เป็นประจำทุกปีที่ก่อนหน้าการเปิดฉากฤดูกาลใหม่ เหล่าบรรดาสโมสรในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ จะทะยอยกันออกชุดแข่งทั้งเหย้า และเยือนแบบต่างๆ ออกมายั่วน้ำลายให้แฟนบอลได้จับจองกัน

"เดลี่เมล์" หนังสือพิมพ์ชื่อดังเมืองผู้ดี ก็มีการรวบรวมชุดที่ทั้ง 20 สโมสรจะใช้ในซีซั่นหน้า มานำเสนอแบบรวดเดียว แถมยังให้คะแนนความสวยงามของแต่ละชุดให้แบบเสร็จสรรพ ลองดูกันเอาเองว่าตรงใจท่านผู้อ่านบ้างหรือไม่

    อาร์เซน่อล

         ปีนี้ พูม่า บริษัทชุดกีฬาเยอรมัน ไม่ได้ออกแบบชุดแข่ง อาร์เซน่อล ให้เลิศหรูอลังการมากนัก เพราะอย่างน้อยการย้ายเข้ามาของ อเล็กซิส ซานเชซ ดาวยิงสัญชาติชิลีจาก บาร์เซโลน่า ก็น่าจะช่วยกระตุ้นยอดชายได้พอสมควร
         สำหรับ 3 ชุดที่จะใช้ในฤดูกาลหน้าเป็นเสื้อแบบรัดรูป ชุดเหย้าให้แขนเสื้อเป็นสีขาวล้วน เอาแถบแดง-ดำออกไป ส่วนชุดเยือนเปลี่ยนตรงแขนมาเป็นสีดำ ส่วนชุดที่ 3 เปลี่ยนจากลายทาขวางตามตัว เป็นลายเฉียง และเพิ่มแขนดำเข้าไป
         คะแนนความสวยงาม: ชุดเหย้า 8/10, ชุดเยือน 7/10, ชุดที่สาม 8/10
 

        แอสตัน วิลล่า
         นอกจากจะไม่มีเงินมาใช้เสริมทัพแล้ว แอสตัน วิลล่า ก็อาจทำรายได้จากยอดขายชุดแข่งได้น้อยลงด้วย แม้พยายามเปลี่ยนให้เหมือนชุดสมัยคว้าแชมป์ ยูโรเปี้ยน คัพ ปี 1982 โดยเอาแถบสีเทาด้านข้างลำตัวออก ให้เหลือสีนี้เฉพาะแขน 3 แทบตัววีตรงคอเสื้อก็ไม่มีแล้วเช่นกัน
         ส่วนชุดเยือนเปลี่ยนแบบพลิกฝ่ามือ จากลายเหลี่ยมตาหมากรุกขนาดใหญ่ มาเป็นขาวล้วน มีแถบสีเลือดหมู 4 เส้นเล็กๆพาดจากบนลงล่าง กางเกงก็เปลี่ยนจากสีดำ มาเป็นสีเลือดหมู ดูสว่างตากว่าเดิมเยอะ
         คะแนนความสวยงาม: ชุดเหย้า 7/10, ชุดเยือน 8/10

        เบิร์นลี่ย์
         ฉลองการเลื่อนชั้นกลับขึ้นมาหนแรกในรอบ 4 ปี ด้วยการเปลี่ยนคอเสื้อ เป็นแบบมีกระดุม และมีแถบสีเทาลงมาถึงกลางอก จากเดิมเป็นคอวีธรรมดา นอกจากนั้นก็เพิ่มเส้นสีเท้าตามข้างลำตัวเข้ามาให้ดูต่างจากฤดูกาลก่อน
         แต่แฟนๆคงอยากร้องไห้เมื่อชุดเยือน กลายเป็นเสื้อคอกลมแถบขาว นอกจากนั้นเป็นสีดำล้วน จากเดิมที่เป็นสีขาวมีแถบตรงคอ และแถบเฉียงจากคอมาทางแขนขวา ซึ่งก็ดูดีอยู่แล้ว ไม่น่าเชื่อว่าบริษัทระดับโลกอย่าง พูม่า จะคิดได้แค่นี้
         คะแนนความสวยงาม: ชุดเหย้า 6/10, ชุดเยือน 6/10

