ดิมาเรียโชว์!ฟ้าขาวล้างตาบุกรัวยิงอินทรีเหล็ก4-2
Posted 04/09/2014 by siamsport
อังเคล ดิ มาเรีย โชว์ฟอร์มสมราคานักเตะค่าตัวแพงที่สุดของเกาะอังกฤษ หลังแอสซิสต์ให้เพื่อนทำประตู 3 ครั้ง ก่อนที่เจ้าตัวจะมายิงปิดท้าย ช่วยให้ "ทัพฟ้าขาว" อาร์เจนติน่า บุกไปเอาชนะ "แชมป์โลก" เยอรมัน ถึงถิ่น 4-2 ในการแข่งขันฟุตบอลนัดกระชับมิตรทีมชาติ เมื่อวันพุธที่ 3 กันยายน ที่ผ่านมา
การแข่งขันฟุตบอลนัดกระชับมิตรทีมชาติ
วันพุธที่ 3 กันยายน 2557
เยอรมัน 2-4 อาร์เจนติน่า
สนาม: เอสปรีต์-อารีน่า, (ดุสเซลดอร์ฟ, เยอรมัน)
ก่อนเริ่มเกมนี้ทางฝ่ายจัดการแข่งขันได้มีพิธีไว้อาลัยให้กับ ฮูลิโอ กรอนโดน่า ประธานสมาคมฟุตบอลอาร์เจนตินา (เอเอฟเอ) และ รองประธานอาวุโสของสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) ที่เสียชีวิตด้วยวัย 82 ปี จากภาวะหัวใจล้มเหลว เมื่อวันพุธที่ 30 กรกฏาคม ที่ผ่านมา โดยผู้เล่นทั้งสองทีมยืนสงบนิ่งอยู่บริเวณกลางสนามเป็นเวลา 1 นาที
เปิดเกมครึ่งแรกมาได้ 7 นาที เยอรมัน ได้ลุ้นก่อนจากจังหวะที่ คริสตอฟ เครเมอร์ ตักบอลจากกลางสนามข้ามกองหลัง มาริโอ โกเมซ หลุดเดี่ยวเข้าไปดวลตัวต่อตัวกับ เซร์คิโอ โรเมโร่ นายทวารทีมชาติอาร์เจนติน่า ทว่า โกเมซ ยิงไปติดเซฟของ โรเมโร่ อย่างน่าเสียดาย
อย่างไรก็ตามเป็นทัพฟ้าขาว ที่มาได้ประตูขึ้นนำก่อนในนาทีที่ 20 จากจังหวะที่ทำเกมรุกขึ้นมาหน้าเขตโทษฝั่งขวา อังเคล ดิ มาเรีย จ่ายไซด์ก้อยด้วยซ้ายเข้าเขตโทษให้กับ เซร์คิโอ อเกวโร่ "กุน" สอดมาแปด้วยขวาตัดหน้า มานูเอล นอยเออร์ นายทวารทีมชาติเยอรมันตุงตาข่าย ช่วยให้ อาร์เจนติน่า นำก่อน 1-0
เจ็ดนาทีต่อมา เยอรมัน น่าได้คืน เมื่อ ลูคัส บิเกลีย เสียบอลให้ คริสตอฟ เครเมอร์ เลี้ยงเข้าเขตโทษก่อนล็อกหาจังหวะจ่ายให้ มาร์โค รอยส์ ที่เติมขึ้นมาไหลให้ มาริโอ โกเมซ ซัดด้วยซ้าย แต่ก็ยังไม่ผ่าน โรเมโร่ อีกตามเคย
ผ่านมา 40 นาที ทีมเยือนโต้กลับเร็วบอลมาถึง อังเคล ดิ มาเรีย วิ่งไปรับบอลสุดเส้นฝั่งขวา ก่อนโยนกลับมาบริเวณจุดโทษ เอริค ลาเมล่า ตั้งเท้าแปกระแทกด้วยซ้ายแบบไม่จับบอลเสียบสามเหลี่ยมสุดสวยช่วยให้ อาร์เจนตินา ขึ้นนำ 2-0
ก่อนหมดครึ่งแรกเพียงหนึ่งนาที เยอรมัน พลาดโอกาสตีไข่แตก มาร์โค รอยส์ ยิงไกลหน้าเขตโทษ เซร์คิโอ โรเมโร่ รับกระฉอกบอลหลุดมาถึง มาริโอ โกเมซ แปด้วยซ้ายออกไปแบบไม่ได้ลุ้น หมดครึ่งแรก อาร์เจนติน่า นำก่อน 2-0
