ไว้ได้ แต่ไม่อาจต้านทานการซ้ำดาบสอง เมื่อกองหลังหายหัวกันไปหมด นอกจากนั้น เซซาร์ยังน่าทำผลงานได้ดีกว่าในการปัดป้องลูกยิงของ อันเดร เชือร์เล่ ที่ตะบันเช็ดใต้คานในประตูปิดท้าย แน่นอน ส่วนหนึ่งแห่งความยับเยินมาจากแนวรับอันหละหลวม แต่ความจริงอีกอย่างที่ต้องยอมรับคือ เซซาร์พ้นช่วงพีกของตัวเองไปเนิ่นนานแล้ว
4. ดาวิด ลุยซ์...ถุย!
ด้วย ค่าตัวระห่ำ 50 ล้านปอนด์ของ ดาวิด ลุยซ์ ในการย้ายจากเชลซีไปอยู่กับ ปารีส-แซงต์ แชร์กแมง ดาวเตะหัวฟูย่อมถูกคาดหวังถึงฟอร์มการเล่นอันยอดเยี่ยมสำหรับฟุตบอลโลกใน บ้านตัวเอง
ความผิดพลาดหลายครั้งในเกมกับเยอรมัน ก่อให้เกิดคำถามถึงคุณภาพของลุยซ์ อย่างไรก็ตาม ในฐานะกัปตัน ลุยซ์ย่อมรู้สึกเจ็บปวดมากกว่าลูกทีม เขาวิ่งแหลกทั้งช่วงมีบอลและไม่มีบอล พยายามจ่ายบอลยาวถึง 20 ครั้งเมื่อบราซิลต้องการครองบอลและเปิดเกมจากแนวรับ นอกจากนั้นเขาเสียฟาวล์ 3 ครั้ง และมีสิทธิ์โดนไล่ออก หากการชักศอกใส่โคลเซ่ถูกเป่าเป็นจังหวะฟาวล์ การยืนเคียงข้าง ติอาโก้ ซิลวา ทำให้เขาดูแข็งแกร่งตามไปด้วย แต่อย่างที่เห็นหลายครั้งในชุดสิงห์บลูส์ ลุยซ์ไม่อาจควบคุมแนวรับได้อย่างเรียบวุธ หากปราศจากคู่ขาที่ดีพอ
อีเวนต์ "บ้านแห่งฟุตบอล" ครอบงำไปทั่ว ในฐานะเจ้าภาพทัวร์นาเมนต์ใหญ่ที่สุดในโลก
อย่าง ไรก็ตาม อาการบาดเจ็บของ เนย์มาร์ ทำให้เขาปิดฉากทัวร์นาเมนต์นี้เร็วเกินคาด ความมั่นใจที่มีต่อแชมป์โลก 5 สมัยถดถอยลง กระนั้น การเล่นต่อหน้าแฟนบอลตัวเองทำให้โอกาสคว้าแชมป์สมัยที่ 6 ยังอยู่ในมือ แม้การเสียซูเปอร์สตาร์ก่อนหน้าเกมกับเยอรมัน เป็นการบอกกลายๆ กับแฟนบอลถึงการเตรียมตัวเตรียมใจหากทุกอย่างไม่เป็นอย่างฝัน อย่างไรก็ดี ไม่มีใครคาดคิดถึงสกอร์ 1-7 อันยับเยินมาก่อน
ตอนนี้ ถึงเวลาตั้งสติกันใหม่ และด้วยความหวังอย่างเต็มเปี่ยม บราซิล ยังคงเป็นชาติเดียวที่โลดแล่นในฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย "ไม่มีบราซิล ไม่ใช่ฟุตบอลโลก" การตัดสินใจและเปลี่ยนแปลงอาจต้องการเวลา ขณะที่ เยอรมัน นี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขามีสิทธิ์สูดกลิ่นโทรฟี่นับตั้งแต่ยูโร 96
บราซิลแพ้เพราะอะไร? นี่เป็นเวลาชำแหละทัพ "เซเลเซา" เจ้าของสถิติแพ้มากที่สุดตลอดกาล
1. แชมป์คอนเฟดเดอเรชั่นส์ คัพ
บราซิล คว้าแชมป์คอนเฟดเดอเรชั่นส์ คัพ ในประเทศตัวเองเมื่อ 1 ปีก่อน และทีมในนัดชิงชนะเลิศที่ไล่ต้อนสเปน 3-0 ก็เป็นผู้เล่นกับที่ใช้ในนัดเปิดสนามฟุตบอลโลกปีนี้
อย่างไรก็ดี นั่นเสมือนหอกกลับมาทิ่มแทงตัวเอง การขาดแมตช์อย่างเป็นทางการรวมถึงอาการเห่อเหิมในชัยชนะเหนือ "กระทิงดุ" ส่งผลต่อมุมมองของสโคลารี่อย่างชัดเจน เขายังยึดมั่นในตัวเปาลินโญ่ ให้เป็นตัวหลักในฟุตบอลโลก ทั้งที่เจ้าตัวเพิ่งผ่านฤดูกาลอันเลวร้ายกับ ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ ด้วยผลงานที่มีคะแนนเฉลี่ยเพียง 6.87 และมันส่งผลต่อความมั่นใจของเขาตั้งแต่ก่อนทัวร์นาเมนต์
