ปรีวิวฟุตบอลโลก 2014
 (นัดชิงชนะเลิศ)
 วันอาทิตย์ 13 กรกฎาคม 2557
   อาร์เจนติน่า - เยอรมัน

สนาม : เอสตาดิอู ดู มาราคาน่า, (รีโอ เด จาเนโร, บราซิล)
ถ่ายทอดสด : ททบ.5, ช่อง 7, ทรูสปอร์ต เอชดี 3 (668), TV One Indo, Astro SuperSports, (เวลา: 02.00 น.)

 
 ทางด้าน "อัลบิเซเลสเต้" อาร์เจนตินา ภายใต้การคุมทีมของ อเลฮานโดร ซาเบย่า กุนซือร่างเล็ก พาทีมฝ่าด่านรอบรองชนะเลิศแบบสุดเหนื่อย เสมอ ฮอลแลนด์ 0-0 ใน 120 นาที ก่อนดวลจุดโทษชนะไปสนุก 4-2 ทะลุเข้ามาชิงชนะเลิศกับ เยอรมัน เป็นการรีแม็ตช์ "เวิลด์ คัพ ไฟนั่ล" เมื่อปี 1986 และ 1990
 
 สภาพความพร้อมล่าสุดได้ตัว อังเคล ดิ มาเรีย ปีกตัวจี๊ดจ๊าดฟื้นตัวจากอาการเจ็บกล้ามเนื้อต้นขาขวา กลับมาลงสนามซ้อม วิ่งจ็อกกิ้งได้แล้วเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา หลังจากพลาดเกมรอบตัดเชือก กับ ฮอลแลนด์ กำลังเร่งเรียกความฟิต อาจมีชื่อเป็นสำรองในเกมนี้
 
 ขณะที่ มาร์กอส โรโฮ แบ็คซ้ายจอมบุกวัย 24 ปี มีอาการปวดกระดูกหน้าแข้งซ้าย และ ข้อเท้าขวา จนต้องออกจากการซ้อมเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ซึ่งทัพฟ้าขาวปิดประตูซ้อม ไม่ให้ใครเข้าชม แต่คาดว่าจะสามารถลงช่วยทีมในนัดชิงดำที่มาราคาน่า ได้ โดยฝ่ายสตาฟฟ์โค้ชเพียงแค่กันไว้ก่อนเท่านั้น
 
 ส่วนแบ็คขวาไม่มี ปัญหาใช้ ปาโบล ซาบาเลต้า ลงประจำการ แม้ว่าจะเพิ่งปะทะกับผู้เล่นฮอลแลนด์ จนปากแตก แต่ลงเล่นนัดนี้ได้แน่นอน คู่เซนเตอร์ฮาล์ฟลงตัวที่ มาร์ติน เดมิเคลิส กับ เอเซเกล การาย ยืนด้วยกันเหนียวแน่นมาก โดยมี เซร์คิโอ โรเมโร่ ฮีโร่ที่เซฟจุดโทษให้ทีมผ่านอัศวินสีส้ม มาได้ในรอบตัดเชือกนั้น ลงเฝ้าเสาตามปกติ
 
 ห้องเครื่องของอาร์เจนติน่า วาง ฮาเวียร์ มาสเชราโน่ ที่ตัดเกมได้เด่นมากๆ คุมเกมร่วมกับ ลูคัส บิเกลีย และ เอ็นโซ เปเรซ โดยรายของ ลูคัส บิเกลีย ที่มีอาการบาดเจ็บเข่าเล็กน้อยจากรอบรองชนะเลิศ น่าจะลงเล่นได้ตามปกติ
 
 สาม ประสานแดนหน้านั้น ลีโอเนล เมสซี่ กัปตันทีมที่ซัดไปแล้ว 4 ประตูในทัวร์นาเม็นท์นี้ ลงมาทำเกมรุกร่วมกับ เอเซเกล ลาเวซซี่ ช่วยกันป้อนบอลให้กับ กอนซาโล่ อิกวาอีน หัวหอกตัวเป้าเข้าทะลวงประตู ส่วนรายของ เซร์คิโอ อเกวโร่ "กุน" กองหน้าที่ลงมาเป็นตัวสำรองในเกมล่าสุด คงต้องนั่งรอข้างสนามตามเดิม