มาเล่นกันต่อในครึ่งหลังได้แค่ 2 นาที "อัลบิเซเลสเต้" มาได้ประตูที่สามฉีกหนีออกไปจากจังหวะที่ อังเคล ดิ มาเรีย เปิดฟรีคิกจากกราบซ้ายไปเสาสองให้กับ เฟเดรีโก้ เฟร์นานเดซ โถมมาโหม่งจ่อๆจากระยะแค่ 6 หลา เข้าไปให้ อาร์เจนติน่า นำขาด 3-0 และเป็นแอสซิสต์ที่สามของดิ มาเรีย ในเกมนี้แล้ว
จากนั้นนาทีที่ 50 อาร์เจนติน่า ต่อเกมกันมาอย่างสวยงามจากแดนตัวเอง อังเคล ดิ มาเรีย ปีกตัวใหม่ของแมนฯยูไนเต็ด ทำชิ่งสั้นๆให้กับ ปาโบล ซาบาเลต้า บริเวณกลางสนาม ก่อนที่ ซาบาเลต้า จะจ่ายทะลุขึ้นหน้าให้กับ อังเคล ดิ มาเรีย สปีดพาบอลเข้าไปในกรอบเขตโทษด้านขวา ก่อนจะงัดบอลข้าม โรมัน ไวเดนเฟลเลอร์ ผู้รักษาประตูของเยอรมัน ที่ลงมาเป็นสำรอง เข้าประตูไปอย่สงสุดคลาสสิค ช่วยให้ อาร์เจนติน่า นำสุดกู่ 4-0
ถัดมาสองนาที อินทรีเหล็ก ไล่ขึ้นมาเป็น 1-4 เมื่อ มาร์โค รอยส์ โยนมาให้กับ อันเดร เชือร์เล่ ซัดด้วยซ้ายไปติดเซฟของ เซร์คิโอ โรเมโร่ นายทวารทีมชาติอาร์เจนติน่า บอลเด้งมาทาง อันเดร เชือร์เล่ แปซ้ำด้วยซ้ายบอลเบียดเสาเข้าไป
เขยิบมานาทีที่ 58 เยอรมัน ส่ง มาริโอ เกิตเซ่อ ฮีโร่ผู้สังหารประตูชัยในนัดชิงชนะเลิศฟุตบอลโลก 2014 ลงมาเล่นหน้าแทน มาริโอ โกเมซ พร้อมกับให้ โธมัส มุลเลอร์ ลงเล่นแทน อันเดร เชือร์เล่ คนทำประตูตีไข่แตกให้กับทีมในเกมนี้
นาที่ที่ 68 อาร์เจนฯ ถอด เอริค ลาเมล่า ออกมาพัก พร้อมกับส่ง เฟร์นานโด กาโก้ ลงมาช่วยเล่นเกมรับ อีกสามนาทีให้หลัง เยอรมัน ถอด โทนี่ โครส ออกมาพักแล้วให้ เซบาสเตียน รูดี้ ลงเล่นแทน
ข้ามมานาทีที่ 76 เจ้าบ้านมีโอกาสจากจังหวะที่ มาริโอ เกิตเซ่อ เปิดบอลให้กับ มาร์โค รอยส์ ปั่นด้วยขวาไปชนเสาออกมา ก่อนที่ เฟเดรีโก้ เฟร์นานเดซ จะสกัดทิ้งออกหลังไป
จากลูกเตะมุมในนาทีต่อมา บอลมาถึง ลูคัส โพดอลสกี้ พาบอลทะลุสุดเขตโทษด้านซ้ายก่อนเปิดติดขาของ โรเมโร่ เด้งมาเข้าทาง มาริโอ เกิตเซ่อ วอลเลย์ด้วยขวากลางกรอบเขตโทษบอลแฉลบโดนตัวของ เฟเดรีโก้ เฟร์นานเดซ กองหลังของทีมชาติอาร์เจนติน่า เข้าประตูไปให้ เยอรมัน ไล่มา 2-4
เวลาที่เหลือทั้งสองทีมทำอะไรกันเพิ่มไม่ได้อีก จบเกม อาร์เจนติน่า บุกมาถล่ม เยอรมัน ถึงถิ่น 4-2 ล้างตาจากความพ่ายแพ้ในฟุตบอลโลก 2014 นัดชิงชนะเลิศได้สำเร็จ
รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม
เยอรมัน: มานูเอล นอยเออร์ (โรมัน ไวเดนเฟลเลอร์ น.46) - เควิน โกรสส์ครอยท์ซ, มัทธีอัส กึนเทอร์, เบเนดิคท์ โฮเวเดส (อันโตนิโอ รือดิเกอร์ น.77), เอริค ดวร์ม - คริสตอฟ เครเมอร์, โทนี่ โครส (เซบาสเตียน รูดี้ น.71) - ยูเลี่ยน ดรั๊กซ์เลอร์ (ลูคัส โพดอลสกี้ น.33), อันเดร เชือร์เล่ (โธมัส มุลเลอร์ น.57), มาร์โค รอยส์ - มาริโอ โกเมซ (มาริโอ เกิตเซ่อ น.58)