        เชลซี
         อาดิดาส คู่แข่งของ พูม่า ออกแบบเสื้อให้ เชลซี ในฤดูกาลใหม่ได้น่าผิดหวัง เพราะจากเดิมที่เป็นสีน้ำเงินล้วน มีลายสีเข้มเล็กๆพาดลงมา ซึ่งสวยมาก กลับเป็นสีน้ำเงินมีลายดำขวางสลับตั้งแต่บนลงล่าง คอวีสีขาวก็เปลี่ยนเป็นคอกลมสีน้ำเงิน กลืนไปกับลำตัว
         ขณะที่ชุดเยือนปีนี้มาใช้สีเหลืองล้วนโดยมีแถบที่ไหลและคอปกเป็นสี น้ำเงิน ส่วนชุดที่ 3 ด้านบนเป็นพื้นดำธรรมดาเหมือนปีก่อน แต่พอถัดจากสปอนเซอร์ลงไปเป็นลายเส้นสีกรมท่าแนวดิ่ง
         คะแนนความสวยงาม: ชุดเหย้า 6/10, ชุดเยือน 9/10, ชุดที่สาม 6/10

        คริสตัล พาเลซ
         หลังใส่ชุดคล้าย บาเซิ่ล เมื่อฤดูกาลก่อน เพราะใช้ชุดสีแดง-ม่วง สีละครึ่งตัว มีแถบคอเ และแขนสื้อสีเหลือง มาคราวนี้ คริสตัล พาเลซ กลับมาใส่ชุดสีน้ำเงินสลับแดง เหมือนที่พวกเขาเคยใช้มาก่อน แถบคอเปลี่ยนเป็นสีน้ำเงิน แต่ขอบแขนยังเป็นสีเหลืองเช่นกัน
         ส่วนชุดเยือนเปลี่ยนจากพื้นดำ มีแถบเฉียงสีน้ำเงิน-แดง เป็นเสื้อเหลือง แถบคอ แถบข้าง แถบแขนเสื้อ เป็นสีฟ้าทั้งหมด ดูเป็นทีมอังกฤษ รวมทั้งสดใสมากขึ้นกว่าเดิม แต่สีสันก็ยังจืดชืด และโบราณไปหน่อย
         คะแนนความสวยงาม: ชุดเหย้า 6/10, ชุดเยือน 7/10
 

        เอฟเวอร์ตัน
         หนึ่งในทีมที่มีพัฒนารูปแบบชุดแข่งดีขึ้น แถบสีขาว 2 เส้นขนาดใหญ่ตรงแขนเสื้อ และคอปกสีขาว หายไปพร้อมกับยี่ห้อ ไนกี้ กลายเป็นสีน้ำเงินเข้มทั้งตัว มีคอกลมสีดำ ภายใต้การออกแบบชอง อัมโบร ซึ่งดูทันสมัยขึ้น แม้คล้ายปีที่ได้แชมป์ เอฟเอ คัพ 1995
         แต่ชุดเยือนทำออกมาเรียบง่ายไปนิด เพราะเป็นชุดดำล้วนเหมือนที่ใช้ในฤดูกาล 2002/03 และ 2012/13 แต่ก็ยังเข้าท่ากว่าฤดูกาลก่อนที่ท่อนบนเป็นสีน้ำเงิน มีแถบเหลือง ท่อนล่างก็เป็นสีเหลือง ซึ่งดูไม่ค่อยคุ้นตาเท่าไหร่สำหรับสาวก "ทอฟฟี่เมน"
         คะแนนความสวยงาม: ชุดเหย้า 8/10, ชุดเยือน 7/10

        ฮัลล์ ซิตี้
         ดูเผินๆเหมือนยังใช้ชุดเดิม เพราะเป็นเสื้อสีเหลืองสลับดำเช่นเคย แต่พวกเขาเปลี่ยนจาก อาดิดาส มาเป็น อัมโบร โดยเอาแถบดำขนาดใหญ่ที่แขนออกไป โลโก้ตอนนี้ไม่มีชื่อทีมอีกแล้ว มีแค่หัวเสือ กับปีก่อตั้ง สปอนเซอร์ใหม่ก็เข้ามาแทนของเดิมด้วย
         คะแนนความสวยงาม: ชุดเหย้า 7/10

        เลสเตอร์ ซิตี้
         ยังคงยึดคติที่ว่าถ้าของเก่ามันดีอยู่แล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงอะไร ดังนั้น พูม่า จึงไม่คิดอะไรมากในการผลิตชุดแข่งให้ เลสเตอร์ ซึ่งปรับสถานะจากทีมแชมเปี้ยนชิพ กลายเป็นหนึ่งในสมาชิกพรีเมียร์ลีกเรียบร้อยแล้ว
         คะแนนความสวยงาม: ชุดเหย้า 7/10