 ทางฝั่งขุนพล "อินทรีเหล็ก" ตบเท้าเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศฟุตบอลโลกครั้งที่แปด ก่อนหน้านี้คว้าแชมป์ไปแล้วสามครั้งในปี 1954,1974 และ 1990 โดยรอบรองชนะเลิศจัดการถล่มบราซิลยับเยิน 7-1
 
 โยอัคคิม เลิฟ บุนเดสเทรนเนอร์ไม่มีปัญหาผู้เล่นบาดเจ็บหรือติดโทษแบนให้กังวล นอกจาก ชโคดราน มุสตาฟี่ กองหลังจากซามพ์โดเรียที่เจ็บกล้ามเนื้อต้นขา ซึ่งไม่ส่งผลกระทบมากมายนัก
 
 มัทส์ ฮุมเมิลส์ ปราการหลังตัวหลักที่โดนเปลี่ยนตัวออกนัดล่าสุด สามารถกลับมาฟิตทันเวลาและพร้อมยืนตัวจริงแน่นอน ส่วนตำแหน่งอื่นๆไม่มีการเปลี่ยนแปลง
 
 นายทวาร มานูเอล นอยเออร์ กำลังคั่วรางวัล "ถุงมือทองคำ" พร้อมลงเฝ้าเสา แดนหลัง ฟิลิปป์ ลาห์ม ยืนแบ็คขวา คู่ปราการหลัง เยโรม บัวเต็ง กับ มัทส์ ฮุมเมิลส์ โดยมี แพร์ แมร์เตซัคเคอร์ เป็นตัวสอดแทรก และแบ็คซ้าย เบเนดิคท์ เฮอเวเดส
 
 บา สเตียน ชไวน์สไตเกอร์ ปักหลักตัวคุมจังหวะเหมือนเดิม ปล่อยให้ ซามี่ เคดิร่า เติมขึ้นสูง และ โทนี่ โครส เป็นจอใทัพขับเคลื่อนเกมรุก
 
 แดน หน้า โธมัส มุลเลอร์ ผู้นำดาวซัลโว เตรียมลงล่าตาข่าย เมซุต โอซิล แม้ฟอร์มโดนวิกจารณ์พอสมควรแต่เชื่อว่าจะได้โอกาสต่อไป สำหรับหน้าเป้า มิโรสลาฟ โคลเซ่ บนวัย 36 ปี พร้อมลงสนาม ส่วน ลูคัส โพดอลสกี้, อันเดร เชือร์เล่อ, มาริโอ เกิทเซ่อ รอโอกาสข้างสนาม
 
 
 รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะได้ลงสนาม
 
  อาร์เจนติน่า: เซร์คิโอ โรเมโร่ - ปาโบล ซาบาเลต้า, มาร์ติน เดมิเคลิส, เอเซเกล การาย, มาร์กอส โรโฮ - เอ็นโซ เปเรซ, ฮาเวียร์ มาสเชราโน่, ลูคัส บิเกลีย - ลีโอเนล เมสซี่ (กัปตันทีม), กอนซาโล่ อิกวาอีน, เอเซเกล ลาเวซซี่
 
 เยอรมนี : นายทวาร มานูเอล นอยเออร์ - ฟิลิปป์ ลาห์ม,เยโรม บัวเต็ง,มัทส์ ฮุมเมิลส์,เบเนดิคท์ เฮอเวเดส - บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์,ซามี่ เคดิร่า,โทนี่ โครส - โธมัส มุลเลอร์,มิโรสลาฟ โคลเซ่,เมซุต โอซิล

 
  ผู้ตัดสิน: นิโกล่า ริซโซลี่ (อิตาลี)
 
  ผู้ช่วยผู้ตัดสิน: เรนาโต้ ฟาเวรินี่ (อิตาลี), อันเดรส สเตฟานี่ (อิตาลี) 





  


