บราซิล - ฮอลแลนด์ คู่แค้นในความทรงจำ
Posted 12/07/2014 by siamsport
ในยุคปี 1974 ผู้เขียนเพิ่งเกิด เลยไม่ได้ชมเกมที่พบกัน ตามข้อมูลนั้นเป็นการเจอกันในรอบ 3 สมัย ก่อนมีการเปลี่ยนแปลงระบบการเล่นบ่อย โดยปี 1974 นั้น ภายหลังรอบแบ่งกลุ่มรอบแรกแล้ว (รวม 16 ทีม) อันดับ 1 และ 2 แต่ละกลุ่ม (รวม 8 ทีม) จะถูกนำมาเข้ากลุ่มอีกในรอบแบ่งกลุ่มรอบ 2 กลุ่มละ 4 ทีม แชมป์แต่ละกลุ่มได้เข้าชิงชนะเลิศ ส่วนรองแชมป์กลุ่มชิงอันดับ 3
1974 : "อัศวินสีส้ม" เจอกับ "แซมบ้า" ในนัดสุดท้ายของรอบ 2 นี่เอง ก่อนแข่งนั้น นักเตะดัตช์มี 4 แต้ม จากการชนะมาสองนัดรวดแล้วไม่เสียประตูเลย ผลต่างประตูได้-เสีย +6 ส่วนนักเตะกาแฟมี 4 คะแนนเช่นกัน แต่ +2 (ได้ 3, เสีย 1) ดังนั้นเงื่อนไขเดียวของแซมบ้าคือต้องชนะเท่านั้น ส่วนทีมสีส้มแค่เสมอก็จะได้เข้าชิงชนะเลิศ แต่แล้ว นาทีที่ 50 จากจังหวะที่ดัตช์ได้ลูกฟาวล์ในแดนตัวเองและเล่นเร็วทันที "โยฮัน นีสเก้นส์" รับลูกกึ่งกลางแดนบราซิลแล้วตบออกทางขวา "โยฮัน ครัฟฟ์" ไหลกลับมาตรงกรอบเขตโทษแล้ว นีสเก้นส์วิ่งมาล้มตัวสไลด์ยิงเสียบใต้คานเสาสองอย่างงดงาม และน.65 ครัฟฟ์ก็ซัดเองบ้าง แปชาร์จด้วยขวาจ่อๆ ไม่เหลือ จบเกมฮอลแลนด์ชนะ 2-0 ได้เข้าชิงชนะเลิศ แม้ว่าท้ายสุดต้องผิดหวังพ่ายต่อเยอรมันตะวันตก 1-2 ก็ตาม แฮนดิแคปสมัยนั้นยังไม่มี หากนับเป็นราคาก็คง เสมอหรือฮอลแลนด์ต่ออย่างมากป.ป. แล้วอัศวินสีส้มก็ได้ตามระเบียบหากเป็นการทายผลในยุคปัจจุบัน
1994 : เอาคู่ที่ผู้เขียนเกิดทันและได้ดูเต็ม 90 นาทีบ้าง เป็นการเจอกันในรอบก่อนรองชนะเลิศ 94 ที่สหรัฐฯ จัดว่าเป็นหนึ่งในเกมสุดมันของคู่นี้นัดหนึ่ง ครึ่งแรก 0-0 ก็จริง แต่ครึ่งหลัง แซมบ้านำ 2 ลูกรวดจาก "โรมาริโอ" น.53 และ "เบเบโต้" น.63 ประตูแรกนั้นเป็นการวางบอลยาวให้เบเบโต้หลุดไปทางด้านซ้ายก่อนปาดเข้าไปใน เขตโทษ และ โรมาริโอชาร์จแบบโล่งๆ ไม่พลาด