        ลิเวอร์พูล
         ชุดเหย้าเปลี่ยนจากฤดูกาลก่อน ตรงแถบขาวตรงคอวี และปลายแขนเสื้อหายไป กลายเป็นชุดคอกลม มีลายเส้นสีขาวพาดจากไหล่ลงมาบริเวณเหนือหน้าอก และจากไหล่ไปจรดรอบวงแขน นอกจากนั้นยังมีลายเส้นสีขาวตรงข้างลำตัวด้วย
         ชุดเยือนเปลี่ยนจากเสื้อคอวีสีขาว มีลายแดงจากใต้แขนลงล่าง และบริเวณหัวไหล่ รวมถึงลวดลายสลับสีตรงส่วนล่างสปอนเซอร์ กลายเป็นเสื้อคอกลม สีเหลืองทั่วตัว ลายแดงด้านข้างคล้ายเดิม แต่บริเวณไหล่เป็นการพาดยาวตามขวาง ไม่มีแถบคอ
         แต่ชุดที่ 3 ถือว่าน่าผิดหวัง เพราะจากที่เคยใช้สีขาว-ม่วงตรงด้านล่างสปอนเซอร์ และไหล่ทั้ง 2 ข้างสลับสีกัน ส่วนหน้าอกเป็นสีดำ กลายมาเป็นเสื้อลายขวางดำสลับเทาบริเวณท่อนบน ส่วนใต้สปอนเซอร์มีแถบเฉียงแดง-ดำมาตัดสลับสีอีกที ทำให้มันดูรกๆพิกล
         คะแนนความสวยงาม: ชุดเหย้า 8/10, ชุดเยือน 7/10, ชุดที่สาม 4/10
 

        แมนเชสเตอร์ ซิตี้
         ยังทำได้ดีสมกับเป็นทีมอันดับ 1 ของลีก เพราะยังคงเอกลักษณ์ตัวเสื้อเป็นสีฟ้าอ่อนเช่นเดิม แต่เปลี่ยนแถบตรงคอเสื้อ และรอบวงแขนจากสีขาว เป็นสีน้ำเงินเข้มออกดำ ทำให้ดูหนักแน่น มีพลังมากกว่าเดิม
         สีน้ำเงินเข้มนั้นยังกลายมาสีหลักของชุดเยือน แทนการใช้เทาสลับดำ แถมสร้างความแตกต่างด้วยการเปลี่ยนเป็นคอปก โลโก้ที่เคยใช้สีน้ำตาล จนถูกกลืนไปกับสีเสื้อ กลับมาเด่นชัดขึ้นเมื่อใข้สีฟ้า-ขาว ส่วนสปอนเซอร์ก็เปลี่ยนมาใช้สีเหลือง
         คะแนนความสวยงาม: ชุดเหย้า 8/10, ชุดเยือน 8/10

        แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
         เพื่อลบความทรงจำจากฤดูกาลก่อน ไนกี้ เลยเปลี่ยนจากเสื้อปกสีดำ มาเป็นคอกลมสีขาวแถบดำ และเพิ่มขอบแขนสีขาวแถบดำเข้าไปอีก เป็นการปิดท้ายการทำงานร่วมกันกับ แมนฯ ยูไนเต็ด ด้วยความสดใส
         เสื้อปกดำกลับไปใช้ในชุดเยือน ซึ่งตัวเสื้อเป็นสีขาวล้วน แทนเสื้อคอกลม พื้นสีเทาสลับดำ ที่ดูมึดมนจนเกินไป ส่วนชุดที่ 3 ซึ่งเคยใช้พื้นขาว มีลายเส้นสีแดงรอบคอลม ไล่มาถึงหน้าอก รวมถึงรอบแขน ก็จัดจ้านขึ้นเมื่อหันมาใช้สีน้ำเงินล้วน และเพิ่มคอปกเข้าไป
         คะแนนความสวยงาม: ชุดเหย้า 7/10, ชุดเยือน 8/10, ชุดที่สาม 7/10

        นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด
         ชุดเยือนเปลี่ยนจากเสื้อคอกลมสีกรมท่า มีลายเส้นสีฟ้าพาดจากคอไปที่แขน บวกด้วยเส้นเฉียงจากคอไปใต้วงแขน เป็นสีเทาอ่อนที่ แมนฯ ยูไนเต็ด เคยใช้แข่งแค่ครึ่งเกมเมื่อปี 1996 นอกจากนั้นก็ยังเปลี่ยนคอวีมีแถบดำ ซึ่งยังคงความน่าผิดหวังได้อย่างคงเส้นคงวา
         คะแนนความสวยงาม: ชุดเยือน 5/10
 

