ผลคะแนนและราคา 2 in 1 คะแนนในการแข่งสด ผลการแข่งขัน ตารางการแข่งขัน อัตราต่อรอง ข้อมูล คะแนนบาสเก็ตบอล
ฟุตบอล » ลีกคัพอื่นๆ » เมื่อประวัติศาสตร์เข้าข้างทีมฟ้า-ขาว

เมื่อประวัติศาสตร์เข้าข้างทีมฟ้า-ขาว

Posted 13/07/2014 by siamsport

เมื่อประวัติศาสตร์เข้าข้างทีมฟ้า-ขาว

ไม่ว่าคุณจะสนับสนุนฝั่งไหน กระนั้นการปะทะกันระหว่าง อาร์เจนตินา กับเยอรมัน ในเกมนัดชิงชนะเลิศวันอาทิตย์นี้ บนสังเวียนอันมีมนต์ขลังอย่างมาราคาน่า บทสรุปของทัวร์นาเมนต์จะเป็นหน้าประวัติศาสตร์

 ไม่มีอะไรต้องสงสัยในขุนพลเยอรมัน กับการเป็นทีมเต็ง เมื่อจัดการบอมบ์บราซิล เจ้าภาพ 7-1 ในรอบรองชนะเลิศ
 
 ผล งานของ โธมัส มุลเลอร์, โทนี่ โครส และขุนพลอินทรีเหล็กทั้งทีม ที่แสดงออกมาในเกมสอนเชิงเจ้าถิ่น สร้างคราบน้ำตาของนักเตะในสนาม และแฟนบอลน้ำล้านที่ยังช็อกกับสิ่งที่เกิดขึ้นไม่หาย
 
 ดังนั้นทีมฟ้า-ขาว ย่อมรับรู้ถึงความอันตรายที่ทีมของ โยอัคคิม เลิฟ มี
 
 เพราะ ก่อนหน้านั้น เมื่อ 4 ปีก่อน ที่โจฮันเนสเบิร์ก ประสบการณ์เดียวกันนี้เคยเกิดขึ้นกับอาร์เจนตินา ซึ่งเป็นการสิ้นสุดเส้นทางการคุมทีมของ ดีเอโก้ มาราโดน่า ไว้แค่รอบก่อนรองชนะเลิศเท่านั้น
 
 ความพ่ายแพ้ย่อมเจ็บปวดเสมอ เหมือนที่ทีมเซเลเซา ได้รับไม่กี่วันก่อน ซึ่งทีมของ อเลฮานโดร ซาเบย่า คงไม่อยยากพบเจอเรื่องราวเดียวกันนี้
 
 อย่างน้อยๆ ทีมฟ้า-ขาว พอจะคาดเดาได้ว่าแรงสนับสนุนในมาราคาน่า จะเป็นของพวกเขา เพื่อชิงความได้เปรียบไปสู่ตำแหน่งแชมป์ นอกจากนั้นแล้วอีกแรงสนับสนุนคือเรื่องบนหน้าประวัติศาสตร์ ที่เมือนเป็นใจกับพวกเขา
 
 เกมนัดชิงชนะเลิศวันอาทิตย์นี้ ถือเป็นครั้งที่ 6 ที่ทีมจากยุโรป กับละตินอเมริกา ต้องมาแก่งแย่งแชมป์โลกบนแผ่นดินอเมริกา
 
 สถิติที่ผ่านมาอาจเป็นเรื่องน่ากลัวสำหรับเลิฟ และลูกทีม ในเมื่อทั้ง 5 ครั้ง ชัยชนะเป็นของทีมจากแดนละตินเสมอๆ
 
 เรื่อง ราวการชิงชัยระหว่าง 2 ทวีป เริ่มต้นในปี 1958 ซึ่งทีมยุโรป ต้องการแย่งชิงความเป็นใหญ่ในวงการลูกหนังโลกมาจากบราซิล โดยครั้งนั้นนักข่าวจากฝั่งยุโรป แทบไม่มีใครรู้จักนักเตะท้องถิ่นเลย บนรายชื่อนักเตะ
 
 นักเตะตัวริมเส้นอย่าง การ์รินช่า เป็นผู้นำกลุ่มนักเตะดาวรุ่ง ที่มาจากสโมสรเล็กๆ ในเซา เปาลู อย่างซานโตส
 