ส่วนประตูที่สองนั้น ฮอลแลนด์เปิดบอลยาวไปในแแดนบราซิลแล้วถูกโหม่งสวนกลับมา "โรมาริโอ" เดินย้อนกลับมาจากตำแหน่งล้ำหน้าแต่มิใช่คนเล่นบอล ซึ่งตอนนั้นกระแสกฎใหม่ที่ว่า นักเตะซึ่งไม่ได้เกี่ยวข้องกับการเล่น แม้ว่ายืนล้ำหน้าอยู่ก็จะถือว่าไม่ล้ำหน้า ทำให้ "โรนัลด์ คูมัน" ขาตาย "เบเบโต้" วิ่งสอดขึ้นมาจากด้านหลังแล้วก็รับบอลกระชากไปหลบผู้รักษาประตูและยิงอย่าง เหนือชั้น ก่อนวิ่งไปดีใจท่าอุ้มลูกข้างสนามจนเป็นที่ฮือฮามากในเวลาดังกล่าว เป็นอะไรที่ทำให้คูมันวิ่งปรี่เข้าไปหา "โรดริโก้ บาดิลยา" เชิ้ตดำชาวคอสตาริกาแบบไม่ลดราวาศอก
อย่างไรก็ตาม นาทีถัดมา "เดนนิส เบิร์กแคมป์" ยิงไล่มาเป็น 1-2 จากลูกทุ่มเข้าไปในเขตโทษด้านซ้าย หัวหอกตัวเก่งดัตช์ได้ลูกแล้วหลุดทะลุเข้าไป ก่อนซัดเสียบเสาสองอย่างเหนือชั้น จากนั้น น.76 "อารอน วินเตอร์"โขกลูกเตะมุมเข้าไปเป็น 2-2
แต่แล้ว 5 นาทีต่อมา จากจังหวะที่ "บรังโก้" โดนทำฟาวล์ระยะ 26-27 เมตร แล้วอีซ้ายมหากาฬก็ซัดเต็มเหนี่ยว ลูกพุ่งเรียดเสียบโคนเสาซ้ายของ เอ เดฮอย นายทวาร ทำให้บราซิลชนะ 3-2 ก่อนทะลุไปจนเป็นแชมป์โลกปีนั้น เรียกว่าเป็นหนึ่งในเกมที่ผู้เล่นกังหันลมแค้นไปอีกนาน ในแง่ของราคาต่อรอง ก็น่าเป็นแซมบ้าต่อครึ่งลูกเท่านั้นหรืออย่างมากสุดไม่เกินครึ่งควบลูก ซึ่งแน่นอนคงวางบราซิเลียนก็ได้ไป
1998 : เป็น รอบรองชนะเลิศ ที่สนามสต๊าด เวโรโดรม เมืองมาร์กเซย เซเลเซา นำก่อน 1-0 จากประตูของเหยินใหญ่ "โรนัลโด้" น.46 ก่อนถูก "พาทริก ไคลเวิร์ต" ตีเสมอก่อนหมดเวลาแค่ 3 นาที ทว่าช่วงต่อเวลาพิเศษทำอะไรกันไม่ได้จึงต้องดวลจุดโทษกัน แซมบ้าซ้อมมาดีซัดเข้าหมดทั้ง 5 คนส่วนดัตช์พลาดในสองคนสุดท้ายคือ ฟิลิป โคคู กับ โรนัลด์ เดอ บัวร์ เป็นทัวร์นาเมนต์ที่เจ็บปวดเพราะท้ายซัด อัศวินสีส้มชิงอันดับ 3 พ่ายต่อโครเอเชียอีก 1-2 ราคาตามหน้าเสื่อหรือน่าจะต่อเยอะครึ่งลูก คงเป็นบราซิลต่ออย่างน้อย ป.ป.หรือครึ่งลูก เพราะเป็นปีที่แซมบ้ามาแรงมาก ในทีมมีทั้ง คาฟู, โรแบร์โต้ คาร์ลอส, คาร์ลอส ดุงก้า, ริวัลโด้, โรนัลโด้, เลโอนาร์โด้ และ เบเบโต้
2010 : เพิ่ง ผ่านไปเมื่อ 4 ปีก่อน เป็นการเจอกันรอบก่อนรองชนะเลิศหนที่สอง เตะกันที่เมืองพอร์ท อลิซาเบ็ธ ประเทศแอฟริกาใต้ คราวนี้ อัศวินสีส้มแก้แค้นได้สำเร็จ แม้ว่าบราซิลนำก่อนก็ตาม โดย น.10 จากการแทงบอลกลางสนาม ให้ "โรบินโญ่" หลุดเดี่ยวเข้าไปยิงตามน้ำให้แซมบ้านำ 1-0