เปรียบ เทียบกับ แฟร์นันดินโญ่ (7.38) แล้ว มิดฟิลด์จากแมนฯ ซิตี้ สมควรเป็นตัวจริงมากกว่า ความสำเร็จเมื่อ 12 เดือนก่อนคือภาพลวงตาโดยแท้ มันเป็นหลุมพรางล่อหลอกให้ "บิ๊กฟิล" ตาพล่ามัวและไม่ได้เตรียมการให้พรักพร้อมสำหรับผู้เล่นของเขา
2. ศูนย์หน้า...ซากเรียกพี่
นี่เป็นปัญหาของหลายทีมในฟุตบอลโลกครั้งนี้ ในการขาดศูนย์หน้าธรรมชาติที่มีคุณภาพเพียงพอ เช่นเดียวกับเจ้าภาพอย่างบราซิล
เฟร็ด ศูนย์หน้าจากฟลูมิเนนเซ่ กลายเป็นดาวซัลโวสูงสุดร่วมในคอนเฟดเดอร์เรชั่นส์ คัพ เมื่อปีที่แล้ว (5 ประตูเท่ากับ เฟร์นานโด ตอร์เรส ของสเปนและทำ 1 แอสซิสต์ทั้งคู่ แต่ตอร์เรสลงเล่นเป็นจำนวนนาทีน้อยกว่า) เป็นมือวางอันดับ 1 ของทีมด้วยความหวังว่าเขาจะทำสำเร็จอีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม อดีตกองหน้าโอลิมปิก ลียง โชว์ฟอร์มได้อย่างน่าผิดหวัง และผลงาน 1 ประตูจากลูกโขกจ่อๆ ในเกมกับแคเมอรูน จากโอกาสทั้งหมด 12 ครั้ง ถือว่าน่าผิดหวัง เช่นเดียวกับการผ่านบอลสำเร็จแค่ 71 ครั้งจาก 6 แมตช์ (เฉลี่ยนัดละ 11.8) ประทานโทษนะฮะ ตัวเลขนี้รวมถึงการเขี่ยบอลด้วย! (ซึ่งเขาเป็นคนเขี่ยอย่างน้อย 1 ครั้งในแต่ละเกม)
เราไม่อาจ พิพากษากองหน้าจากจำนวนประตูเท่านั้น หากเขาลงมาต่ำเพื่อมีส่วนร่วมในการปั้นเกม โถ...โลกสวยเอาโล่หรือไงพ่อคุณ! ผลงานสร้างโอกาสแค่ 3 ครั้งตลอดทั้งทัวร์นาเมนต์ของเฟร็ด รวมทั้งการมีโอกาสยิงมากกว่าทีมอื่นๆ ดูอย่างไรก็ต้องถือว่าล้มเหลว
ก๊อกสอง โช อดีตกองหน้าเอฟเวอร์ตันและแมนฯ ซิตี้ ผลงานไม่ดีกว่ากันจากจำนวน 0 ประตู และผ่านบอลสำเร็จแค่ 40 เปอร์เซนต์
ในประเทศที่บ้าคลั่งฟุตบอล และมีประชาชนกว่า 200 ล้านชีวิต พวกเขาน่าผลิตศูนย์หน้าที่มีคุณภาพดีกว่าได้ในอีก 4 ปีข้างหน้า
3. นายประตู...น้ำ
ขณะ ที่ ชูลิโอ เซซาร์ ก้มเก็บบอลที่ก้นตาข่าย 7 ครั้ง มานูเอล นอยเออร์ พิสูจน์ให้เห็นว่าคู่ควรกับรางวัลถุงมือทองคำ และโกลเดนบอล อวอร์ดส์
บราซิล มีโอกาสยิง 4 ครั้งในเกมกับเยอรมัน แต่นอยเออร์ไม่สะทกสะท้าน เขาสัมผัสบอล 59 ครั้ง มากที่สุดเป็นอันดับ 6 ของผู้เล่นเยอรมัน และเขาพร้อมขยับออกจากเส้นในฐานะสวีปเปอร์ตัวสุดท้ายเมื่อเพื่อนร่วมทีมดัน ขึ้นสูง นั่นเป็นสิ่งที่ชัดเจนว่า เขาเหนือกว่าเซซาร์
นายทวารแซม บ้าปัดลูกยิงครั้งแรกของ มิโรสลาฟ โคลเซ่ ไว้ได้ แต่ไม่อาจต้านทานการซ้ำดาบสอง เมื่อกองหลังหายหัวกันไปหมด นอกจากนั้น เซซาร์ยังน่าทำผลงานได้ดีกว่าในการปัดป้องลูกยิงของ อันเดร เชือร์เล่ ที่ตะบันเช็ดใต้คานในประตูปิดท้าย แน่นอน ส่วนหนึ่งแห่งความยับเยินมาจากแนวรับอันหละหลวม แต่ความจริงอีกอย่างที่ต้องยอมรับคือ เซซาร์พ้นช่วงพีกของตัวเองไปเนิ่นนานแล้ว
4. ดาวิด ลุยซ์...ถุย!