 หนึ่ง ในนั้น เป็นดาวเตะวัยกระเตาะแค่ 17 ปี ซึ่งชื่อเรียกง่ายๆ ว่า เปเล่ จากชื่อเต็มๆ ที่ยาวเหยียดอย่าง เอ็ดซอน อารานเตส โด นาสซิเมนโต้
 
 ท้าย ที่สุดแล้ว ผลจบด้วยชัยชนะของบราซิล 5-2 ที่มีต่อสวีเดน เจ้าภาพ และ 2 กองหน้าดาวรุ่งกลางเป็นซูเปอร์สตาร์ จนไม่มีใครกล้าประมาททีมเซเลเซา ทีมนี้อีกต่อไป
 
 เปเล่ ไม่มีส่วนกับทีมในอีก 4 ปีให้หลัง เมื่อทัวร์นาเมนต์ไปเตะที่ชิลี
 
 ทว่าไม่มีอะไรสามารถหยุดยั้งบราซิล ในเวลานั้นได้ อามาริลโด้, ซิโต้ และ วาว่า ยิงประตูดับฝันเช็กโกสโลวาเกีย ในนัดชิงชนะเลิศ
 
 นั่น เป็นเหมือนร่างแบบสู่ความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง เพราะในปี 1970 เปเล่ ปิดฉากการเล่นฟุตบอลในระดับทีมชาติไดอย่างเลิศหรู กับการพาทีมสังหารอิตาลี ไปแบบไม่ไว้หน้า 4-1
 
 มนต์ ดำแห่งละตินอเมริกา ยังคงตะหง่านขวางทีมจากยุโรป เมื่อ การ์ลอส อัลแบร์โต้ กัปตันทีมชูถ้วยแชมป์ที่เอสตาดิโอ อาซเตก้า ในเม็กซิโก
 
 แม้จะมีปัญหาเรื่องการเมือง ทว่าไม่ได้ส่งผลกระทบกับความแข็งแกร่งในเชิงลูกหนัง
 
 อาร์เจนตินา ทำได้อีกครั้ง แม้ฮอลแลนด์ จะไม่มีสุดยอดนักเตะอย่าง โยฮัน ครัฟฟ์ อยู่ในทีม กระนั้นระบบการเล่นแบบ "โททัล ฟุตบอล" ยังคงอยู่อย่างต่อเนื่อง หลังผ่านนัดชิงชนะเลิศในปี 1974 มา
 
 กระนั้น มาริโอ แคมเปส สร้างชื่อเหมือนเป็นมาตาดอร์ เมื่อยิง 2 ประตูให้ทีมฟ้า-ขาว เอาชนะ 3-1 ในช่วงต่อเวบาพิเศษที่เกิดขึ้นครั้งแรกในประวัติศาสตร์
 
 ความยิ่งใหญ่ยังคงอยู่กับอาร์เจนตินา ในปี 1986 และประวัติศาสตร์ฟุตบอลโลกยังไม่เปลี่ยนแปลง
 
 เด็ก หนุ่มวัย 17 ปี นาม ดีเอโก้ มาราโดน่า ที่เคยมีน้ำตาหลัง เซซ่าร์ เมน็อตติ ตัดออกจากทีมชุดลุยฟุตบอลโลก 1978 กลับกลายเป็นราชา เพราะสุดยอดดาวเตะจากนาโปลี เขียนประวัติศาสตร์ของตัวเองในเม็กซิโก กับการเจอเยอรมันตะวันตก
 
 เสือเตี้ย อาจไม่ได้ทำประตูที่เอสตาดิโอ อาซเตก้า แต่เขายังเป็นกุญแจสำคัญในชัยชนะ 3-2 ที่ทีมให้อาร์เจนตินา นั่งบัลลังก์แชมป์โลก
 
 เยอรมัน ตะวันตก ล้างแค้นได้ในปี 1990 ด้วยการเอาชนะ 1-0 ในอิตาลี แต่นั่นเป็นครั้งล่าสุดที่ทีมจากยุโรป ครองความยิ่งใหญ่เหนือทีมจากละตินอเมริกา ในนัดชิงชนะเลิศฟุตบอลโลก
 
