ฟุตบอล สแปนิช ซูเปอร์ คัพ นัดสอง

       วันศุกร์ที่ 22 สิงหาคม 2557

     แอตเลติโก มาดริด 1 - 0 เรอัล มาดริด

     (รวมผลสองนัด แอต.มาดริด ชนะ 2-1)
     
สนาม : เอสตาดิโอ บิเซนเต้ กัลเดร่อน

         ซูเปอร์โกปา เด เอสปันญ่า หรือ สแปนิช ซูเปอร์ คัพ เวอร์ชั่น ''มาดริดดาร์บี้'' นัดสองกลับมาเล่นบนสังเวียน ''บิเซนเต้ กัลเดรอน'' หลังทั้งสองทีมเสมอกันที่ ''ซานติอาโก้ เบร์นาเบว'' 1-1 ทีมตราหมีจึงกุมความได้เปรียบเหนือทัพชุดขาวจากการยิงประตูนอกบ้าน

         เกมนี้ ดีเอโก้ ซิเมโอเน่ นายใหญ่ของทัพแอตเลติโก มาดริด ไม่มี อาร์ดา ตูราน เพลย์เมกเกอร์ชาวเติร์กสภาพร่างกายไม่สมบูรณ์ ทำให้ส่ง อ็องตวน กรีซมันน์ เดินเกมรุกร่วมกับ ราอูล การ์เซีย และฆอร์เค่ โกเก้ โดยมี มาริโอ มานด์ซูคิช ยืนเป็นหน้าเป้า

         ส่วนทางฝั่งอาคันตุกะผู้มาเยือน เรอัล มาดริด พัก คริสเตียโน่ โรนัลโด้ และเปเป้ สองผู้เล่นชาวโปรตุกีสไว้ที่ม้านั่งข้างสนามหลังยังไม่ฟิตเต็มร้อย และไร้ชื่ออังเคล ดิ มาเรีย ทั้งตัวจริงและตัวสำรอง ทำให้เกมนี้ คาร์โล อันเชลอตติ จัดแนวรุกมี แกเร็ธ เบล, คาริม เบนเซม่า และฮาเมส โรดริเกซ

         เริ่มเกมได้แค่สองนาที เสียงเฮลั่นใน บิเซนเต้ กัลเดร่อน ดังกระหึ่มเมื่อเจ้าถิ่นได้ประตูขึ้น 1-0 อย่งรวดเร็ว จากจังหวะเตะบอลยาวของ มิเกล โมย่า นายทวารเจ้าถิ่น ราฟาแอล วารานโหม่งเคลียร์บอลไม่เด็ดขาด อ็องตวน กรีซมันน์ โขกชงให้ มาริโอ มันด์ซูคิช หลุดเข้าไปอัดบอลด้วยขวาผ่านมือ กาซียาส เข้าซุกก้นตาข่าย ทำให้สกอร์รวม ทีมตราหมี ขึ้นนำ 2-1

         นาที 18 เกมต้องหยุดชะงักชั่วคราวหลัง เซร์คิโอ รามอส เข้าไปอัด มาริโอ มานด์ซูคิช ทำให้ผู้เล่นของเจ้าถิ่นไม่พอใจ และจากจังหวะฟรีคิกวางยาวขึ้นมา ชูเอา มิรันด้า แนวรับเจ้าถิ่นหลุดเข้าไปยิง บอลหลุดหลังออกไปแบบได้ลุ้น

         แข้งราชันชุดขาวโหมบุกกระหน่ำหวังทวงประตูตีเสมอ นาที 24 ดาเนี่ยล การ์บาฆัล ปาดบอลเข้ามาให้ ฮาเมส โรดริเกซ ยิงหน้าปากประตูแต่บอลไม่พ้นมือ มิเกล โมย่า ก่อนที่ ฆวนฟราน จะเคลียร์สกัดออกไปอีกที

         นาที 36 ราชันชุดขาว พลาดได้ประตูตีเสมอไปอีกหน โทนี่ โครส ตักบอลเข้ากลางระยะไม่ถึง 12 หลา ฮาเมส โรดริเกซ หนีตัวประกบโฉบเข้ามาโขกบอลหลุดเสาออกไปอย่างน่าเสียดาย

         ถัดมาอีกสองนาที ฮาเมส ไหลบอลต่อให้ แกเร็ธ เบล ได้ซัดด้วยซ้ายบอลถากเสาแรกหลุดกรอบออกไปแบบได้เสียวอีกหน