        ควีนส์ปาร์ค เรนเจอร์ส
         ฉลองเลื่อนชั้นด้วยการเปลี่ยนกลับมาใช้เสื้อขาวสลับน้ำเงิน สีละ 7 แถบแนวนอนทั่วทั้งชุด ซึ่งเป็นลายดั้งเดิมของพวกเขา หลังฤดูกาลก่อนใช้แค่สีละ 3 แถบ โดยเปลี่ยนบริษัทผู้ผลิตจาก ล็อตโต้ ของอิตาลี มาเป็น ไนกี้ แบรนด์สัญชาติอเมริกัน
         ส่วนชุดเยือนเป็นสีแดงสลับดำหลายแถบแนวดิ่ง จากฤดูกาลก่อนใช้แดงสลับดำ 3 แถบแนวนอนเหมือนชุดเหย้า ขณะชุดที่ 3 เปลี่ยนจากพื้นสีเขียว มีแถบคาดแนวขวาง 4 เส้น มาเป็นสีขาวล้วน เหมือนตอนคว้าลีก คัพ ปี 1967 ดูแล้วไม่เหมือนเสื้อทีมฟุตบอลด้วยซ้ำ
         คะแนนความสวยงาม: ชุดเหย้า 7/10, ชุดเยือน 7/10, ชุดที่สาม 4/10

        เซาธ์แฮมป์ตัน
         เป็นอีกทีมที่กลับมาใช้เสื้อลายเดิมที่แฟนบอลคุ้นเคย คือแดงสลับขาวแนวดิ่ง จากฤดูกาลก่อนพวกเขาใส่ชุดแดงล้วน จะมีแถบขาวก็เฉพาะบริเวณแขนเท่านั้น แต่ที่เปลี่ยนได้ยาก คือการรั้งดาวดังให้อยู่ช่วยทีมต่อไปนานๆ
         ส่วนชุดเยือน เหมือนสะท้อนความรู้สึกหดหู่ของแฟนบอล ที่มึดมนกับอนาคตสโมสร เพราะเป็นลายสีกรมท่าสลับน้ำเงินเข้ม แต่อย่างน้อยก็ยังพอดูดีขึ้นกว่าฤดูกาลก่อนที่เป็นสีดำล้วน ซึ่งหม่นหมอง และไร้สีสัน
         คะแนนความสวยงาม: ชุดเหย้า 7/10, ชุดเยือน 7/10
 

        สโต๊ค ซิตี้
         แม้จะเปลี่ยนยี่ห้อจาก อาดิดาส มาเป็น วอร์ริเออร์ เรียบร้อยแล้ว แต่บริษัทอเมริกันยังคงออกแบบให้ สโต๊ค ใช้ชุดแบบเดิมเหมือนฤดูกาลก่อน คือลายขาวสลับแดง เปลี่ยนจากคอปก เป็นคอวี และเพิ่มแถบขาวกลางหน้าอกจาก 2 เป็น 3 แถวเท่านั้น
         ที่เปลี่ยนชัดเจนคือชุดเยือน จากพื้นสีดำ 3 แถบบนบ่าสีเหลือง แถบขาวขนาดใหญ่บนแขนเสื้อ มาเป็นพื้นสีฟ้ามีลายเฉียงสีดำพาด 2 เส้น ทำให้ดูมีคลาสขึ้นเหมือนสโมสรใหญ่หลายแห่งที่ วอร์ริเออร์ ผลิตให้
         คะแนนความสวยงาม: ชุดเหย้า 7/10, ชุดเยือน 8/10

        ซันเดอร์แลนด์
         อาดิดาส อาจเลิกผลิตชุดให้ สโต๊ค แต่ยังจับมือกับ ซันเดอร์แลนด์ ต่อไป แม้จะใช้แถบแดง-ขาวสลับเแนวดิ่งหมือนเดิม ก็เปลี่ยนจากแถบขาว 3 แถวก็เป็นแถบแดง 3 แถว จนเหมือน "ช่างปั้นหม้อ" ฤดูกาลก่อน ส่วนแถบขาวตรงคอ ก็เปลี่ยนเป็นดำ-ทอง
         ส่วนชุดเยือน เปลี่ยนจากพื้นเหลือง มีขลิบดำ-แดงใต้วงแขน มาเป็นสีฟ้าน้ำทะเล มีเส้นดำลากแนวดิ่ง 6 เส้น ดูเด่นขึ้นมาถนัดตา และน่าจะหวังยอดขายจากมันได้มากกว่า การคิดถึงค่าตัวที่จะได้จากการปล่อยนักเตะในทีมออกไป
         คะแนนความสวยงาม: ชุดเหย้า 7/10, ชุดเยือน 8/10
 

