ห้างยาสุดเจ๋ง!บุกคว่ำเสือเหลืองคาบ้าน2-0
Posted 24/08/2014 by siamsport
ฟุตบอล บุนเดสลีกา เยอรมัน
วันเสาร์ที่ 23 สิงหาคม 2557
ดอร์ทมุนด์ 0-2 เลเวอร์คูเซ่น
สนาม : ซิกนัล อิดูน่า สตาดิโอน
เจอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือดอร์ทมุนด์ เจอปัญหาแข้งเจ็บเพียบ โดยแดนหน้าวาง ชิโร่ อิมโมบิเล่ ล่าตาข่าย และมีมาร์โค รอยส์ สนับสนุน ซึ่งเกมนี้ถือเป็นการทุบสถิติโค้ชคุมเสือเหลืองนานที่สุดในประวัติศาสตร์แซง อ๊อตมาร์ ฮิทซ์เฟลด์ ของคล็อปป์ด้วย ฟาก เลเวอร์คูเซ่น ของกุนซือใหม่ โรเจอร์ ชมิดท์ วาง สเตฟาน คีสลิงก์ ค้ำหน้าเป้า
เริ่มเกมมาแค่ 9 วินาที "ห้างขายยา" ก็ทะยานนำ 1-0 จากการเขี่ยบอลแล้วขึ้นเกมจังหวะแรก เซบาสเตียน เบอนิช ปาดจากซ้ายเข้ากลางให้ คาริม เบลลาราบี้ แตะอ้อมตัว มัทธีอัส กินเตอร์ ก่อนยิงจากเส้นเขตโทษ ส่งบอลเรียดเบียดเสาเข้าไป โดยประตูนี้ถือเป็นสถิติใหม่ของประตูที่เร็วที่สุดของศึกบุนเดสลีกาด้วย
เจ้าบ้านได้ลุ้นทวงคืนในจังหวะต่อมา รอยส์ เปิดฟรีคิกเข้าเขตโทษ กินเทอร์ สอดขึ้นมาโขกหลุดกรอบ
นาทีที่ 20 ทีมเยือนเกือบหนีห่าง จากฟรีคิกระยะอันตราย ฮาคาน ชัลลาโนลู ปั่นด้วยขวา บอลโค้งข้ามกำแพง หลุดสามเหลี่ยมเสาแรกออกหลังไม่ไกล
เลเวอร์คูเซ่นยังได้ลุ้นมากกว่า จากจังหวะสวนกลับเร็วทิน เชดวาย กระชากเข้าเขตโทษฝั่งขวา ก่อนซัดหมายเสียบเสาแรกแต่บอลออกหลังไปแบบได้เสียว จบ 45 นาทีแรก ทีมเยือนจึงบุกนำอยู่ 1-0
กลับมาเตะกันต่อ นาทีที่ 54 คีสลิงก์ โหม่งต่อให้ ซน เฮือง-มิน ยิงในเขตโทษไปติดบล็อก บอลยังไม่พ้นอันตราย เบอนิช ซัดสวนด้วยซ้ายจากนอกเขตโทษก็ยังไปติดบล็อกอีกหน
รูปเกม "เสือเหลือง" ตื้อสุดๆ แทบหาโอกาสยิงไม่เจอ คล็อปป์ จึงถอด รอยส์ กับมิลอส โยยิช ออกในนาทีที่ 75 แล้วส่ง โยนาส โฮฟมันน์ กับ เควิน โกรสส์ครอยท์ซ ลงมาแก้สถานการณ์
เข้าสู่ท้ายเกมเจ้าถิ่นได้ลุ้นจากลูกนิ่ง 2 หน นาทีที่ 84 โฮฟมันน์ โญนให้ กินเตอร์ โขกลงพื้นบอลกระดอนสูงพุ่งเข้ามุม ทว่า แบรนด์ เลโน่ บินปัดได้สวย ถัดมา 5 นาที จากฟรีคิกเเข้งห้างยาสกัดไม่ขาด อิมโมบิเล่ โถมโขกจ่อๆ แต่เลโน่ก็ยังโดดขวางได้ทัน
กลายเป็นเลเวอร์คูเซ่นที่ได้ประตูย้ำชัย 2-0 ในช่วงทดเจ็บนาทีสุดท้าย เบลลาราบี้ โชว์ขยันเบียดแย่งบอลจาก เอริค ดวร์ม ก่อนจ่ายให้ คีสลิงก์ เข้าชาร์จโล่งๆเสียบตาข่าย ก่อนจะจบเกมไปด้วยสกอร์นี้ พาห้างขายยาประเดิม 3 แต้มแรกได้อย่างสวยงาม
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
ดอร์ทมุนด์ (4-1-2-1-2) : มิทเชลล์ ลังเกรัค - ลูคัส พิสซ์เช็ค, โซคราติส ปาปาสตาโธปูลอส, มัทธีอัส กินเตอร์, เอริค ดวร์ม - เซบาสเตียน เคห์ล - มิลอส โยยิช (เควิน โกรสส์ครอยท์ซ น.75), เฮนริค มคิทาร์ยาน - มาร์โค รอยส์ (โยนาส โฮฟมันน์ น.75) - ปิแอร์ เอเมอริค โอบาเมย็อง, ชิโร อิมโมบิเล่
สำรองไม่ได้ใช้: โรมัน ไวเดนเฟลเลอร์, เนเว่น ซูโบติช, คาเลด นารีย์, สเวน เบนเดอร์, มิตซึรึ มารุโอกะ
เลเวอร์คูเซ่น (4-2-3-1) : แบรนด์ เลโน - ติน เจดวาจ์, โอเมอร์ ท็อปรัค, เอเมียร์ สปาฮิช, เซบาสเตียน เบอนิช - กอนซาโล กาสโตร, ซิโมน โรลเฟส (สเตฟาน ไรนาร์ทซ์ น.62) - คาริม เบลลาราบี้, ฮาคาน ชัลลาโนลู (คีเรียกอส ปาปาโดปูลอส น.80), ซน เฮือง มิน (ยูเลียน บรันด์ท น.76) - สเตฟาน คีสลิงก์
สำรองไม่ได้ใช้: ดาริโอ เครซิช, เวนเดลล์, โยซิป เดอร์มิช, เลวิน ออซตูนาลี
ผู้ตัดสิน : เดนิซ อายเตคิน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
TOP 5 ข่าวในรอบ 3 วัน
อัลบั้มภาพเด็ดๆ
มาย ฮาเร็ม ส่งภาพเขย่าโซเชียล นุ...
เจนนี่ ธมนภัค พริตตี้สุดฮอต นุ่ง...
ฮาน่า ฮาอึน ชอง ดาว TikTok สาวสว...
นาฟ ฉัฐนันท์ ปล่อยแซ่บท้าลมหนาว ...
เต็มที่แล้ว! ไทย พ่าย อุซเบกิสถา...
ตัดเกรด นักเตะไทย เกมเสมอ โอมาน ...
คลิปไฮไลท์