         นาที 43 ตราหมี เกือบได้บวกประตูเพิ่ม เมื่อ ราอูล การ์เซีย ได้ซัดเต็มข้อระยะกว่า 30 หลาบอลพุ่งแรงตรงกรอบแต่ยังไม่พ้นมือ อีเกร์ กาซียาส ที่ปัดมือเดียวออกหลังไป

         จากนั้นแค่นาทีเดียวถัดมา อาคันตุกะ ได้โต้ขึ้นมา ฮาเมส โรดริเกซ เกือบโชว์ทีเด็ดตะบันไกลบอลหลุดเสาสองออกไปแบบได้ลุ้น จบครึ่งแรก เจ้าถิ่น แอตเลติโก มาดริด ขึ้นนำ เรอัล มาดริด 1-0

         ออกสตาร์ทครึ่งหลัง คาร์โล อันเชลอตติ แก้เกมทันที ส่ง คริสเตียโน่ โรนัลโด้ สตาร์คนดัง ลงมาแทน โทนี่ โครส

         แต่เริ่มเกมขึ้นมาเป็นฝั่ง แอต. มาดริด ที่บุกขึ้นมาได้อย่างน่ากลัวกว่า และจากจังหวะฟรีคิกฝั่งซ้าย ราอูล การ์เซีย ได้ตะหวัดยิงบริเวณจุดโทษ บอลพุ่งไปชนคานกระเด้งลงมาแต่ยังไม่ข้ามเส้นประตู ก่อนที่ อีเกร์ กาซียาส ยังไว พุ่งปัดทิ้งเอาไว้ได้ก่อนจะโดนผู้เล่นตราหมีตามซ้ำ

         นาทีที่ 57 ราอูล การ์เซีย ยังคงเป็นตัวอันตรายของฝั่งตราหมี ได้ซัดแบบไม่จับตรงเส้นเขตโทษเยื้องไปทางขวา บอลไซด์เฉียดสามเหลี่ยมเสาสองออกไปนิดเดียวเท่านั้น

         5 นาทีต่อมา เรอัล มาดริด ตอบโต้มาบ้าง คาริม เบนเซม่า จ่ายให้ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ได้ลองส่องไกล ประมาณ 30 หลา บอลพุ่งแรง แต่ไปตรงตัวมิเกล โมย่า รับเข้าซอง

         ผ่านไป 70 นาที ทัพตราหมี ที่ใช้จังหวะสวนกลับเร็วเล่นงาน โกเก้ ได้บอลทางฝั่งซ้าย ก่อนจะลากตัดเข้าใน แล้วอัดด้วยขวาเต็มๆ บอลลอยข้ามคานไปแบบได้เสียว

         ช่วงท้ายเกม ราชันชุดขาว บุกอย่างหนัก โดยเฉพาะคริสเตียโน่ โรนัลโด้ แต่ก็ยิงไปติดแผงหลังแอต. มาดริด หมด

         จากนั้นช่วงทดเวลาออกไป 4 นาที สถานการณ์ของทัพราชัน ก็แย่ลงไปอีก เมื่อต้องเหลือผู้เล่น 10 คน หลังลูก้า โมดริช ไปทำฟาวล์ คริสเตียน โรดริเกซ ทำให้โดนใบเหลืองที่สองไล่ออกจากสนามไป

         จบเกม แอตเลติโก มาดริด เอาชนะ เรอัล มาดริด ไปได้ 1-0 รวมสองนัดทีม "ตราหมี" ชนะ 2-1 คว้าแชมป์ สแปนิช ซูเปอร์ คัพ ไปครอง

         11 ผู้เล่นที่ลงสนาม
         แอตเลติโก มาดริด (4-2-3-1) : มิเกล โมย่า - ฆวนฟราน, ชูเอา มิรันด้า, ดีเอโก้ โกดิน, กิลเยร์เม่ ซิเกร่า - ติอาโก้ เมนเดส, กาบี เฟร์นานเดซ - ฆอร์เค่ โกเก้, ราอูล การ์เซีย, อ็องตวน กรีซมันน์ - มาริโอ มานด์ซูคิช
         เทรนเนอร์ : ดีเอโก้ ซิเมโอเน่

         เรอัล มาดริด (4-3-3) : อีเกร์ กาซียาส - ดาเนี่ยล การ์บาฆัล, ราฟาแอล วาราน, เซร์คิโอ รามอส, ฟาบิโอ โกเอนเตรา - ลูก้า โมดริช, ชาเบียร์ อลอนโซ่, โทนี่ โครส - แกเร็ธ เบล, คาริม เบนเซม่า, ฮาเมส โรดริเกซ
         เทรนเนอร์ : คาร์โล อันเชลอตติ