ทว่าครึ่งหลังเริ่มได้ 8 นาที "เวสลี่ย์ สไนเดอร์" ได้บอลริมเส้นด้านขวาแล้วเปิดเสาสอง ชูลิโอ เซซาร์ นายทวารออกมาชกบอลพลาด แล้วลูกเหมือนจะถูกหัว เฟลิเป้ เมโล่ เข้าตาข่ายด้วย ทว่า ทิศทางบอลนั้นไม่เปลี่ยนมาก และฟีฟ่าให้เป็นประตูของสไนเดอร์ในที่สุด
เข้า สู่ นาทีที่ 68 ดัตช์ได้เตะมุมด้านขวา (ฝั่งซ้ายของประตูบราซิล) "อาร์เยน ร็อบเบน" เปิดมาที่เสาแรก "เดิร์ค เค้าท์" เช็ดไปเสาสอง และเป็น "สไนเดอร์" โหม่งเข้าไป ก่อนวิ่งดีใจด้วยการเอามือตบหน้าผาตนเองอย่างระรื่นใจ ฮอลแลนด์พลิกกลับมาชนะ 2-1 ราคาต่อรองนั้น บราซิลต่อครึ่งลูก คนเชียรดัตช์ก็สมหวังโดยปริยาย แล้วเนเธอร์แลนด์ไปไกลถึงนัดชิงชนะเลิศด้วยการชนะ อุรุกวัย 3-2 ในรอบรองฯ ก่อนไปพ่ายสเปน ในช่วงต่อเวลาพิเศษ 0-1 ในรอบชิงชนะเลิศอย่างน่าเสียดาย
สถิติน่าสนใจของเกมชิงอันดับ 3 ระหว่าง บราซิล กับ ฮอลแลนด์
- บราซิล ได้อันดับ 3 ฟุตบอลโลก 2 ครั้ง ในปี 1938 และ 1978 จากการเข้ารอบสุดท้าย 20 หน ปี 1938 พวกเขาชนะ สวีเดน 4-2 และปี 1978 ชนะ อิตาลี 2-1 มีเพียงแค่ปี 1974 เท่านั้นที่ บราซิล แพ้เกมชิงอันดับ 3 โดยถูก โปแลนด์ เชือด 1-0
- พบกับ ฮอลแลนด์ ในฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย 4 ครั้ง ชนะ 1 เสมอ 1 แพ้ 2 ผลต่างประตู 5-7 เริ่มจากปี 1974 ที่แพ้ 0-2 ในการเตะกลุ่ม เอ รอบ 2, ปี 1994 ชนะ 3-2 ในรอบก่อนรองชนะเลิศ, ปี 1998 เสมอ 1-1 ใน 120 นาที และชนะดวลจุดโทษ 4-2, ปี 2010 แพ้ 1-2 ในรอบก่อนรองชนะเลิศ
- บราซิล มักปิดฉากฟุตบอลโลกด้วยการเจอทีมยุโรป มีเพียง 4 ครั้งเท่านั้นที่เกมสุดท้ายไม่เจอคู่แข่งจากทวีปนี้ โดยพวกเขาเป็นฝ่ายแพ้ 9 ชนะ 7 จากทั้งหมด 16 นัด โดยปี 1934 แพ้ สเปน 1-3, ปี 1938 ชนะ สวีเดน 4-2, ปี 1954 แพ้ ฮังการี 2-4, ปี 1958 ชนะ สวีเดน 5-2, ปี 1962 ชนะ เชโกสโลวาเกีย 3-1, ปี 1966 แพ้ โปรตุเกส 1-3, ปี 1970 ชนะ อิตาลี 4-1, ปี 1974 แพ้ โปแลนด์ 0-1, ปี 1978 ชนะ อิตาลี 2-1, ปี 1982 แพ้ อิตาลี 2-3, ปี 1986 แพ้ ฝรั่งเศส ในการดวลจุดโทษ 4-5 หลัง 120 นาทีเสมอ 1-1 ปี 1994 ชนะ อิตาลี ในการดวลจุดโทษ 3-2 หลัง 120 นาทีเสมอ 0-0, ปี 1998 แพ้ ฝรั่งเศส 0-3, ปี 2002 ชนะ เยอรมัน 2-0, ปี 2006 แพ้ ฝรั่งเศส 0-1, ปี 2010 แพ้ ฮอลแลนด์ 1-2
