นอกเหนือไปจาก ไรอัน กิ๊กส์ แล้ว หลุยส์ ฟาน กัล กุนซือคนใหม่ของ "ปีศาจแดง" ก็ได้นำเอาทีมงานของตัวเองมาจากแดนกังหันลมด้วยอีกสามคน เพื่อร่วมด้วยช่วยกันคิด และลงมือทำใน โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด เพื่อเป้าหมายคืนความสุขให้แฟนผี...

        ไรอัน กิ๊กส์
 
        ไร อัน กิ๊กส์ ตัดสินใจปิดตำนานปีกพ่อมด หลังโลดแล่นบนสนามให้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด นานถึง 963 นัดตลอดระยะเวลา 23 ปี และงานถัดไปของ "กิ๊กซี่" คือผู้ช่วยผู้จัดการทีมของ หลุยส์ ฟาน กัล
 
        หาก ฟาน กัล คือ "Iron Tulip" แล้ว "กิ๊กซี่" ก็คงเป็น "Silk Daffodil" หรือ "ดอกแดฟโฟดิลผ้าไหม" ที่พลิ้วไหวลู่ลม 
 
        นี่คือคู่ตุนาหงันหรือดรีมทีมที่แฟนผี ถวิลหา
 
        หนึ่งในโค้ชที่ประสบความสำเร็จที่สุดในยุโรป กับนักเตะที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในสหราชอาณาจักร
 
        ไม่ น่าเชื่อว่า โชคชะตาจะพาให้ทั้งคู่ได้มาพบเจอ ตอนที่โค้ชหนุ่มชื่อ หลุยส์ ฟาน กัล วัย 40 เริ่มนับหนึ่งงานคุมทีมที่ อาแจ็กซ์ เมื่อ 28 กันยายน 1991 นั้น "กิ๊กส์" บนวัย 17 ยังช่วยให้ ยูไนเต็ด บุกกำราบ สเปอร์ส ที่ ไวท์ ฮาร์ท เลน อยู่เลย
 
        ทั้งคู่ ต่างเคยสำลักความสำเร็จ ตลอด 23 ปีบนวิชาชีพตัวเอง
 
        เวลา จะเป็นตัวบอกว่า การจับคู่ครั้งนี้ จะเวิร์กหรือไม่ แต่อย่างน้อยๆ มันก็มีสัญญาณให้เราจับได้ว่า การเข้าคู่ของ ฟาน กัล กับ กิ๊กส์ จะไม่เหมือนกับ เดวิด มอยส์ กับ กิ๊กส์ แน่
 
        ย้อนกลับไป เมื่อซัมเมอร์ที่แล้ว กิ๊กส์ ได้รับการแแต่งตั้งให้เป็นหนึ่งในทีมงานของ มอยส์ ในฐานะนักเตะควบโค้ช แต่หลังจากพูดคุยกันคร่าวๆ ที่โรงแรมหรูใน อัลเดอร์ลี่ย์ เอดจ์ ดูเหมือนแนวคิดของทั้งสองคนจะไม่ได้เดินไปด้วยกัน
 
        มอยส์ ต้องการให้ "ปีศาจแดง" เล่นโดยสร้างความอึดอัดให้คู่แข่งมากที่สุด (โดยหารู้ไม่ว่าแฟนตัวเองก็อึดอัด) แต่ กิ๊กส์  โทษฐานที่เป็นคนใน ผู้ซึมซับวิถีแห่ง ยูไนเต็ด มาทั้งชีวิต เชื่อมั่นในปรัชญาสามอย่างคือ บุก, บุก และบุก
 
        จากปากคำที่เคยให้ไว้ ฟาน กัล ก็คงไม่ต่างกันกับสิ่งที่อยู่ในหัวของ กิ๊กส์
 
        "ปรัชญา ของผมคือการบุก และต้องบุกเสมอ ชัยชนะโดยบุกแหลกใส่คู่ต่อสู้บนสนาม ผมเชื่อว่า มันจะเป็นการสร้างความบันเทิงให้สาธารณชนด้วย" โค้ชดัตช์ เคยกล่าวเอาไว้
 
        ยังมีแนวคิดของการกล้าที่จะให้โอกาสเด็ก ซึ่ง กิ๊กส์ เคยแสดงให้เห็นมาแล้วในช่วงปลายซีซั่นที่ส่ง ทอม ลอว์เรนซ์ รวมถึง เจมส์ วิลสัน ลงมาจุดประกายความหวังแห่งอนาคตให้ ยูไนเต็ด
 
