ถึงแม้ว่าจะได้เงินจากการขาย หลุยส์ ซัวเรซ กองหน้าทีมชาติอุรุกวัย ให้กับ บาร์เซโลน่า 75 ล้านปอนด์ (ประมาณ 4,069 ล้านบาท) แต่ดูเหมือน "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล คงต้องจ่ายมากถึง 100 ล้านปอนด์ (ประมาณ 5,426 ล้านบาท) ถ้าหวังให้ทีมแข็งแกร่งเหมือนเดิม

ตอนนี้ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส กุนซือ ลิเวอร์พูล ใช้ไปแล้ว 57 ล้านปอนด์ (ประมาณ 3,092 ล้านบาท) ในการคว้าตัวนักเตะมาร่วมทัพหลายราย ไล่ตั้งแต่ ริคกี้ แลมเบิร์ต, เอ็มเร่ ชาน, อดัม ลัลลาน่า รวมถึง ลาซาร์ มาร์โควิช และจากรายงานล่าสุดเขายังต้องการแข้งใหม่อีก 4-5 คน เพื่อสร้างทีมที่แข็งแกร่ง ซึ่งอาจทำให้ยอดการจ่ายเพื่อเสริมทัพเกินหลัก 100 ล้านปอนด์ เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์สโมสร ถึงแม้มีเงิน แต่ทุกอย่างก็ใช่ว่าจะเป็นเรื่องง่าย เพราะ อเล็กซิส ซานเชซ กองหน้าทีมชาติชิลี ยังตอบปฏิเสธการย้ายมาเป็นสมาชิก "หงส์แดง" แล้วเลือกไปอยู่กับ อาร์เซน่อล แทน
 
แม้เคยพลาดหวังในการซื้อนักเตะถึง 3 คนเมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา คือ เฮนริค เอ็มคิตาร์ยาน, วิลเลี่ยน และ ดิเอโก้ คอสต้า แต่ ร็อดเจอร์ส ยังต้องการพัฒนาทีมของเขา ให้มีระดับความสามารถที่ดี และหลากหลายมากขึ้น โดยยืนยันสามารถโน้มน้าวใจให้นักเตะชั้นยอด ยอมตกลงปลงใจมาร่วมงานด้วยได้ไม่ยาก แม้พลาดหวังอเล็กซิส ซานเชซ ที่กุนซือ ลิเวอร์พูล อ้างว่าเป็นความปรารถนาของเจ้าตัวเอง ที่อยากย้ายไปอยู่ในกรุงลอนดอน มากกว่าจะยอมขึ้นเหนือมาปักหลักที่เมืองลิเวอร์พูล แต่นักเตะหลายคนประทับใจกับความทะเยอทะยานของสโมสรที่หวังยกระดับทีมและสนใจที่จะย้ายมาร่วมงานด้วย
 
ประเด็นสำคัญคือตอนนี้ "หงส์แดง" ยังหาดาวยิงที่จะมาเป็นตัวแทน ซัวเรซ เจ้าของผลงาน 31 ประตูเมื่อฤดูกาลก่อน ยังไม่ได้ มาร์โควิช ไม่ใช่กองหน้าตัวเป้า แลมเบิร์ต คงมาเป็นทางเลือกของทีมในซุ้มม้านั่งสำรองมากกว่า เป้าหมายตอนนี้มีทั้ง โลอิก เรมี่ หัวหอกทีมชาติฝรั่งเศส ของ ควีนส์ปาร์ค เรนเจอร์ส และ วิลฟรีด โบนี่ กองหน้าทีมชาติไอวอรี่โคสต์ ของ สวอนซี ซิตี้ โดยรายแรก ลิเวอร์พูล ต้องแย่งกับหลายสโมสร ขณะอีกคนมีปัญหาเรื่องขอค่าเหนื่อยแพงเกินไป แต่ ร็อดเจอร์ส และทีมงาน ยังคงมองหาความเป็นไปได้ในหลายทาง เพื่อทำให้ ลิเวอร์พูล มีความสมดุลมากพอ ก่อนจะการลงเตะ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก
 
"การเซ็นสัญญาที่ผ่านมา ไม่เกี่ยวกับการย้ายออกไปของ ซัวเรซ เพราะนักเตะเหล่านี้เป็นพวกที่เราอยากได้มานานแล้ว" ร็อดเจอร์ส อธิบาย "ผมรู้สึกว่าฤดูกาลที่แล้วไม่มีตัวเลือกในทีมมากพอ แต่ซซั่นนี้เราได้ไปเตะ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ดังนั้นจึงต้องแน่ใจว่าทุกขุมกำลังจะมีความแข็งแกร่งมากที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ เห็นได้ชัดว่า หลุยส์ ช่วยให้เรามีโอกาสซ่อมแซมจุดที่ยังบกพร่อง และมีงบมากพอจะนำไปใช้เสริมประสิทธิภาพในส่วนที่ต้องการได้อีก แน่นอนว่าเราจะไม่จ่ายออกไปอย่างสุรุ่ยสุร่าย แต่พิจารณาจากลำดับความสำคัญของนักเตะที่จะทำให้ทีมแข็งแกร่งขึ้นเป็นหลัก"
 
"ช่วงที่ แดเนียล (สเตอร์ริดจ์) ลงเล่นโดยไม่มี หลุยส์ เขาก็แสดงให้เห็นถึงคุณภาพของฝีเท้าออกมา แต่หน้าที่ความรับผิดชอบไม่อยู่ที่ผู้เล่นคนใดคนหนึ่ง จุดแข็งแรงของเราคือการเล่นเป็นทีม ตอนผมย้ายมาใหม่ๆ หลุยส์ ก็ไม่ใช่คนที่ทำประตูอย่างสม่ำเสมอ แต่จากนั้นเขาได้โอกาสมากขึ้น และใช้ความสามารถของตัวเองอย่างเต็มที่ ช่วงสองปีที่ผ่านมาพิสูจน์ให้เห็นว่าถ้าสามารถสร้างจังหวะในการทำประตูมากพอ ก็มีสิทธิ์ยิงได้เยอะ และมันก็ไม่ใช่เพราะ หลุยส์ คนเดียว เรายิงกันถึง 101 ประตูในฤดูกาลที่ผ่านมา ส่วนเขาทำได้ 31 ลูก ทุกคนในทีมยิงกันได้ทั้งนั้น และจะนำนักเตะที่เราคิดว่าสามารถช่วยกันทำประตูได้เยอะๆเข้ามาช่วยงานอีกเหมือนเดิม" กุนซือ "หงส์แดง" กล่าวปิดท้าย