เยอรมัน - อาร์เจนตินา
 
 - เยอรมัน เข้าชิงบอลโลกหนนี้เป็นครั้งที่ 8 แล้ว มากกว่าทุกทีม โดยคว้าแชมป์ไปได้ 3 หน
 - อินทรีเหล็กชนะในรอบชิงชนะเลิศฟุตบอลโลกแค่ครั้งเดียวจาก 4 หนหลังที่เข้าชิง (ชนะ อาร์เจนติน่า ในปี 1990)
 - เยอรมัน เข้าถึงรอบชิงชนะเลิศบอลโลกได้ตลอด 7 ทศวรรษหลัง (1954, 1966, 1974, 1982 และ 86, 1990, 2000 และ 2014)
 - อาร์เจนติน่า จะลงเล่นในรอบชิงชนะเลิสฟุตบอลโลกเป็นหนที่ 5 โดยพวกเขาชนะ 2 แพ้ 2 ใน 4 หนก่อนหน้านี้
 - เกมนี้จะเป็นการพบกันในรอบชิงชนะเลิศฟุตบอลโลกเป็นหนที่ 3 ระหว่าง เยอรมัน กับ อาร์เจนติน่า โดยสองหนก่อนหน้านี้เกิดขึ้นในปี 1986 และ 1990 โดยแบ่งกันคว้าแชมป์ทีมละ 1 สมัย (อาร์ฌจนติน่า ชนะ 3-2 ปี 1986 ส่วน เยอรมัน ชนะ 1-0 ในปี 1990)
 - คู่นี้เป็นการเจอกันในฟุตบอลโลกรอบชิงชนะเลิศบ่อยที่สุดมากกว่าทีมอื่นๆ
 - ครั้งนี้เป็นหนที่ 10 แล้วที่ทีมจากยุโรปเจอกับทีมจากอเมริกาใต้ในรอบชิงชนะเลิศ โดยทีมจากทวีปอเมริกาใต้เอาชนะไปได้ 7 หน
 - เยอรมัน กับ อาร์เจนติน่า จะพบกันในฟุตบอลโลกเป็นหนที่ 7 อีกแค่เกมเดียวจะพบกันบ่อยกว่าที่ บราซิล เจอ สวีเดน และ เยอรมัน เจอกับ ยูโกสลาเวีย/เซอร์เบีย (7 ครั้ง เท่ากัน)
 - เยอรมัน ชนะ 3 แพ้แค่หนเดีวจาก 6 ครั้งก่อนหน้านี้ที่เจอทีมฟ้า-ขาวในฟุตบอลโลก (เสมอ 2) รวมเกมที่อินทรีเหล็กชนะในการดวลจุดโทษเมื่อปี 2006 ด้วย
 - ทีมจากเมืองเบียร์เขี่ย อาร์เจนติน่า ตกรอบฟุตบอลโลก 2006 (เสมอ 1-1 ใน 120 นาที่ก่อนชนะจุดโทษ 4-2 ในรอบ 8 ทีมสุดท้าย) และบอลโลก 2010 (ชนะ 4-0 ในรอบ 8 ทีมสุดท้ายเช่นกัน)
 - อาร์เจนติน่า ชนะ 9 จาก 20 เกมที่เจอ เยอรมัน ทุกรายการ (เสมอ 5 แพ้ 6) โดยล่าสุดเอาชนะไปได้ 3-1 ในเกมอุ่นเครื่องที่แฟร้งเฟิร์ตเมื่อปี 2012
 - อาร์เจนติน่า เป็นทีมที่รักษาคลีนชีตมากที่สุดในบอลโลกหนนี้ (4 หน ส่วน เยอรมัน 3)
 - ฟ้า-ขาว ยังไม่เสียประตูเลยในรอบน็อคเอาท์ (แม้ว่าจะต้องเล่นช่วงต่อเวลาถึง 2 จาก 3 เกม)
 - 5 เกมหลังสุดที่ เยอรมัน ยิงประตูไม่ได้ในฟุตบอลโลก พวกเขาลงเอยด้วยความพ่ายแพ้
 - หนสุดท้ายที่ เยอรมัน ยิงได้แล้วแพ้ในบอลโลกเกิดขึ้นเมื่อปี 1994 ในรอบก่อนรองชนะเลิศที่แพ้ บัลแกเรีย 1-2