 ความจริงแล้ว ยุโรป น่าเอาชนะทีมจากอเมริกาใต้ ได้อีกครั้ง โดยไม่ใช่บนแผ่นดินของตัวเอง
 
 ใน ฟุตบอลโลก 1994 ถือว่าใกล้เคียงที่สุด ทีมอัซซูรี่ อันมีสุดยอดนักเตะอย่าง โรแบร์โต้ บาจโจ เป็นแกนนำ ได้ดวลลูกโทษกับบราซิล หลังผ่าน 120 นาทีที่เต็มไปด้วยฟุตบอลเกมรับ
 
 กระนั้นเปียทองคำ ที่อยู่ในทีมกับ ฟรังโก้ บาเรซี่ อีกหนึ่งตำแหน่ง กลายร่างจากฮีโร่ เป็นปีศาจ
 
 ใน เมื่อเขาพ่ายแพ้ต่อแรงกดดันที่ เคลาดิโอ ทัฟฟาเรล มอบให้ ด้วยการซัดลูกโทษข้ามคาน และส่งให้ ดุงก้า ชูถ้วยแชมป์โลกสมัยที่ 4 ที่สหรัฐอเมริกา
 
 อาจเป็นเรื่องยากจะเชื่อว่าเรื่องราวของประวัติ ศาสตร์จะดำรงอยู่ต่อไป แต่อย่างน้อยขุนพลอินทรีเหล็กย่อมทราบดีว่าเป็นเรื่องยากแค่ไหนในการก้าวสู่ ความสำเร็จครั้งนี้
 
 ขณะที่อาร์เจนตินา คงหวังจะรักษาสถิติอันยอดเยี่ยมที่มีบนแผ่นดินทวีปตัวเองต่อไป

 เครดิต : หนังสือพิมพ์ "สปอร์ตแมน"

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
  • เรือใบคลั่ง!ชีคระดมทุน200ล้านป.ซิวเมสซี่
    "เดลี่เมล์" สื่อดังของอังกฤษ เผย "เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี้ มีแผนระดมทุนจากเหล่าสปอนเซอร์ เพื่อมาซื้อ ลิโอเนล เมสซี่ ดาวยิงอาร์เจนไตน์ ของ บาร์เซโลน่า ด้วยค่าตัวแพงบ้าเลือด 200 ล้านปอนด์ (ประมาณ 10,876 ล้านบาท)
  • เลิฟมั่นเยอรมันจะเขียนประวัติศาสตร์บนแผ่นดินอเมริกาใต้
    บุนเดสเทรนเนอร์ สุดมั่น ขุนพลอินทรีเหล็กจะเขียนประวัติศาสตร์หน้าใหม่คว้าแชมป์โลกบนแผ่นดินละตินอเมริกา
  • โด้-เฟร็ด-บาโลนำทัพทีมยอดแย่รอยเตอร์ส
    ำนักข่าวรอยเตอร์ส ทำการจัดทีมยอดแย่ประจำทัวร์นาเมนต์ฟุตบอลโลก 2014 เมื่อวันเสาร์ที่ 12 ก.ค. ที่ผ่านมา โดยมีดาวดังอย่าง อีเกร์ กาซียาส และ เซร์คิโอ รามอส ของสเปน รวมอยู่ด้วย และที่ไม่พลาดแน่นอนคือ เฟร็ด กองหน้าทีมชาติบราซิลที่โชว์ฟอร์มได้น่าผิดหวังเหลือเกินในรายการนี้
  • อาร์วีพีทำซึ้งมอบเหรียญให้แฟนพันธ์แท้
    โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ กัปตันทีมชาติฮอลแลนด์ แสดงน้ำใจอันน่าซาบซึ้งต่อสุดยอดแฟนบอลดัตช์ที่รู้จักกันในฉายา "นายพลสีส้ม" ด้วยการนำทั้งเหรียญอันดับ 3 และปลอกแขนกัปตันทีมไปมอบให้กับมือที่อัฒจันทร์ หลังจบเกมชนะ บราซิล ในนัดชิงที่ 3 เมื่อวันเสาร์

TOP 5 ข่าวในรอบ 3 วัน

อัลบั้มภาพเด็ดๆ

More »

คลิปไฮไลท์

More »