        สวอนซี ซิตี้
         ดีไซเนอร์มือดีของ อาดิดาส อาจอยู่ในช่วงหยุดงาน ตอนพวกเขาต้องออกแบบชุดใหม่ให้ สวอนซี หรือไม่ก็มีเวลาผลิตจำกัด ทำให้เวลาที่ชุดออกมาจึงดูจืดชืด ไร้สีสัน และไม่เข้ากับสปอนเซอร์บนหน้าอกอย่างแรง
         ทั้งชุดเหย้าที่ไม่มีแถบดำบนแขนเสื้ออีกแล้ว แต่มันก็ไม่ได้ทำให้โลโก้ของสปอนเซอร์ดูเด่นชัดขึ้นอย่างที่ควร ชุดเยือนอาจไม่ดูแย่แบบฤดูกาลก่อน ที่มีแถบเหลืองขนาดใหญ่ด้านบนของชุดสีม่วง แต่เป็นชุดสีม่วง-แดงหมือนตัวการ์ตูน
         คะแนนความสวยงาม: ชุดเหย้า 4/10, ชุดเยือน 5/10

        ท็อตต์แน่ม ฮ็อตสเปอร์
         เปลี่ยนกุนซือ ก็เปลี่ยนชุดแข่งไปด้วย สเปอร์ส ต้อนรับการเข้ามาของ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ ด้วยเสื้อที่มีข้อความ "สะท้อนถึงความรุ่งเรือง" ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในคำพูดอมตะของ บิลล์ นิโคลสัน ตำนานกุนซือสโมสรที่ลาโลกไปนานกว่า 10 ปีแล้ว
         ชุดเหย้าเป็นสีขาวล้วนเหมือนเดิม แต่เพิ่มสีสันด้วยการมีลายเส้นสีดำพาดขวางจากแขนข้างหนึ่งไปอีกข้าง แถมมีแถบดำที่คอเสื้อด้วย ส่วนชุดเยือนเป็นสีดำล้วน มีลายเส้นแนวดิ่งสีเหลืองตรงตอลงมายังหน้าอก ซึ่งเป็นรูปแบบที่แปลกใหม่ดี
         คะแนนความสวยงาม: ชุดเหย้า 7/10, ชุดเยือน 8/10

        เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน
         สร้างความประหลาดใจได้พอสมควร เมื่อเปลี่ยนจากรูปแบบเดิมๆที่เป็นเสื้อสีฟ้าสลับขาวที่เห็นกันจนชินตา มาเป็นเสื้อพื้นขาว มีเส้นสีฟ้า 6 เส้นเล็กพาดแนวดิ่ง แถบใหญ่สีฟ้าตรงแขนก็หายไป กลายเป็นแถบ 2 สี ฟ้ากับขาวแทน
         คะแนนความสวยงาม: ชุดเหย้า 7/10

        เวสต์แฮม ยูไนเต็ด
         พวกเขากลับไปใช้เสื้อที่เหมือนกับฤดูกาล 1985-86 ซึ่งพวกเขาได้อันดับ 3 บนลีกสูงสุด ถือเป็นผลงานที่ดีสุดในประวัติศาสตร์สโมสร เสื้อเป็นสีเลือดหมูเหมือนฤดูกาลก่อน แต่เพิ่มลายเส้นสีขาวพาดตามขวาง และตรงแขนก็ไม่มีสีฟ้าอีกแล้ว
         สำหรับชุดเยือน เวสต์แฮม หันมาใช้พื้นเสื้อสีฟ้าอ่อน มีแถบน้ำเงินขนาดใหญ่พาดเฉียงจากซ้ายลงไปทางขวา ดูเหมือนคิดกันง่ายไปหน่อย แต่ก็ดีกว่าชุดสีขาวมีแถบสีเลือดหมูใต้วงแขน ที่ใช้เมื่อฤดูกาลก่อน ซึ่งมองแล้วให้ความรู้สึกจืดชืดพอสมควร
         คะแนนความสวยงาม: ชุดเหย้า 8/10, ชุดเยือน 7/10