        ส่วน การใช้แรงงานเด็ก ถือเป็นหนึ่งในวิธีการของ ฟาน กัล มาตลอดอยู่แล้ว ตั้งแต่ที่ อาแจ็กซ์ (ผู้เล่นกว่าครึ่งทีมอายุต่ำกว่า 22), บาร์ซ่า (เปิดซิง อันเดรส อิเนียสต้า ในยุโรป, ให้ การ์เลส ปูโยล กับ ชาบี เอร์นานเดซ เป็นตัวหลัก) และ บาเยิร์น (ดันดาราเด็กทั้ง โธมัส มุลเลอร์, โฮลเกอร์ บาดชตูเบอร์ และ โทนี่ โครส)
 
        เมื่อคนที่คิดเหมือนกัน มาคอมโบกัน ก็น่าจะไปด้วยกันได้สวย

        ฟรานส์ ฮุค
 
        ถูกบรรยายสรรพคุณในแถลงการณ์ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ว่า "ผู้ช่วยโค้ช, ผู้เชี่ยวชาญเรื่องผู้รักษาประตู"
 
        อดีต นายทวาร โฟเลนดัม วัย 57 ถือเป็นคนสนิทของ ฟาน กัล เพราะติดตามกุนซือดัตช์ไปทุกแห่งหน เริ่มตั้งแต่เป็นโค้ชผู้รักษาประตูที่ อาแจ็กซ์ เมื่อปี 1985 และได้โอกาสทำงานต่อ ตอนที่ ฟาน กัล เดินทางถึงสโมสรเมื่อปี 1991
 
        ฮุค โยกย้ายตาม ฟาน กัล ไปที่ บาร์เซโลน่า, ฮอลแลนด์ และกลับสู่ บาร์เซโลน่า อีกรอบกับโค้ชจอมเฮี้ยบ ก่อนแยกกันช่วงสั้นๆ หลังจากที่ ฟาน กัล อำลา คัมป์ นู ในปี 2003
 
        ในขณะที่ ฟาน กัล กลับบ้านเกิดไปรับงานคุม อาแซด อัลค์มาร์ ในปี 2005 ฝั่งของ ฮุต ก็ไปทำงานให้ทีมชาติโปแลนด์ในช่วงปี 2006-2009 ก่อนทั้งคู่ จะได้ร่วมงานกันอีกครั้งที่ บาเยิร์น มิวนิค รวมถึงในทีมชาติฮอลแลนด์ชุดล่าสุด
 
        ผลงานการโค้ชของ ฮุค คือ เอ๊ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์, เปเป้ เรน่า รวม บิคตอร์ บัลเดส จนมีการทำหนังสือเจาะลึกการเทรนผู้รักษาประตูโดยเฉพาะออกมาวางจำหน่ายเลยที เดียว

        มาร์เซล เบ้าท์ 
 
        โค้ชคนนี้ ต่างจาก ฮุค เพราะเพิ่งมาร่วมงานกับ ฟาน กัล เมื่อไม่นานมานี้
 
        เบ้าท์ วัย 51 ถูกบรรยายสรรพคุณในแถลงการณ์ของ "ปีศาจแดง" ว่า "ผู้ช่วยโค้ช, ผู้เชี่ยวชาญเรื่องการวิเคราะห์เกมคู่แข่ง" ซึ่งเป็นงานถนัด
 
        ฟาน กัล เจอกับ เบ้าท์ ครั้งแรกตอนที่ทำงานให้ อาแซด อัลม่าร์ ซึ่งเขายังเป็นโค้ชให้ทีมเยาวชนในลีกสำรองของแดนกังหันลมด้วย ก่อนในปีต่อมา บูท จะย้ายไปอยู่ เทลสตาร์ ในปี 2009 แล้วย้ายไปช่วยงาน ฟาน กัล อีกครั้งที่ บาเยิร์น มิวนิค
 
        หลังจากที่ ฟาน กัล ออกจาก "เสือใต้" เมื่อปี 2011 นั้น เบ้าท์ ยังอยู่ช่วยงาน จุ๊ปป์ ไฮย์เกส ต่อจนช่วยให้ทีมได้ทริปเปิ้ลแชมป์ ก่อนออกจาก อัลลิอันซ์ อารีน่า เมื่อสิ้นสุดฤดูกาลที่แล้ว

        

อัลเบิร์ต สตุยเวนเบิร์ก
 
        อดีต เทรนเนอร์ทีมชาติฮอลแลนด์รุ่น ยู 21 จะเข้ามารับผิดชอบเรื่องการของการปั้นเด็กใน โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด โดยตรง ผลงานของเขาก่อนหน้านี้ คือการนำทีมชาติรุ่น ยู 17 คว้าแชมป์ยูโร ในปี 2011 และ 2012