สำรองไม่ได้ใช้: รอน-โรเบิร์ต ซีเลอร์ (ผู้รักษาประตู) - เยโรม บัวเต็ง, มัตส์ ฮุมเมิลส์
อาร์เจนตินา: เซร์คิโอ โรเมโร่ (มาเรียโน่ อันดูฮาร์ น.80) - ปาโบล ซาบาเลต้า (อูโก้ คัมปันญาโร่ น.77), เฟเดรีโก้ เฟร์นานเดซ, มาร์ติน เดมิเคลิส, มาร์กอส โรโฮ - ลูคัส บิเกลีย, ฮาเวียร์ มาสเคราโน่ (กัปตันทีม), เอ็นโซ เปเรซ (เอากุสโต้ เฟร์นานเดซ น.46) - อังเคล ดิ มาเรีย (ริคาร์โด้ อัลวาเรซ น.86), เซร์คิโอ อเกวโร่ "กุน" (นิโคลัส ไกตาน น.83), เอริค ลาเมล่า (เฟร์นานโด กาโก้ น.68)
สำรองไม่ได้ใช้: โฮเซ่ มาเรีย บาซานต้า, กอนซาโล่ อิกวาอีน, เอเซเกล ลาเวซซี่
ผู้ตัดสิน: บียอร์น ไคเปอร์ส (ฮอลแลนด์)
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
คู่มือไหม? เสือเตี้ยโวเมสซีเล่นให้ตนดีกว่าซาเบลลา
อดีตจอมทัพระดับตำนานของอาร์เจนไตน์ออกมาคุยโขมงว่า ตอนที่เขาคุมทีมฟ้าขาวอยู่นั้น สามารถดึงศักยภาพที่แท้จริงของสตาร์จากบาร์ซาออกมาได้มากกว่ากุนซือคน ปัจจุบันเสียอีกประวัติศาสตร์ยังไม่จบ! เลิฟคอนเฟิร์มคุมอินทรีเหล็กต่อยันยูโร 2016
บุนเดสเทรนเนอร์คนเก่งยืนยันว่าจะยังคุมทีมต่อไป เพื่อสร้างประวัติศาสตร์คว้าแชมป์ยุโรปที่ฝรั่งเศสมาครองให้ได้ในอีกสองปีข้างหน้าฉลองเกินเหตุ! เดเอฟเบเผยแข้งเบียร์นิรนามทำถ้วยบอลโลกแตก
ประธานเดเอฟเบสารภาพว่ามีหนึ่งในนักเตะทีมอินทรีเหล็กทำถ้วยเวิลด์คัพเสียหาย หลังฉลองแชมป์โลกสมัยที่สี่กันแบบสุดเหวี่ยงถึงเวลา!โคลเซ่ยันแขวนสตั๊ดหลังจบซีซั่น2014-15
มิโรสลาฟ โคลเซ่ หัวหอกจอมเก๋า ลาซิโอ ประกาศเจตนารมณ์อย่างชัดเจนว่าจะแขวนสตั๊ดหลังจบฤดูกาลใหม่นี้ โดยการตัดสินใจดังกล่าวจะทำให้เขาลงเล่นให้กับ "อินทรีฟ้าขาว" เป็นสโมสรสุดท้ายในฐานะนักเตะอาชีพ
TOP 5 ข่าวในรอบ 3 วัน
ฉลองวันเกิด!บาร์เซโลน่า จ่อขยายสัญญา ลามีน ยามาล เป็นสถิติใหม่
วิเคราะห์บอล เซลต้า พบ บาร์เซโลน่า วันเสาร์ที่ 23 พ.ย. 67
ผลบอล : เลเวอร์คูเซ่น โดน 2 รัวแซงสะเด่า, ดอร์ทมุนด์ ดุรัว 4 เม็ด
แมนซิตี้ พบ สเปอร์ส ! อีฟส์ บิสซูม่า ซิวใบเหลืองไวเป็นสถิติพรีเมียร์ลีก
ยังไม่ฟิต! บาร์เซโลน่า ไร้ ลามีน ยามาล ฟัด เซลต้า
อัลบั้มภาพเด็ดๆ
มาย ฮาเร็ม ส่งภาพเขย่าโซเชียล นุ...
เจนนี่ ธมนภัค พริตตี้สุดฮอต นุ่ง...
ฮาน่า ฮาอึน ชอง ดาว TikTok สาวสว...
นาฟ ฉัฐนันท์ ปล่อยแซ่บท้าลมหนาว ...
เต็มที่แล้ว! ไทย พ่าย อุซเบกิสถา...
ตัดเกรด นักเตะไทย เกมเสมอ โอมาน ...
คลิปไฮไลท์