ด้วย ค่าตัวระห่ำ 50 ล้านปอนด์ของ ดาวิด ลุยซ์ ในการย้ายจากเชลซีไปอยู่กับ ปารีส-แซงต์ แชร์กแมง ดาวเตะหัวฟูย่อมถูกคาดหวังถึงฟอร์มการเล่นอันยอดเยี่ยมสำหรับฟุตบอลโลกใน บ้านตัวเอง
ความผิดพลาดหลายครั้งในเกมกับเยอรมัน ก่อให้เกิดคำถามถึงคุณภาพของลุยซ์ อย่างไรก็ตาม ในฐานะกัปตัน ลุยซ์ย่อมรู้สึกเจ็บปวดมากกว่าลูกทีม เขาวิ่งแหลกทั้งช่วงมีบอลและไม่มีบอล พยายามจ่ายบอลยาวถึง 20 ครั้งเมื่อบราซิลต้องการครองบอลและเปิดเกมจากแนวรับ นอกจากนั้นเขาเสียฟาวล์ 3 ครั้ง และมีสิทธิ์โดนไล่ออก หากการชักศอกใส่โคลเซ่ถูกเป่าเป็นจังหวะฟาวล์ การยืนเคียงข้าง ติอาโก้ ซิลวา ทำให้เขาดูแข็งแกร่งตามไปด้วย แต่อย่างที่เห็นหลายครั้งในชุดสิงห์บลูส์ ลุยซ์ไม่อาจควบคุมแนวรับได้อย่างเรียบวุธ หากปราศจากคู่ขาที่ดีพอ
ทีมที่มีผลงานแย่ที่สุดในบอลโลก 2014 บราซิล (พบเยอรมัน) 5.91 โปรตุเกส (พบเยอรมัน) 5.94 สเปน (พบฮอลแลนด์) 5.98 ฮอนดูรัส (พบฝรั่งเศส) 6.00 ออสเตรเลีย (พบสเปน) 6.06 |
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
วอร์มอัพรับนัดชิงแชมป์โลก
ฟุตบอลโลก 2014 ครั้งนี้ ได้คู่ชิงชนะเลิศเรียบร้อยแล้วคือ เยอรมัน กับ อาร์เจนติน่า โดยเตรียมหวดกันที่ มาราคาน่า ในวันอาทิตย์ที่ 13 ก.ค.นี้ และต่อไปนี้คือสถิติน่ารู้เกี่ยวกับเกมหยุดโลกคู่นี้
TOP 5 ข่าวในรอบ 3 วัน
อัปเดตตลาดนักเตะ 31 ธ.ค. 67 : หอกม้าขาวเนื้อหอม, เชลซี โละเพียบ
เวสต์แฮม พบ ลิเวอร์พูล ! บอสอาร์เน่อชื่นใจหงส์ยำค้อนพร้อมคลีนชีต
เพื่อความสำเร็จ! อาหมัด ดิยัลโล่ รับตอนนี้สุดสุขเล่นให้แมนยู
อัปเดตตลาดนักเตะ 1 ม.ค. 68 : ลิเวอร์พูล ปัดขาย เทรนต์, อาร์เซน่อล เล็ง เบลลิงแฮม !!!
แมนยู พบ นิวคาสเซิ่ล ! 5 ประเด็นผีคาบ้านส่งท้ายปีสานต่อสถิติสุดอนาถ
อัลบั้มภาพเด็ดๆ
แม่เจ้าโว้ย! นักร้องสาวนุ่งบิกิน...
มาย ฮาเร็ม ส่งภาพเขย่าโซเชียล นุ...
เจนนี่ ธมนภัค พริตตี้สุดฮอต นุ่ง...
ฮาน่า ฮาอึน ชอง ดาว TikTok สาวสว...
นาฟ ฉัฐนันท์ ปล่อยแซ่บท้าลมหนาว ...
เต็มที่แล้ว! ไทย พ่าย อุซเบกิสถา...
คลิปไฮไลท์