 - เยอรมัน ไม่แพ้เกมทีมชาติมาแล้ว 17 นัด (ชนะ 12 เสมอ 5)
 - อาร์เจนติน่า ยังไม่เคยโดนคู่แข่งออกนำเลยในฟุตบอลโลกหนนี้ ส่วน เยอรมัน โดนนำไป 8 นาที (เจอ กานา)
 - อาร์เจนติน่า ชนะ 4 จาก 5 ครั้งหลังที่ดวลเป้าในบอลโลก ส่วน เยอรมัน ชนะทั้ง 4 หน (รวมเกมที่เจอกับทีมฟ้า-ขาวเมื่อปี 2006)
 - มิโรสลาฟ โคลเซ่ เป็นนักเตะที่ยิงประตูในบอลโลกมากที่สุดในประวัติศาสตร์ โดยมากกว่านักเตะของทีมอาร์เจนติน่าทั้งทีมรวมกัน (16 ลูก)
 - มีแค่ โลธาร์ มัทเทอุา (25) ที่เล่นในบอลโลกมากกว่า โคลเซ่ (23 เกม เท่ากับ เปาโล มัลดินี่)
 - โคลเซ่ เป็นนักเตะคนเดียวในเกมรอบชิงหนนี้ที่เคยลงเล่นรอบชิงมาก่อน (2002 แพ้ บราซิล 0-2)
 - โธมัส มุลเลอร์ ดาวยิงเยอรมัน มีส่วนร่วมในการทำประตูถึง 16 ลูกจาก 12 เกมฟุตบอลโลก (ยิง 10 จ่าย 6)
 - นอกจากนั้น มุลเลอร์ (2010, 2014) ยังครองสถิติร่วมกับ โคลเซ่ (2002, 2006) เป็นเพียง 2 นักเตะที่ยิงประตูฟุตบอลโลกถึง 5 ลูกหรือมากกว่าได้ 2 สมัยติดต่อกัน
 - มุลเลอร์ มีลุ้นเป็นนักเตะคนแรกในประวัติศาสตร์ที่คว้าดาวซัลโวฟุตบอลโลก 2 สมัยติด โดยตอนนี้ตามหลัง ฮาเมส โรดริเกซ จอมทัพโคลอมเบีย (6) แค่ลูกเดียวเท่านั้น
 - ลิโอเนล เมสซี่ กัปตันอาร์เจนตินา เป็นนักเตะสร้างสรรค์โอกาสได้มากที่สุดในฟุตบอลโลกหนนี้ (21 ครั้ง)
 - เมสซี่ ยังครองสถิติเลี้ยงบอลมากที่สุด 65 ครั้ง และผ่านคู่แข่งมากสุดเช่นกัน (39)
 - เมสซี่ ยิงไป 5 ประตูในฟุตบอลโลก (2006-2014) แต่ยังไม่เคยทำได้ในรอบน็อคเอาต์เลย
 - ฮาเวียร์ มาสเคราโน่ กองกลางฟ้าขาว ผ่านบอลสำเร็จถึง 509 ครั้ง และแย่งบอลสำเร็จ 28 ครั้ง มากกว่าผู้เล่นทุกคน
 - มานูเอล นอยเออร์ นายทวารเยอรมัน เซฟไปทั้งสิ้น 23 ครั้งเป็นรองเพียง ทิม ฮาวเวิร์ด ของสหรัฐฯ (27)
 - อังเคล ดิ มาเรีย ปีกอาร์เจนตินา หรือ ซามี่ เคดิร่า มิดฟิลด์เยอรมัน มีลุ้นทำสถิติเป็นแข้งรายที่ 10 ที่ได้โทรฟี่แชมเปี้ยนส์ ลีก และฟุตบอลโลกในปีเดียวกัน โดย 7 จาก 9 คนก่อนมาจากบาเยิร์น มิวนิคยุค 1974 อีก 2 รายคืออดีตแข้งเรอัล มาดริดทั้ง คริสติยอง การอมเบอ (1998) และ โรแบร์โต้ คาร์ลอส (2002)
  - มีแค่ ทิม ฮาวเวิร์ด (27) ที่เซฟมากกว่า มานูเอล นอยเออร์ (23)