- บราซิล แพ้ในการเตะฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย 1 สมัย ถึง 2 เกม ครั้งสุดท้ายในปี 1998 (นอร์เวย์ กับ ฝรั่งเศส) ซึ่งเป็นการพ่ายทีมยุโรปทั้งหมด ฟุตบอลโลก 2014 พวกเขาก็แพ้ เยอรมัน จากทวีปดังกล่าวไปแล้วด้วย
- บราซิล แพ้ทีมยุโรป 2 นัดติดต่อกันในศึกฟุตบอลโลกครั้งเดียวเมื่อปี 1966 (ฮังการี กับ โปรตุเกส)
- ฮอลแลนด์ ไม่เคยได้อันดับ 3 ฟุตบอลโลก จากการเข้ารอบสุดท้าย 10 ครั้ง มีเพียงปี 1998 เท่านั้นที่ได้ชิงอันดับ 3 แต่พ่าย โครเอเชีย 1-2
- ฮอลแลนด์ เตะปิดฉากฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายด้วยการเจอทีมอเมริกาใต้ 2 ครั้งเท่านั้น โดยปี 1978 แพ้ อาร์เจนตินา 1-3 หลังต่อเวลา และปี 1994 แพ้ บราซิล 2-3
- อาร์เยน ร็อบเบน กับ เวสลี่ย์ สไนจ์เดอร์ส ต้องการยิงอีก 1 ประตูก็จะทำสถิติทำสกอร์ในรอบสุดท้ายฟุตบอลโลกให้ ฮอลแลนด์ มากสุดตลอดกาล เท่ากับ จอห์นนี่ เร็ป ที่ทำไว้ 7 ประตู ส่วน โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ ต้องการอีก 2 ประตู
- หากไม่แพ้ บราซิล ก็จะเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่ ฮอลแลนด์ จบศึกฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายโดยไม่พ่ายใครเลยในเวลา 90 และ 120 นาที
- ฮอลแลนด์ เคยชนะทีมอเมรืกาใต้ในศึกฟุตบอลโลกถึง 2 ทีม แค่ 2 หน คือปี 1974 และ 2010 ที่พวกเขาได้รองแชมป์ ฟุตบอลโลก 2014 เพิ่งชนะ ชิลี แค่ทีมเดียว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
ทำไมอาร์วีพีฟอร์มหลุด-ฟานกัลอัจฉริยะแท็กติก?
ก่อนเกมชิงอันดับ 3 ที่หลุยส์ ฟาน กัลบอกว่าไม่ควรมีเรามาชำแหละกันว่าอะไรเป็นต้นตอ "อาร์วีพี" ฟอร์มหลุด? ฟาน กัล ที่แก้เกมได้ผลมาหลายนัดแต่จริงๆแล้วเขาอัจฉริยะแท็กติกจริงไหม? และสุดท้ายแล้วรอน ฟลาร์ ที่หลายคนไม่เชื่อน้ำยาแต่กลับประกบตายเมสซี่จนแทบกระดิกไม่ออกยังจะเล่นได้ เด่นต่อไปหรือไม่
TOP 5 ข่าวในรอบ 3 วัน
อัลบั้มภาพเด็ดๆ
มาย ฮาเร็ม ส่งภาพเขย่าโซเชียล นุ...
เจนนี่ ธมนภัค พริตตี้สุดฮอต นุ่ง...
ฮาน่า ฮาอึน ชอง ดาว TikTok สาวสว...
นาฟ ฉัฐนันท์ ปล่อยแซ่บท้าลมหนาว ...
เต็มที่แล้ว! ไทย พ่าย อุซเบกิสถา...
ตัดเกรด นักเตะไทย เกมเสมอ โอมาน ...
คลิปไฮไลท์